15 อัคนีกลั่นแกล้งอย่างไร้เหตุผล 2
ทางด้านนภิสวัน ๆ ยุ่งอยู่แต่ในห้องทำงานกับในครัว เธอทำงานจนแทบไม่เห็นเดือนไม่เห็นตะวัน ซึ่งไม่ร้ายเท่ากับการที่รองรับอารมณ์ร้าย ๆ จากอัคนีที่มีอาการเหมือนผู้หญิงอยู่ในวัยใกล้หมดประจำเดือน คืออารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
“คุณนภิส”
หญิงสาวสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงอัคนีเรียก เธอหวาดกลัวราวกับว่าเป็นเสียงจากพญามัจจุราชที่พรากชีวิตมนุษย์แล้วพาดวงวิญญาณไปลงนรก
“คะ คุณไฟ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ออกมาคุยกับผมที่ห้องทำงานได้ไหม”
เขายังคงตะโกนเสียงดังเข้ามาในครัว ป้าเจิมกับลูกมือสองคนทำหน้าไม่ค่อยดีเพราะกลัวหญิงสาวจะถูกตำหนิ
“รีบไปเถอะค่ะคุณนภิส เดี๋ยวคุณไฟไม่พอใจ คุณอาจจะถูกดุได้นะคะ”
“ค่ะ ป้าเจิม ฝากดูขนมที่อบไว้ด้วยนะคะ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ แค่นี้เอง อ้าว พวกเอ็งช่วยกันเอาไข่แดงทาตะกร้าแป้งพายสิ เราจะได้เอาเข้าเตาอบเป็นลอตที่สอง”
ป้าเจิมเตือนสามสาวซึ่งเป็นผู้ช่วยสวมชุดสีขาวกับหมวกทรงสูงเหมือนกุ๊กในโรงแรมชั้นนำ
นภิสเดินตัวลีบ ๆ เข้ามาในห้องทำงานของอัคนี และนั่งตรงหน้า จับมือทั้งสองข้างเข้าหากันแน่น
“คุณไฟมีอะไรคะ”
หญิงสาวถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เขาเลื่อนจานใส่มัฟฟินข้าวโพดไปตรงหน้า และจ้องตาเธอเขม็ง
“นี่อะไร”
“เอ่อ มัฟฟินข้าวโพดค่ะ”
“ผมเอาสินค้าตัวนี้ไปวางขายที่ร้าน ผลตอบรับออกมาเป็นยังไงรู้ไหม”
หญิงสาวใจเต้นแรง ไม่อยากได้ยินสิ่งที่เขาพูดต่อเพราะกลัวสะเทือนความรู้สึก ถ้าหากว่าไม่ใช่เรื่องดี เธอคงโดนตำหนิอีกเหมือนเคย
“เอ่อ เป็นยังไงคะ ลูกค้ามีความคิดเห็นแบบไหน”
“เขาบอกว่าอร่อย ขอให้ผลิตเยอะ ๆ”
คราวนี้นภิสยิ้มออกมาได้ อุทานเสียงดังด้วยความดีใจ
“ห๊า ! จริงหรือคะ”
“จริงสิ ผมจะโกหกคุณทำไม สินค้าหลายอย่างกำลังได้รับความนิยม ลูกค้า นักท่องเที่ยวซื้อเป็นของฝาก บางรายมีออร์เดอร์ให้ส่งทางไปทางรถตู้ด้วยซ้ำ”
ไม่มีสิ่งไหนที่สร้างความสุขให้แก่นภิสอีกแล้ว เธอยิ้มกว้าง ดวงตาทอประกายอย่างมีความสุข เมื่อรู้ว่าสิ่งที่เธอผลิตออกไปกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด
“อย่างนี้เราก็ต้องเพิ่มการผลิตสิคะ”
“ก็แล้วแต่ลูกค้า ถ้ามียอดเพิ่มผมจะบอกคุณเอง ขอบใจนะที่ทำให้ร้านผมได้รับความนิยม เดือนหน้าผมจะเพิ่มเงินพิเศษให้คุณ”
นภิสอ้าปากค้างอีกครั้ง เมื่อรับรู้ว่าเจ้านายหน้าตายจะเพิ่มเงินให้ ซึ่งก็หมายความว่าเธอทำงานเป็นที่ถูกใจ
“ขอบคุณค่ะ ฉันจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด”
หญิงสาวยกมือไหว้แล้วเผลอปาดนิ้วที่เลอะแป้งผ่านปลายจมูก อัคนีขมวดคิ้วเข้มมองครู่หนึ่ง และหยิบกระดาษทิชชู ยื่นไปใกล้ ๆ เธอผงะนั่งตัวแข็งเพราะไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร
“นั่งนิ่งๆ อย่าขยับ”
“มีอะไรหรือคะ”
“บอกให้อยู่เฉย ๆ แป้งเปื้อนจมูกคุณ ผมจะเช็ดให้”
หญิงสาวใจเต้นแรงเมื่อเขาค่อย ๆ เช็ดปลายจมูกเธออย่างเบามือ และสบตาเธอนิ่งนาน เธอเห็นถึงความอ่อนโยนที่ซ่อนอยู่ในดวงตาสีน้ำตาลเข้ม
“เอ่อ ขอบคุณค่ะ”
หลังจากสบตากันครู่หนึ่งจนร้อนผ่าวไปทั้งตัว เธอจึงขอบคุณเขาด้วยเสียงตะกุกตะกัก ชายหนุ่มสะดุ้งนั่งตัวตรง
“ไม่มีอะไรแล้ว คุณกลับไปได้”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวถอยออกมาด้วยอาการหวาด ๆ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อได้ยินคำสั่งด้วยเสียงที่กร้าวขึ้น เธอมองด้วยความแปลกใจ
เกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาเปลี่ยนอารมณ์ได้รวดเร็ว จากที่ดี ๆ อยู่เมื่อครู่ กลับเปลี่ยนเป็นไม่พอใจ มองเธอด้วยสายตาวาววับ
“อย่าทำพลาด ไม่อย่างนั้นผมจะตัดเงินเดือนคุณ”
นภิสสะดุ้งและเดินตัวลีบออกไปจากห้องทำงานเมื่อได้ยินเสียงเขาสำทับให้หวาดหวั่น เธอรู้ว่าจะต้องไปจากผู้ชายคนนี้ให้เร็วที่สุด ชีวิตอาจจะไม่ปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้กับเขา
ขณะที่อัคนีเฝ้าถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาถึงหวั่นไหวเมื่ออยู่ใกล้กับน้องสาวของผู้หญิงคนที่เขาเกลียดสุดชีวิต