บทที่ 19 เปิดเผย
“ถ้าเจ้าอยากรู้ก็ไปถามเอาเอง ข้าจะบอกเขาดีหรือไม่ว่า เจ้าอยากรู้เรื่องของพวกเขา”
นากิบยิ้มบางขณะตอบโต้กับอัลคอนซา เขาไม่โกรธหล่อนและนึกขอบคุณหล่อนที่ช่วยชีวิตก๊อดดาธไว้ น่าแปลก ก๊อดดาธช่วยหล่อน ไม่กี่วินาที หล่อนช่วยก๊อดดาธและหล่อนไม่ให้คนแปลกหน้าถูกตัวก๊อดดาธ หล่อนเป็นห่วงก๊อดดาธได้อย่างไร ในเมื่อหล่อนโกรธ เกลียด พยายามหาความผิดให้ก๊อดดาธและนากิบกระเด็นออกจากกองคาราวาน
“เจ้าอย่ามาทำเป็นพูดดี คิดหรือว่าข้าจะไม่จับผิดพวกเขา”
หล่อนขึ้นหลังม้าพาม้าเดินห่างออกไป นากิบยิ้มบาง ยังไม่ถึงเวลาที่หล่อนจะได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด
ก๊อดดาธหลับไปนาน คนทำแผลเจตนาให้เขาหลับด้วยตัวยาที่เตรียมมา หากพวกเขาจะชิงตัวก๊อดดาธขึ้นหลังม้าพากลับสู่พระราชวังก็ไม่ใช่เรื่องยาก หากพวกเขาจำยอมทำตามรับสั่งขององค์ชาย พระองค์จะไม่ไปไหนทั้งนั้น พระองค์จะอยู่กับท่านปู่ซึ่งอัสลามุยะและหลานของเขาพร้อมปกป้ององค์ชายก๊อดดาธด้วยชีวิต นี่แหละที่พวกเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากคอยคุ้มกันจนถึงจุดรับส่งสินค้า
“ท่านหัวหน้าเผ่า จากนี้จะไปไหนต่อ ข้าอยากดูแลพวกท่าน”
แชวูรอคนของพ่อค้า ต้อนแกะไปหมดแล้วจึงเข้ามาหาอัสลามุยะซึ่งผู้ชรารอพบเขาอยู่ อัสลามุยะอยากรู้เรื่ององค์ชายจากปากหัวหน้าเทพบุตร อยากรู้ความจริงว่าเป็นเช่นไร
“เชิญท่านนั่งก่อน ดื่มชากับข้าสักถ้วยไหม”
เสียงเชิญเนิบ ดวงตาไม่มองหน้าแขกที่กำลังก้าวมายืนตรงหน้าเขา แชวูพิจารณาลักษณะกิริยาของหัวหน้าเผ่า ก่อนจะทรุดนั่งตามคำเชิญ
“ข้าอยากคุยกับท่าน คุยกันสองคนเท่านั้น ข้าให้หลานข้ากับคนอื่น ๆ อยู่รอบนอก คืนนี้เราพักที่นี่ พรุ่งนี้คนงานเขาจะเที่ยวซื้อของในเมืองกัน กว่าจะออกเดินทางกลับก็เป็นวันมะรืน ท่านอย่าลำบากไปส่งพวกข้าเลย ขอให้พวกท่านกลับเสียเถอะ”
“ท่านหัวหน้า ข้าต้องการตัวคนงานสองคนกลับเข้าเมือง พวกเขาไม่ควรอยู่ที่นี่ ท่านรู้หรือเปล่าว่าพวกเขาเป็นใคร” แชวู จ้องหน้าอัสลามุยะ จับพิรุธจากสีหน้าของผู้อาวุโสแต่เขาไม่เห็นพิรุธอะไรจากใบหน้ากร้านโลก นอกจากความเรียบ สุขุม น่าเกรงขาม ผู้ชายคนนี้เหมาะสมกับการเป็นผู้นำ
