3.คนสำคัญ
ตอนที่ 3.คนสำคัญ
-ในรถ-
“อีกสามวัน โรสจะกลับออสแล้วนะคะกันต์” น้ำเสียงหวานเอ่ยบอกเขาในขณะที่รถหรูเคลื่อนเข้ามาจอดบริเวณชั้นจอดรถของบริษัท
การันต์ที่ได้ยินดังนั้นก็นิ่งไป ถึงเวลาที่เธอต้องกลับไปหาตัวจริงของเธอแล้วสินะ
“ครับ” น้ำเสียงเฉยชาของอีกคนทำเอาโรสใจแป้ว
ตอนนี้การันต์ไม่รู้เลย ว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่มันดีหรือเปล่า แม้รู้ว่าไม่ถูกต้อง การที่เขาไปไหนมาไหนกับโรสเหมือนเดิม ราวกับว่าเธอยังไม่มีสามี แต่ในใจของเขามันก็ร่ำร้องหาแต่เธอ โชคดีที่ร่างสูงสามารถหักห้ามใจตัวเองได้ โดยไม่มีความสัมพันธ์ทางกายมาเกี่ยวข้อง แม้รู้ว่าสถานะที่ตัวเองเป็นอยู่มันไม่ต่างอะไรกับมือที่สาม แต่เพราะเขารักเธอและคำอ้อนวอนของเธอ ทำให้ประธานหนุ่มยังคงรอ
“กันต์ ไปส่งโรสหน่อยนะคะ อีกนานเลยกว่าเราจะได้เจอกันอีก” โรสซุกหัวลงไปบนอกแกร่ง การันต์เมื่อเห็นท่าทีแบบนั้น เขาก็ไม่สามารถกปฎิเสธเธอได้เลยสักครั้ง
“อื้ม บินกี่โมง เดี๋ยวกันต์ไปส่ง”
“เย้~ กันต์ใจดีที่สุดเลยค่ะ โรสบิน 11 โมงค่ะ เดี๋ยวจะรออยู่ที่คอนโดนะ”
จุ๊บ~
ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงสด เคลื่อนมาจุ๊บแก้มหนาอย่างเอาใจ การันต์ก็ได้แต่นั่งนิ่ง ยอมให้อดีตแฟนทำทุกอย่างตามที่เธอต้องการ
หลายนาทีต่อมา……
“สวัสดีค่ะคุณกันต์” เจนนิสก้มหัวทักทายเจ้านายอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังจะเดินเข้าห้องทำงาน
“ครับ วันพุธฉันมีตารางงานอะไรที่สำคัญบ้างไหม” ประธานหนุ่มหยุดอยู่หน้าโต๊ะของเลขาสาว ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามเธอ
“คะ? ออ้อวันพุธเหรอคะ เดี๋ยวเจนดูให้นะคะคุณกันต์” เจนนิสเด้งตัวลุกขึ้นยืน รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยที่ได้คุยกับเขาระยะประชิดเป็นครั้งแรก เธอแทบจะไม่กล้าสบตากับเขาเสียด้วยซ้ำ
“วันพุธช่วงเช้าคุณกันต์มีนัดคุยธุระกับลูกค้าค่ะ ส่วนตอนบ่าย ไม่มีอะไรนะคะ”
“ฉันอยากเลื่อนนัดคุยกับลูกค้าไปตอนบ่าย เธอช่วยจัดการให้ด้วยนะ” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยบอก เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เลขาสวยเงยหน้าขึ้นไปมองเขา
“ค่ะคุณกันต์ เอ่อ…”
ใบหน้าสวยชะงักไปเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าบนแก้มสากของการันต์มีรอยลิปสติกสีแดงติดอยู่ ไม่ต้องให้เธอเดาก็รู้อยู่แล้วว่าเจ้าของลิปสติกนั้นเป็นใคร
ท่าทางอึออักของหญิงสาวตรงหน้าทำให้การันต์รู้สึกแปลกใจ
“มีอะไรหรือเปล่า?”
