บทที่ 1 ฟางซูลี่สตรีสายไฟต์
บทที่ 1 ฟางซูลี่สตรีสายไฟต์
5 ปีก่อนหน้า
"ซินเอ๋อร์ หากเมื่อใดที่ข้าได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ ข้าจะแต่งเจ้าเข้าวังไปเป็นฮองเฮาของข้า"
เสียงของบุรุษผู้หนึ่งเอ่ยกับ ฟางซูซิน บุตรสาวคนโตของผู้นำแคว้นฉี ด้วยความอ่อนโยนและรักใคร่ เขาคือ ซ่งเว่ยหลง บุตรชายของผู้นำแคว้นฉิน ที่แอบหลงรักฟางซูซินจนหมดหัวใจ
สตรีน้อยในวัยสิบสองปี ปรายตามองเขาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบ
"ขออภัยด้วย ข้าไม่อยากแต่งงานกับท่าน หากข้าจะต้องแต่งงานร่วมผูกผมเป็นภรรยากับท่าน ข้าขอยอมตายเสียยังดีกว่า"
คำพูดซึ่งแฝงเอาไว้ด้วยความเกลียดชังและไร้เยื่อใย จนทำให้ซ่งเว่ยหลงหมองเศร้า ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเขาอยู่เสมอ
ฟางซูซิน!!! ท้ายที่สุดเจ้าก็ทรยศข้า!!!
รัชศกเว่ยหลงปีที่ 1
"ลูกรักของพ่อ แผ่นดินต้าหยวนแห่งนี้ คงต้องฝากเอาไว้กับเจ้าแล้ว"
"เสด็จพ่อมิต้องทรงกังวล ลูกรับปากว่าจะปกครองแผ่นดินนี้ให้รุ่งเรือง"
ซ่งหยางจื่อ บิดาของซ่งเว่ยหลง อดีตเป็นผู้นำแคว้นฉิน ต่อมาเกิดสงครามระหว่างแคว้น และเขาสามารถกำชัยชนะเหนือแคว้นทั้งสี่ได้สำเร็จ จึงสถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้ และให้สมญานามแผ่นดินใหม่ว่า แผ่นดินต้าหยวน แผ่นดินต้าหยวนนั้นโอบล้อมไปด้วยแคว้นทั้งสี่ คือ แคว้นฉี แคว้นฉู่ แคว้นเยี่ยน และแคว้นเว่ย
ต่อมาเขาเริ่มแก่ชราและล้มป่วยลงเนื่องจากกรำศึกมาอย่างยาวนาน จึงสละราชบัลลังก์ให้แก่พระโอรสเพียงองค์เดียว นามว่า ซ่งเว่ยหลง
"ถวายพระพรฝ่าบาท ขอจงทรงพระเกษมสำราญ หมื่นปี หมื่นหมื่นปี"
เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญดังขึ้นไม่ขาดสาย ซ่งเว่ยหลงที่ยามนี้สวมชุดสีดำปักลายมังกรสีทอง บนศีรษะสวมมงกุฎเหมี่ยนกวนห้อยลูกปัดสิบสองสาย ขับเน้นให้เขาดูสง่างามและน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง
"ขอจงทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่น ๆ ปี"
เหล่าขุนนางยังคงเอ่ยคำสรรเสริญไม่หยุด จนซ่งเว่ยหลงเริ่มจะรำคาญขึ้นมาเสียแล้ว
ใครมันจะไปอยู่ถึงหมื่นปี ช่างพูดออกมาได้!!!
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการแล้ว ซ่งเว่ยหลงก็กลับมาที่ตำหนักมังกรสวรรค์ ดวงตาคมจ้องมองฎีกาหลายฉบับที่กองพะเนินเป็นภูเขารอให้เขาตรวจสอบก็ถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง
ชีวิตที่แสนสุขสำราญของเขาคงจะจบสิ้นแล้วสินะ!!!
"ฝ่าบาท"
เสียงของขันทีคนสนิทเอ่ยขึ้นมา ทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น
"มีสิ่งใด?"
"อีกสองวันแคว้นทั้งสี่ที่เดินทางมาเพื่อร่วมเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ของพระองค์จะมาถึงต้าหยวนแล้ว พวกเขานำของบรรณาการที่ขึ้นชื่อในแคว้นของตนมาถวายแด่ฝ่าบาทมากมายยิ่งนัก เราจะต้อนรับการมาเยือนของผู้นำแคว้นทั้งสี่อย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ"
ซ่งเว่ยหลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ครุ่นคิดคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกไป
"จัดเรือนรับรองให้พวกเขาอย่างดี"
"น้อมรับพระบัญชา"
ขันทีเอ่ยจบก็เดินออกไปจากตำหนักมังกรสวรรค์ในทันที ซ่งเว่ยหลงจ้องมองไปที่ด้านนอกตำหนักด้วยแววตาที่เย็นชา
ถึงเวลาที่เขาจะได้พบเจอกับสตรีผู้นั้นแล้ว สตรีที่อำมหิต และคิดจะสังหารเขาอย่างเลือดเย็น!!!