“ท่านคิดว่าข้ารู้จักพวกเขาหรือไม่ล่ะ รู้จักมากพอจะปกป้องเขาหรือไม่ หากท่านจะนำตัวพวกเขาไปลงโทษ ข้าให้พวกเขาไปกับท่านไม่ได้ อีกอย่าง ด๊าธบอกเองว่าจะไม่ไปไหนกับใคร เขาต้องการอยู่กับข้า ท่านไม่ได้ยินรึ ท่านกับพวกกลับไปเสียเถอะ ข้าขอร้อง”
“แต่ข้าไม่ไว้ใจโจรพวกนั้น มันต้องการชีวิตคนงานสองคนของท่าน ถ้าพวกข้ามาช้านิดเดียว มันคงทำสำเร็จตามคำสั่งของนายมัน”
“นายมันคือใคร” ผู้สูงวัยสบตาสีเข้มของแชวู ความลับของคนงานใหม่ยังมีสิ่งที่เขาไม่รู้อีกมากมาย ก๊อดดาธเล่าไม่หมด เขารู้ดี หัวหน้าเทพบุตรผู้นี้จะเป็นผู้ถ่ายทอดความลับนั้นให้กับเขา
“ถึงข้าจะบอกท่าน ท่านก็ไม่รู้จัก ท่านบอกข้ามาเถอะว่ารู้จักคนงานสองคนนั่นดีแค่ไหน” แชวูไม่หลงกลผู้ชรา เขาเป็นฝ่ายย้อนถามอัสลามุยะ
“ท่านถามใจท่านดูว่าข้ารู้จักเขาสองคนดีแค่ไหน มากแค่ไหน คำตอบของข้าคือคำตอบจากใจของท่าน เชิญท่านดื่มชาก่อนค่อยจากไป”
อัสลามุยะรินน้ำชาในกาดินเผาใส่ถ้วยดินเผาส่งให้แชวู นายทหารหนุ่มรับถ้วยชามาดมกลิ่นกรุ่น กลิ่นชาหอมละมุนต่างจากชาในวังที่เขาเคยดื่มเป็นประจำ
“ชาอะไรหรือท่าน หอมมาก”
“หญ้าพื้นเมืองไว้สำหรับเลี้ยงแกะ ดื่มได้หรือเปล่า” คำตอบเรียบ ๆ เรื่อย ๆ แต่คนฟังถึงกับนิ่ง หญ้าเลี้ยงแกะนำมาทำเป็นชาหอมน่าดื่มมากถึงเพียงนี้ แชวูเริ่มสนใจวิถีของชนเผ่ากลุ่มน้อยนี่เสียแล้ว
ก๊อดดาธกับนากิบ มาพบคนกลุ่มนี้ได้อย่างไร ใครเป็นคนพามาหรือนากิบรู้จักอัสลามุยะมาก่อนหรือเป็นโชคชะตาขององค์ชายน้อย โชคชะตาให้มาเจอหัวหน้าเผ่าผู้ใจดี
“ขอบคุณท่านหัวหน้า สำหรับชารสชาติเยี่ยมถ้วยนี้แต่ไม่ใช่เป็นการจากไป ข้าจะยังไม่ไปจนกว่าคนงานของท่านจะยอมไปกับข้า”
“ข้าคิดว่าท่านได้ยินด๊าธบอกกับท่านแล้วมิใช่หรือ” อัสลามุยะจ้องหน้าแขกพิเศษ แขกผู้นี้ยังไม่ยอมเปิดผ้าโพกศีรษะปิดหน้าผากปิดปากออก มีดวงตาสีเข้มที่สบกับผู้สูงวัย
“ข้าได้ยิน ท่านเองก็ยังไม่ตอบข้าว่ารู้อะไรมาบ้าง” แชวูสบตาหัวหน้าเผ่าผู้เฉลียวฉลาด สุขุม เยือกเย็น ไม่มีสิ่งใดมาบั่นทอนความมุ่งมั่นของเขาได้ เข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว นายทหารหนุ่มสบายใจมากกว่าเดิม ชายผู้นี้ไม่เป็นอันตรายต่อองค์ชายน้อยของเขา