“คะคือว่า….มีลิปสติกเปื้อนแก้มคุณกันอยู่น่ะค่ะ”
คำบอกเล่าของเลขาสาวทำเอาประธานหนุ่มชะงักไปเหมือนกัน มือหนายกขึ้นมาลูบแก้มของตัวเองเบาๆ หวังลบรอยนั่น แต่ดูเหมือนเขาจะรีบไปจนลบผิดฝั่ง
“ฝั่งนี้ค่ะ เดี๋ยวเจนช่วยดีกว่า ขออนุญาตนะคะ” เธอบอก ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบทิชชู่บนโต๊ะทำงานขึ้นมาเช็ดแก้มให้เขา
การันต์นิ่งงันไปชั่วขณะ เขาเผลอมองใบหน้าของเจนนิสใกล้ๆ จับหวะนั้นเองที่ทำให้ประธานหนุ่มเห็นว่าเธอมีหน้าตาที่จิ้มลิ้มเพียงใด ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยสนใจในหน้าตาหรือรูปร่างของเลขาคนใหม่เลยแม้แต่น้อย พอได้มาเห็นความสวยของเธอในระยะประชิด เขาถึงรับรู้ว่าเธอมีใบหน้าที่งดงามราวกับดารานางแบบ
พรึ่บ พรึ่บ~
“เสร็จแล้วค่ะคุณกันต์ :)” เจนนิสผละหน้าออกจากประธานหนุ่ม ก่อนที่เธอจะคลี่ยิ้มส่งไปให้เขา การันต์จึงได้สติ
“ขอบคุณ เชิญทำงานต่อเถอะ ฉันไม่กวนแล้ว”
ตึก ตึก
ว่าจบร่างหนาก็สาวเท้าหายเข้าไปในห้อง ด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเช่นเคย ไม่มีใครรู้ถึงความคิดเเละความเจ็บปวดของเขาที่ถูกซ่อนเอาไว้ด้านใน เพราะต่อหน้าคนอื่น เขาคือประธานหนุ่มที่เพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบ
สามวันต่อมา…..
การทำงานของเจนนิสผ่านไปได้ด้วยดี การันต์ใจดีมากกว่าที่เธอคิดเสียด้วยซ้ำ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอคงทำงานกับเขาได้ต่อยาวๆ เพราะการันต์เป็นคนที่ไม่จู้จี้จุกจิกหรือเรื่องมาก ในขณะเดียวกันเจนนิสก็พยายามทำหน้าที่ของตัวเองออกมาให้ดีที่สุด
“น้องเจน…..มีเอกสารมาให้ท่านประธานเซ็นจ้า” เสียงกรองแก้วดังมาแต่ไกล ทำให้เจนนิสที่กำลังจ้องจอคอมอยู่รีบหันไปมอง
“เอกสารด่วนไหมคะพี่แก้ว พอดีวันนี้คุณกันต์จะเข้ามาตอนบ่ายค่ะ” เธอรายงานไปตามความจริง วันนี้การันต์ขอหยุดในช่วงเช้าและเลื่อนทุกอย่างไปทำตอนบ่าย
“อ้าว จริงเหรอจ้ะ ปกติท่านประธานหยุดเสาร์-อาทิตย์นี่นา ทำไมจู่ๆถึงมาหยุดวันพุธล่ะ”
“เอ๊ะ หรือว่าเรื่องที่พนักงานเม้ากันก่อนหน้านี้จะเป็นเรื่องจริง” เสียงกรองแก้วบ่นพึมพัมขึ้นมา ส่งผลให้เจนนิสหันไปสนใจ
“เรื่องอะไรเหรอคะพี่แก้ว”
“ก็เรื่องที่ยัยคุณโรสจะกลับไปหาสามีวันนี้น่ะสิ คงให้คุณกันต์ไปส่งที่สนามบินเหมือนเดิมนั่นแหละ คุณกันต์นะคุณกันต์ ผู้หญิงมีเยอะเเยะทำไมต้องสนใจผู้หญิงแบบนั้นด้วยก็ไม่รู้” กรองแก้วเอ่ยขึ้นมาอย่างเจ็บใจ พนักงานหลายคนที่รู้เรื่องนี้ ไม่มีใครชอบโรสเลยสักคน เพราะผู้หญิงคนน้้นดูเห็นแก่ตัวเกินไป
ไม่เหมาะสมกับการันต์เลยสักนิด!