ฟางซูซิน!!!
ครึ่งเดือนก่อนหน้า
สายลมพัดผ่านม่านไข่มุกจนเกิดเสียงกระทบกันจนดังกังวาน สตรีน้อยนางหนึ่งกำลังใช้หวีสางเส้นผมอันเงางามของนางอย่างบรรจงประณีต
ฟางซูลี่จ้องมองใบหน้าของตนในกระจกก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ
ใบหน้านี้งดงามยิ่งนัก
ตั้งแต่ล้มป่วยและตกตายจากโลกอนาคต และได้กลับมาเกิดใหม่ในร่างของสตรีนามว่าฟางซูลี่ ชีวิตของนางก็ดูจะวุ่นวายไม่น้อย
ชาติก่อน นางมีนามว่าอวี้หง เป็นถึงนางแบบสาวสายเซ็กซี่ขยี้ใจชาย แต่เบื้องหลังนางกลับรับงานเป็นนักฆ่ามืออาชีพ
เงินทองของนางป่านนี้คงตกไปถึงมือของพี่สาวต่างแม่เรียบร้อยแล้วสินะ!!!
ซ้ำชาตินี้ ฟางซูลี่ผู้นี้ยังมีพี่สาวต่างมารดาที่ชอบข่มเหงจิตใจนาง อีกทั้งยังตบตีนางสารพัดอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ฟางซูซินยังแย่งของดีดีจากนางไปจนหมด
นับแต่นี้นางจะไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว!!!
ฟางซูลี่จ้องมองตนเองในกระจกอีกคราหนึ่ง ก่อนจะเดินกรีดกรายออกมาจากเรือนนอน ดวงตาคู่งามจ้องมองไปยังสระบัวตรงหน้าอย่างเบื่อหน่าย
ที่นี่คือแคว้นฉี ยามนี้บิดาของนางได้รับการแต่งตั้งให้เป็นฉีอ๋อง แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่มารดาของนางมาตกตายไปเสียก่อน ตำแหน่งนายหญิงใหญ่ในตำหนักอ๋อง จึงเป็นของมารดาของฟางซูซิน
เดิมทีฟางซูซินเป็นเพียงบุตรของภรรยารอง แม้จะเกิดก่อนนางถึงสองปี แต่อย่างไรก็มิอาจเทียบกับบุตรภรรยาเอกเช่นนางได้
แต่โชคชะตากลับพลิกผันยิ่งนัก ช่างเถิด!!! คิดไปก็ปวดหัว
ฟางซูลี่ยกถ้วยชาขึ้นมาดื่ม แต่กลับต้องชะงักในทันที ชาในถ้วยนอกจากจะไร้ซึ่งกลิ่นหอมแล้ว ยังเย็นชืดอีกด้วย
นางปรายตามองสาวใช้ที่ยกถ้วยชามาให้นางคราหนึ่ง ฟางซูลี่รับรู้ได้ถึงสายตาเย้ยหยันของเหล่าสาวใช้ที่มองนางอย่างไม่ปิดบัง
สาวใช้เหล่านี้เป็นคนที่แม่เลี้ยงของนางส่งมาทั้งสิ้น ตั้งแต่ได้เลื่อนเป็นภรรยาเอก สาวใช้ของนางก็ถูกสับเปลี่ยนไปจนหมด
ท่านพ่อเองก็ไม่มีเวลามาใส่ใจเรื่องในเรือนหลังเลยแม้แต่น้อย
"ชาเย็นชืดเช่นนี้ข้าดื่มไม่ลง เจ้าช่วยเอาไปเปลี่ยนให้ข้าที"
ฟางซูลี่เอ่ยกับสาวใช้นางนั้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย แต่ทว่าสาวใช้นางนั้นกลับเอ่ยตอบนางอย่างเกียจคร้าน
"คุณหนู ขออภัยด้วยนะเจ้าคะ นายหญิงบอกว่าระยะนี้จวนเราค่อนข้างขาดแคลน จึงต้องใช้ใบชาอย่างประหยัดกว่าแต่ก่อน"
"เช่นนั้นหรือ"
"เจ้าค่ะ"
"หึ"
ฟางซูลี่ส่งเสียงหัวเราะหึหึในลำคอ ก่อนจะขว้างถ้วยชาใส่หน้าผากสาวใช้นางนั้นจนเลือดอาบใบหน้าของนาง
"อ๊าาาา!!! คุณหนู!!!"
คิดว่านางไม่รู้หรือ!!! ใบชาชั้นดีล้วนถูกส่งไปที่เรือนของแม่เลี้ยงใจดำจนหมด แต่เรือนของนางกลับได้รับแต่ใบชาชั้นเลว!!!
"แหกปากอยู่ได้น่ารำคาญ ข้าจะถีบเจ้าลงสระให้ไปเป็นอาหารปลาเสีย!!!"
ตู้มมม
สิ้นเสียงพูดของฟางซูลี่ร่างของสาวใช้ก็ลอยละลิ่วลงไปในสระอย่างน่าเวทนา
"ซูลี่!!! เจ้าจะกำเริบเกินไปแล้วนะ!!!"