บทที่ 2 ข้าชอบเงิน
บทที่ 2 ข้าชอบเงิน
ฟางซูลี่หันไปมองตามเสียง ก่อนจะพบกับแม่เลี้ยงของนางและฟางซูซินที่จ้องมองนางด้วยสายตาที่เกลียดชัง
ฟางซูลี่ยกมือขึ้นปิดปาก ก่อนจะส่งเสียงไอออกมาอย่างหนัก ราวกับสตรีขี้โรคก็ไม่ปาน ฟางซูซินที่ได้เห็นเช่นนั้น ก็ยิ่งหมั่นไส้น้องสาวต่างมารดาผู้นี้มากขึ้นไปอีก
"คารวะท่านแม่ คารวะพี่หญิงเจ้าค่ะ"
ฟางซูลี่ย่อกายคำนับอย่างนอบน้อม ใบหน้าของนางซีดเซียวเล็กน้อย
"หึ!!! เจ้าตบตีสาวใช้ด้วยเรื่องอันใดกัน แล้วยังผลักนางลงไปในบ่อปลาอีกด้วย!!!"
เหลียนฟาง หรือก็คือนายหญิงคนใหม่ แม่เลี้ยงของฟางซูลี่ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด
"ท่านแม่ข้าถาม เหตุใดเจ้าจึงไม่ตอบ ช่างบังอาจยิ่งนัก วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าให้หลาบจำ!!!"
ฟางซูซินเดินเข้ามาหาฟางซูลี่ หมายจะตบตีน้องสาวต่างมารดาผู้นี้อย่างที่เคยทำมาโดยตลอด แต่ไหนแต่ไรมา ฟางซูลี่ก็เป็นสตรีขี้โรค อีกทั้งยังอ่อนแอ สิ่งของใดที่มีค่าของนาง ฟางซูซินก็เอามาเป็นของตนเองจนหมด อวี้หงเพิ่งเข้ามาอยู่ในร่างนี้ไม่ถึงปี แต่ก็รู้นิสัยพี่สาวผู้นี้ดียิ่งกว่าใคร นางพยายามไม่ตอบโต้เพราะต้องการอยู่อย่างสงบ แต่สองแม่ลูกมหาประลัยคู่นี้ก็ตามหาเรื่องนางไม่เลิก
ฟางซูซินง้างฝ่ามือหมายจะฟาดมันลงบนใบหน้าของฟางซูลี่ ฟางซูลี่ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะยกเท้าขึ้นถีบไปที่กลางลำตัวของฟางซูซินจนเต็มแรง ฟางซูซินไม่ทันตั้งตัว นางจึงล้มหงายท้องไปบนพื้นในทันที
"อ๊าาา!!!"
"ซูลี่ เจ้ากล้าถีบลูกข้าหรือ!!!"
"กล้าสิ!!! กับเจ้าข้าก็กล้า!!!"
ฟางซูลี่ยกเท้าถีบเหลียนฟางจนล้มหงายท้องไปอีกคน ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปหาสองแม่ลูกที่นั่งตัวสั่น แล้วจึงยื่นมือไปกระชากเส้นผมเงางามของฟางซูซินอย่างเต็มแรง ดวงตาคู่สวย จ้องมองไปที่ปิ่นปักผมทองคำบนศีรษะของพี่สาวต่างมารดา ก่อนจะถือวิสาสะดึงปิ่นทองอันนั้นมาไว้ในมือของตน
"ซูลี่เอาของของข้าคืนมานะ!!!"
"ของของข้าต่างหาก ข้าจำได้ว่าเจ้าเคยแย่งมันไปจากข้า เจ้าจำไม่ได้หรือ"
"ซูลี่!!!"
"เหอะ!!! หมดเวลาทำตัวเป็นคนดีแล้ว ข้าทนพวกเจ้ามามากพอแล้ว หากพวกเจ้ายังกล้ารังแกข้า อย่าหาว่าข้าไม่เตือน!!!"
เรือนใหญ่
"ฮือออ ท่านพ่อ ท่านพ่อต้องให้ความเป็นธรรมกับลูกนะเจ้าคะ ซูลี่แย่งปิ่นทองปักผมของลูกไป แล้วนางยังทุบตีลูกกับท่านแม่อีกด้วย!!!"
ฉีอ๋องที่เพิ่งกลับจากตรวจตราแคว้น เมื่อได้ยินเรื่องราวชวนปวดหัวเช่นนี้ ก็นึกโมโหไม่น้อย เขาปรายตามองฟางซูลี่อย่างขุ่นเคือง
"ลี่เอ๋อร์!!! เหตุใดเจ้าจึงระรานผู้อื่นเช่นนี้!!! ส่งปิ่นทองนั่นคืนให้พี่สาวของเจ้าเสีย!!!"
ฟางซูลี่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็เบ้ปากคราหนึ่ง
"ท่านพ่อ ท่านดูให้ดีสิ ปิ่นทองอันนี้ ท่านเป็นคนมอบให้ท่านแม่ของข้า ท่านจำไม่ได้แล้วหรือ"
ฉีอ๋องจ้องมองปิ่นทองอันนั้น ก่อนจะครุ่นคิดบางอย่างขึ้นมาได้
ใบหน้าหวานล้ำงดงามของสตรีนางหนึ่งปรากฏชัดเจนในความทรงจำของเขา
หว่านเอ๋อร์!
