17 ออกไปจากไร่ผม
“บอกตรง ๆ ก็ได้ ผมมาหาคุณนภิส ผมซื้อของกินที่ร้านคุณ รู้ว่ามีรูปแบบใหม่ๆ และมีสินค้าแปลกที่น่าสนใจ ที่สำคัญอร่อยมาก และรู้ว่าผู้ผลิตฝีมือดีก็คือคุณนภิสคนนี้”
“คุณก็คงไม่ทิ้งสันดานเดิมคืออยากได้ไปอยู่ด้วยงั้นเถอะ”
อัคนีถามอย่างรู้ทันว่าไตรภพมีนิสัยเห็นแก่ได้ ซึ่งก็ได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจดังสวนกลับมา
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถ้าผมต้องการอย่างนั้นจริง ๆ คุณยินดีที่จะปล่อยคุณนภิสให้ไปทำงานที่ไร่ผมไหมล่ะ”
“ไป ! คุณออกไปจากไร่ผมเดี๋ยวนี้เลยนะ แล้วอย่ามาเหยียบที่นี่อีก”
อัคนีชี้นิ้วไล่คนขี้โกงด้วยความโกรธ แต่ไตรภพกลับลอยหน้าลอยตายิ้มอย่างยียวนกวนประสาท ขณะนภิสกลัวจนตัวสั่น
เธอชิงชังอัคนีที่ไร้มารยาท หยาบคาย และสุดสถุล
“คุณนภิสดูไว้นะครับ นี่คือคนที่เป็นนายจ้างคุณ ไล่แขกได้ทุเรศที่สุด”
ไตรภพหันมาฟ้องหญิงสาวที่ยืนหน้าซีดใจสั่นเพราะทำอะไรไม่ถูก
“คุณไม่ใช่แขกผม คุณบุกรุกเข้ามา ผมสามารถแจ้งความจับคุณได้นะ ออกไปเลยที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ”
“ไม่ต้องไล่ผมหรอกครับคุณไฟ คุณนภิสถ้าคุณต้องการเพื่อน อย่าลืมว่ายังมีผมอีกคนที่ปรารถนาดีต่อคุณ”
“เอ่อค่ะ”
“ออกไปได้แล้ว”
อัคนีโกรธจนตัวสั่นเมื่อคู่แข่งทางการค้ายังคงแสดงไมตรีต่อลูกจ้างสาวสวย เขาจึงออกปากไล่อีกครั้ง ไตรภพมองด้วยสายตาแข็งกร้าวแล้วขึ้นรถขับออกไปด้วยความเร็ว
อัคนีมองตามจนลับสายตาก่อนหันมาจ้องนภิสที่ยืนตัวสั่นเพราะไม่เคยเห็นเขาโกรธอย่างนี้มาก่อน เขากระชากแขนเธอโดยไม่ทันตั้งตัวจนร่างบางเซปะทะกับอกกว้าง
“อุ๊ย ! คุณไฟ”
“ร้องทำไม”
“ฉันเจ็บค่ะ”
หญิงสาวพูดเสียงสั่นน้ำตาคลอ และสะบัดแขนเร่า ๆ ด้วยความเจ็บปวดเมื่อถูกบีบจนแน่น แต่คนไร้หัวใจกลับถลึงตาใส่
“เจ็บเหรอ ความจริงคุณไม่ควรออกมาพบหรือคุยกับไอ้คนอย่างนั้นด้วยซ้ำ”
“ทำไมคะ เขาทำอะไรผิด เขามาดี”
เธอเถียงบ้างเพราะรู้ว่าสิ่งที่อัคนีกระทำอยู่นั้นไม่สมควรอย่างยิ่ง
“เขาพูดดีด้วย คุณก็ว่าเขาเป็นคนดีแล้วหรือ”
“ค่ะ เขาไม่ได้ลากปืนมายิงฉันนี่”
“เฮอะ ! คนเลว มันไม่จำเป็นต้องแสดงออกมาอย่างโหด ๆ หรอกนะ แต่มันซ่อนความร้ายกาจเอาไว้จนคุณคาดไม่ถึง ผมบอกคุณว่าไอ้ไตรภพไม่ใช่คนดีอะไรเลย”
“นั่นเป็นเรื่องระหว่างคุณกับเขา ไม่เกี่ยวกับฉันค่ะ”
เธอเถียงด้วยเสียงดัง จากที่เคยกลัวเวลานี้สลัดความรู้สึกดังกล่าวออกไปเมื่อเห็นว่าเขาไร้ความปรานี และหยาบคาย
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ถ้ามันหาโอกาสมาหาคุณบ่อย ๆ มันก็คงหาทางที่จะดึงคุณไปหรือขอสูตรลับในการทำสินค้าขาย มันคือคู่แข่งตัวร้าย นิสัยขี้โกง”
“ปล่อยค่ะ ฉันเจ็บ”
“เรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง ผมจะบอกให้คุณรู้ว่านอกจากไตรภพจะขี้โกง เห็นแก่ตัวแล้ว ยังเจ้าชู้ เพลย์บอยใช้ผู้หญิงเปลือง ระวังตัวให้ดีก็แล้วกัน”
“คุณเห็นฉันเป็นผู้หญิงง่ายอย่างนั้นหรือ”
“เรื่องนั้นผมไม่รู้หรอก แค่เตือนไว้เท่านั้น อย่าอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้เด็ดขาด”
หญิงสาวสะบัดแขนเต็มแรงกระทั่งหลุดออก เธอมองรอยแดงเป็นจ้ำจากแรงบีบด้วยอารมณ์โกรธจากผู้ชายร่างใหญ่ที่ยังคงจ้องด้วยสายตาแข็งกร้าว
“คนเรามีสิทธิส่วนตัวจะทำอะไรก็ได้”
“คุณไม่เชื่อผมใช่ไหม ถึงคุณจะมีความสามารถ ผมก็ไม่ไว้หรอก”
“ได้ ฉันขอลาออก”
“หึ หึ จะไปอยู่กับไอ้บ้าไตรภพนั่นใช่ไหม เสียใจด้วย คุณคงลืมไปแล้วมั้งว่า สัญญาการว่าจ้างบอกว่าคุณต้องทำงานที่นี่จนครบหนึ่งปี ไม่เช่นนั้นคุณจะโดนปรับเป็นเงินห้าแสนบาท”
“โอ คุณร้ายกาจมาก ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนอย่างนี้ ฉันดูคุณผิดจริง ๆ”
หญิงสาวร้องไห้คร่ำครวญ ยกมือปาดน้ำตาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาหาได้สนใจแต่อย่างใด นอกจากมองด้วยสายตาชิงชัง
“อย่าคิดนะว่าน้ำตาจะทำให้ผมใจอ่อน คนอย่างผมพูดจริงทำจริง และตอนนี้หมดเวลาเศร้าแล้ว คุณต้องทำพายข้าวโพดเพิ่มอีกสองร้อยชิ้น ต้องเสร็จก่อนห้าโมงเย็น”
หญิงสาวชะงัก ยกมือปาดน้ำตาจนแห้งเหือดเมื่อรู้ว่ามีงานที่ต้องรออยู่ข้างหน้า ซึ่งหนักสำหรับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แม้จะมีผู้ช่วยก็ตาม