เจนนิสได้ยินแบบนั้นก็นิ่งเงียบไป เหตุการณ์หลายวันก่อนหน้าที่โรสเข้ามาที่นี่ทำให้เธอมั่นใจได้ในทันที ว่าการันต์คงไปส่งผู้หญิงคนนั้นจริงๆ โรสคงสำคัญกับเขามาก ถึงขนาดบอกให้เธอเลื่อนนัดลูกค้าเพื่อไปส่งเธอ ทั้งๆที่ไม่ควรจะรู้สึกแบบนี้ แต่ทำไมหัวใจของเจนนิสกลับรู้สึกวูบไหวขึ้นมาเสียได้
เธออาจจะแค่สงสารการันต์ละมั้ง
“พี่แก้วฝากเอกสารไว้ก่อนไหมคะ เดี๋ยวถ้าคุณกันต์กลับมาเซ็น เจนจะเอาลงไปให้มีหลัง” เจนนิสเลือกที่จะถามเรื่องงานแทน เรื่องของเจ้านาย เธอไม่อยากเข้าไปยุ่งเท่าไหร่
“โอ๊ะ ดีเลยจ้า งั้นพี่ฝากหน่อยนะ”
“ค่ะ ^^”
-สามชั่วโมงผ่านไป-
การันต์เข้ามาทำงานในช่วงบ่ายด้วยเสื้อผ้าที่ดูสบายมากกว่าทุกวัน แม้สีหน้าของเขาจะราบเรียบดังเดิม แต่เจนนิสกลับจับสังเกตุได้ว่าเจ้านายหนุ่มของเธอดูมีสีหน้าหม่นหมองลงมากกว่าทุกครั้ง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เชิญ”
เมื่อได้รับอนุญาติ เลขาสาวจึงเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับเเฟ้มเอกสารที่ต้องให้เขาเซ็น
“มีเอกสารมาให้เซ็นค่ะ จากฝ่ายบุคคล”
“วางไว้บนโต๊ะเลยครับ” เขาตอบเธอแบบไม่มองหน้า สีหน้าคร่ำเครียดจ้องมองไปยังเอกสารตรงหน้าไม่วางตา
“ค่ะ”
“อีกประมาณ ครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลานัดนะคะ” เธอรายงานเขาตามหน้าที่
“อืม”
เมื่อเสร็จสิ้นการพูดคุย เจนนิสจึงเดินออกมาจากห้องทำงานของเขา ลึกๆในใจเธออดเป็นห่วงการันต์ไม่ได้จริงๆ เขาดูเหมือนคนคิดมากอยู่ตลอดเวลา แต่เธอเป็นแค่เลขานะจะทำอะไรได้ นอกจากมองดูอยู่ห่างๆ
ครืด~
เสียงโทรศัพท์เครื่องสีแดงของตัวเองดังขึ้น เจนนิสจึงไม่รอช้าที่จะกดรับสาย เมื่อเห็นว่าเพื่อนของตัวเองโทรเข้ามา
‘ลูกน้ำ’
“ฮัลโหล โทรมาทำไมตอนนี้”
( ก็ฉันเพิ่งว่างนี่ รับสายได้ก็วีนเลยนะ ) ปลายสายตอบกลับมาเพราะรู้ทันในนิสัยของเพื่อน
“แล้วโทรมามีอะไรคะ คุณลูกน้ำ” เจนนิสเอ่ยถามเพื่อนสนิท ที่ช่วงหลังๆไม่ค่อยได้เจอกันเท่าแต่ก่อน
( พรุ่งนี้ฉันหยุด คืนนี้ไปดื่มกันปะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง โบนัสออกอย่างเยอะ )
“จริงเหรอ…ถ้าแกเลี้ยงฉันไป!!” หญิงสาวตอบกลับอย่างไม่คิด ช่วงนี้เธอไม่ค่อยได้ไปปลดปล่อยเหมือนกัน เอาแต่ทำงาน ไหนๆก็มีคนเลี้ยงแล้วจะเสียเวลาปฎิเสธไปทำไม
( ฮ่าๆๆ แกนี่นะ ไวตลอด ไว้ฉันทักหานะ )
“โอเคๆ ฉันจะทำงานต่อละ”
( อะเช )
วางสายเสร็จ เจนนิสก็มานั่งงมกับเอกสารตรงหน้าต่อ โชคดีที่เธอเรียนเอกอังกฤษมา คำศัพท์ยากๆในรายงานจึงพอที่จะทำความเข้าใจได้ บริษัทนี้โหดเหมือนกันนะ เธอต้องแข่งขันกับคนเกือบๆยี่สิบคนกว่าจะได้มาเป็นเลขาให้กับการันต์