7 ผู้ชายปากร้าย
กว่านภิสเดินทางมาถึงก็เกือบ 1 ทุ่ม แต่ยังมีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์หลงเหลืออยู่บ้าง บ้านหลังใหญ่รูปทรงทันสมัย รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย และไม้ดอกสีสวยปลูกแทรกแซมไปทุกมุมของพื้นที่ ซึ่งก็สร้างความสดชื่นให้ผู้ที่พบเห็น
“เชิญครับคุณนภิส บ้านหลังนี้ยินดีต้อนรับนักโภชนาการสาวครับ”
กระจงผายมือให้หญิงสาวที่ลงจากรถเรียบร้อยแล้ว และมองบ้านหลังสวยด้วยความตื่นตาตื่นใจ ก่อนเธอจะก้าวเข้าประตูที่เปิดกว้าง ทว่าหญิงวัย 52 ปี สวมเสื้อผ้าฝ้ายแขนสามส่วนสีครีมกับผ้าถุงลายตีนเชิงเดินออกมาแล้วส่งยิ้มให้
“สวัสดีค่ะคุณชื่อนภิสใช่ไหมคะ”
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อนภิส”
นภิสยกมือไหว้ป้าเจิมซึ่งเป็นแม่บ้าน โดยที่แกรับไหว้อย่างงงๆ
“อุ๊ย ! คุณนภิสขา ไม่ต้องไหว้ป้าก็ได้ค่ะ เชิญเข้ามาข้างในเถอะค่ะ ป้าจัดห้องไว้แล้ว อยู่ข้างบนค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ พี่กระจงคะ นภิสขอกระเป๋าเสื้อผ้าเถอะค่ะ”
หญิงสาวยื่นมือไปที่กระเป๋าเสื้อผ้าที่กระจงถือไว้ แต่หนุ่มหน้าเป็นไม่ให้ และเดินล้ำไปข้างหน้า ก่อนหันมายิ้มให้
“ไม่เป็นไรครับคุณนภิส ผมถือไปส่งถึงห้องนอนเลย เห็นใบเล็ก ๆ อย่างนี้แต่หนักเอาเรื่องเหมือนกันนะครับ เชิญ เชิญคุณนภิส”
“คุณนภิสขาตามเจ้ากระจงขึ้นไปข้างบนเลยค่ะ เอาของขึ้นไปเก็บในห้อง อาบน้ำอาบท่าแล้วลงมากินข้าวนะคะ ป้าเตรียมไว้แล้ว”
“ขอบคุณค่ะป้าเจิม”
หญิงสาวยกมือแม่บ้านใจอารีอีกครั้งแล้วเดินตามกระจงขึ้นไปข้างบนบ้าน เมื่อเห็นห้องเท่านั้นเธอถึงกับอ้าปากด้วยความตื่นเต้น
“ห้องสวยจังเลยค่ะ”
“แน่นอนครับ ห้องนี้สวยมากเพราะคุณอัคนีจัดเตรียมไว้สำหรับรับแขก”
“อุ๊ย ! ห้องดีแล้วก็สวยขนาดนี้ น่าจะเก็บไว้ไม่ควรให้นภิสนอนที่นี่เลย”
“คุณนภิสครับ นี่เป็นความต้องการของคุณอัคนีที่จะให้คุณนอนที่ห้องนี้ครับ เอ่อ เชิญครับคุณนภิส ผมขอลงไปข้างล่างก่อนนะครับ”
คนขับรถขอตัวลงไปข้างล่าง หลังจากวางกระเป๋าเสื้อผ้าลงกับพื้นเรียบร้อยแล้ว นภิสปิดประตูห้องแล้วมองไปรอบ ๆ ด้วยความดีใจ
“คุณอัคนีใจดีจริง ๆ ให้เราพักห้องสวยขนาดนี้ ฉันอยากเห็นคุณจังเลยค่ะ ว่าหน้าตาจะดีเหมือนความเมตตาที่มีให้ฉันไหม”
หญิงสาวทิ้งตัวลงนอนบนเตียงแล้วกลิ้งไปมาก่อนจะคว้าหมอนข้างกอดแนบอก แล้วหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข
นภิสยังคงชื่นชมกับความงามภายในห้องพัก โดยไม่รู้ว่าเธอพักอยู่ติดกับห้องของอัคนี หลังจากเธออาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็ลงมากินข้าวซึ่งป้าเจิมจัดเตรียมไว้บนโต๊ะ
“อาหารอร่อยทั้งนั้นเลยค่ะป้าเจิม”
หลังจากนภิสกินอาหารเรียบร้อยแล้วก็ชมถึงความอร่อยในรสมือป้าเจิม ซึ่งก็เห็นแกยิ้มหวานด้วยความดีใจ
“ขอบคุณค่ะ แต่ก็คงสู้คุณไม่ได้หรอกค่ะเพราะคุณเป็นถึงนักโภชนาการที่ทำอาหารหรือว่าขนมได้อร่อยกว่าป้าแน่ๆ ค่ะ”
“ไม่หรอกค่ะ ป้าเจิมฝีมือเยี่ยมมาก”
“อุ๊ย ! คุณนภิสน่ารักจริง ๆ ค่ะ เชิญตามสบายนะคะ”
“ป้าเจิมคะ นภิสขอถามนิดเดียว นิดเดียวจริง ๆ ค่ะ”
หญิงสาวก้มหน้ากระซิบเบา ๆ ราวกับกลัวว่าจะมีคนได้ยิน ป้าเจิมขมวดคิ้วโก่งด้วยความแปลกใจ แต่ก็จับมือเรียวบางด้วยความสนิทสนม
“คุณนภิสจะถามอะไรคะ ถ้าป้าตอบได้ก็จะตอบค่ะ”
“นภิสจะถามว่าคุณอัคนีกับครอบครัวไปไหนคะ”
“อ๋อ ! คุณอัคนีคงออกไปเดินเล่นค่ะ คงไปไม่ไกลหรอกค่ะ ส่วนน้องเกี่ยวก้อยเข้านอนแล้ว”
“นภิสรอเจอเขาดีไหมคะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณอัคนีสั่งป้าว่า ถ้าคุณนภิสมาถึงก็ให้กินข้าวแล้วพักผ่อนเลย พรุ่งนี้ค่อยเจอกันตอนเจ็ดโมงเช้าที่โต๊ะอาหาร ตัวนี้เลยค่ะ”
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นนภิสขอตัวเข้าไปพักผ่อนก็แล้วกัน สวัสดีค่ะป้าเจิม”
หญิงสาวยกมือไหว้ป้าเจิมด้วยความอ่อนน้อม ซึ่งแกรับไหว้แทบไม่ทัน และชื่นชมที่หญิงสาวมีมารยาทที่ดี ไม่เหมือนสาว ๆ อีกหลายคน เมื่อรู้ว่าแกเป็นแม่บ้านต่างพากันมองด้วยสายตาหยามหมิ่น
หลังจากนภิสกินข้าวแล้วก็เข้าไปในห้อง กลิ้งตัวบนเตียงไปมา แต่นอนไม่หลับจึงออกมายืนรับลมชมพระจันทร์ตรงระเบียงหน้าห้องนอน ความงามของรัตติกาลช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง
เธอสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มที่ รับอากาศบริสุทธิ์ด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข และนึกถึงรังรองไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นอย่างไร
ในช่วงเวลาแห่งความสุข เธอไม่รู้ว่าอัคนีซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้หน้าบ้าน เขาจ้องราวกับเสือร้ายหมายขย้ำเหยื่อ