"ท่านพ่อ แท้จริงปิ่นทองอันนี้ควรจะเป็นของลูก ลูกแย่งชิงสิ่งของของท่านแม่กลับคืนมา ลูกผิดด้วยหรือเจ้าคะ"
"ลี่เอ๋อร์!!! นี่เจ้า"
"ท่านพ่อ ลูกผิดหรือ?"
"ผิด!!! ผิดที่เจ้าทุบตีพี่สาว ทุบตีมารดาของเจ้า!!!"
"นางไม่ใช่มารดาของข้า"
"ลี่เอ๋อร์! เห็นทีข้าคงต้องสั่งสอนเจ้าให้หลาบจำ!!! วันนี้ข้าจะโบยเจ้า!!!'
เมื่อได้ยินว่าฟางซูลี่จะถูกลงโทษด้วยการโบย สองแม่ลูกมหาภัยก็ยกยิ้มมุมปากในทันที
สมน้ำหน้า!!!
ฟางซูลี่จ้องมองฉีอ๋องอย่างไม่ละสายตา ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
"ท่านพ่อ ท่านแน่ใจหรือว่าจะโบยข้า?"
"เจ้าจะทำไม!!!"
"ท่านโบยข้าหนึ่งไม้ ต้องจ่ายค่าเสียเวลาให้ข้าเป็นตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึง ยี่สิบไม้ก็สองหมื่นตำลึง ตกลงตามนี้นะเจ้าคะ"
ฉีอ๋อง "..."
แทนที่นางจะเกรงกลัวและร้องขอความเมตตา แต่นางกลับ รีดไถเขา?
โบยหนึ่งครั้งจ่ายตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึง?
ลูกเวร!!! เหตุใดจึงมีนิสัยเปลี่ยนไปมากเช่นนี้
"ท่านพ่อ ว่าอย่างไรเล่า ลูกรอให้ท่านโบยอยู่นะเจ้าคะ ลูกอดทนรอไม่ไหวแล้ว หลังของลูกมันคันยุบยิบอยากจะโดนโบยเสียเต็มทีแล้ว ท่านพ่อ"
"ไสหัวกลับเรือนไปเสีย!!!"
"ท่านพ่อ เราตกลงกันแล้วนี่เจ้าคะ ตั๋วเงินสองหมื่นตำลึง"
"ไสหัวไป๊!!!"
บัดซบ! ตั๋วเงินสองหมื่นตำลึงมิใช่เงินน้อย ๆ ใครจะยอมจ่ายกัน
สองแม่ลูกมหาภัยทำได้เพียงอ้าปากค้าง ไม่อาจเอ่ยวาจาใดได้อีก
ฟางซูลี่ถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย อีกเพียงแค่ก้าวเดียวนางก็จะมีเงินถึงสองหมื่นตำลึงแล้ว
ท่านพ่อนะท่านพ่อ ช่างงกยิ่งนัก!!!
ฟางซูลี่ล้วงมือเข้าไปในแขนเสื้อ ก่อนจะมองดูต่างหูทองคำคู่สวย ที่นางแอบขโมยมาจากหูของเหลียนฟาง ใบหน้างามฉายแววยิ้มเยาะอย่างไม่ปิดบัง
ร้านเครื่องประดับ
"เถ้าแก่ ข้าขอเพิ่มตั๋วเงินอีกห้าร้อยตำลึง"
"แม่นางไม่ได้แล้วจริง ๆ ข้า นะ..."
"รู้หรือไม่ว่าข้าน่ะเป็นบุตรสาวผู้ใด?"
"เอ๋?"
"ข้าคือฟางซูซิน บุตรสาวของฉีอ๋อง ผู้นำแคว้นของพวกเจ้า หากเจ้าไม่ยอมเพิ่มตั๋วเงินให้ข้า ข้าจะไปฟ้องท่านพ่อให้มาปิดร้านเจ้าเสีย!!!"
"อย่านะ!!! อย่า ก็ได้ ยอมแล้ว ข้ายอมแล้ว"
เถ้าแก่ร้านรีบนำตั๋วเงินมาเพิ่มให้ฟางซูลี่ทันที ฟางซูลี่รับตั๋วเงินนั้นมา ก่อนจะหัวเราะชอบใจ
เฮ้อ!!! ใช้ชื่อพี่สาวมาหาความสุขให้ตัวเองนี่มันสนุกจริง ๆ
ว่าแล้วนางก็เดินออกจากร้านเครื่องประดับไป ท่ามกลางสายตาเกลียดชังของเถ้าแก่ร้าน
พวกเขาไม่เคยเห็นหน้าบุตรสาวของฉีอ๋องเลยสักครา รู้เพียงว่าพวกนางงดงามจากคำบอกเล่าของข้ารับใช้ในจวนอ๋องเพียงเท่านั้น
"เหอะ!!! ข้าจะไปป่าวประกาศให้คนรู้กันทั่ว ว่าบุตรสาวของฉีอ๋องนามว่าฟางซูซิน นิสัยเลวทรามเพียงใด!!!"
ฟางซูลี่เดินซื้อของกินไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะกระโดดกำแพงเมืองในบริเวณที่ลับตาคน แล้วเดินสำรวจโดยรอบอย่างสนใจ
ฮี่!!!
เสียงม้าดังขึ้นไม่ไกลนัก ฟางซูลี่ที่กำลังปีนขึ้นไปนั่งอยู่บนต้นไม้ จ้องมองไปยังบุคคลที่อยู่บนหลังม้าตัวนั้นด้วยแววตาที่ตื่นตระหนก
นั่นมันอาเว่ยใช่หรือไม่!!!