“หากท่านอยากรู้ว่าข้ารู้อะไร ท่านจงเปิดหน้าเถิดแล้วข้าจะเล่าให้ท่านฟัง”
ผู้อาวุโสยิ้มบาง ดวงตาที่เขาสบอยู่ไหววับแต่เป็นไปในทางยินดีมากกว่าโกรธเคือง แชวูยอมแพ้หัวหน้าเผ่า เขาแก้ผ้าพันรอบศีรษะออก เผยให้เห็นใบหน้าเข้ม เกลี้ยงเกลา หนวดเคราเขียวครึ้ม ริมฝีปากชมพูระเรื่อ เพิ่มเสน่ห์ให้หน้านั้นสะดุดตาต่อเพศสตรีทีเดียว
“ท่านต่อรองสำเร็จท่านหัวหน้าเผ่า” แชวูยิ้มไม่ใช่อย่างผู้แพ้แต่เพราะมั่นใจว่าอัสลามุยะไม่เป็นภัยต่อพวกเขา
“ข้าไม่แปลกใจเลย หัวหน้าเทพบุตรหน้าตาราวเทพบุตรจริง ๆ และคนงานสองคนของข้าก็เช่นกันโดยเฉพาะด๊าธ เขาคือเทพบุตรตัวจริงใช่หรือไม่ท่าน... ข้าจะเรียกท่านว่าหัวหน้าเทพบุตรแค่นั้นรึ” อัสลามุยะยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบ ดวงตาหลุบลงมองถ้วย กริยาไม่รีบร้อน รอยยิ้มใต้เครายาวเพิ่มให้ใบหน้าสีเข้มนั้นน่าเกรงมากยิ่งขึ้น
“ท่านคิดว่าข้าเจ้าเล่ห์ อยากเห็นหน้าท่าน อยากรู้จักชื่อท่านงั้นสิ ใช่ ถูกต้อง ข้าอยากรู้จักพวกท่านทุกคนว่าเป็นใคร มีเจตนาอะไรที่มาช่วยพวกข้า” ผู้สูงวัยหยุดนิดหนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อ
“เอาละ ข้าจะบอกชื่อข้ากับเจ้าก่อนก็แล้วกัน ข้าชื่อ อัสลามุยะ เป็นหัวหน้าเผ่าเล็ก ๆ กลุ่มนี้ จะเรียกว่าชนเผ่ากลุ่มน้อยก็ได้ ข้ามีหลานสองคน ผู้ชายชื่อเดเมียน ผู้หญิงชื่ออัลคอนซา ลูกชายข้ากับลูกสะใภ้ถูกโจรปล้นกองคาราวานฆ่าตายไปนานแล้ว”
“โจรที่ไม่หมายเอาชีวิตใครคนใดคนหนึ่งเช่นวันนี้” แชวูตกใจกับคำบอกเล่าเรื่องโจร
“ใช่ พวกมันเป็นโจรจริง ๆ เอาเงินทองไปหมด ใครขัดขวางมันฆ่าทุกคน”
“โอ.” แชวูสงสารชนเผ่ากลุ่มน้อยที่เขาเพิ่งรู้จักหัวหน้าเมื่อไม่กี่นาที
“ข้าชื่อแชวู คนที่อยู่ด้านขวาข้าชื่อจามิล ด้านซ้ายชื่อบาซิล คนที่รักษาแผลให้ลูกน้องของท่านชื่ออิมานเป็นหมอ พวกเราเป็นทหารองครักษ์ สิ่งที่ข้าต้องการคือ นำตัวคนงานสองคนของท่านไปกับข้า แค่นั้นเอง ข้าไม่ต้องการอะไรจากกองคาราวานของท่านเลย”
“เขาทำผิดอะไร” อัสลามุยะยังจ้องหน้าแชวู ดวงตานิ่งขณะถาม
“เปล่า ข้าต้องถามท่านว่ารู้อะไรเกี่ยวกับคนงานสองคนของท่านบ้าง ข้าเปิดเผยทั้งหน้าตา ชื่อ รวมทั้งงานที่ข้าทำแล้ว ท่านยังไม่ไว้ใจข้าอีกรึ” แชวูจ้องหน้าผู้อาวุโส