ตอนที่ 8 แล้วเจอกันนะ
ตอนที่ 8 แล้วเจอกันนะ
สามชั่วโมงในการประชุมเครียดของผู้ถือหุ้นและเหล่ากรรมการบริหารของบริษัททัวร์ครบวงจรอันดับหนึ่ง ที่มีทั้งการนำเที่ยว และแอปพลิเคชันสำหรับการจองที่พักและตั๋วเครื่องบิน โดยมีพราวมุกเป็นเลขานุการของประธานบริษัท เธอนั่งจดรายงานการประชุมร่วมกับเลขาของรองประธานจนมือแทบหัก
ผลการประชุมสรุปว่า บริษัทของเธอจะทำธุรกิจร่วมกับโรงแรมและกาสิโนชื่อดังของสหรัฐอเมริกาอย่างโรงแรม แกรนด์ คลาร์ก ทางบริษัทเธอจะจัดทัวร์สำหรับนักเสี่ยงโชค และท่องเที่ยวรอบเมืองลาสเวกัส โดยจะให้พักที่โรงแรมนั้น
พราวมุกจดรายงานการประชุมมือไม้สั่น โรงแรมและกาสิโนชื่อดังมีทั่วลาสเวกัส ทำไมต้องเจาะจงเลือกดีลธุรกิจกับโรงแรมของผู้ชายคนนั้นด้วย ก่อนหน้านี้มีโรงแรมเสนอตัวเข้าร่วมธุรกิจในครั้งนี้เป็นสิบๆชื่อ เธอคาดหวังในใจว่าเหล่ากรรมการจะเลือกที่อื่น แต่สุดท้าย คำภาวนาของเธอก็ไม่เป็นผล
“เพิร์ล เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
ตุลา ประธานบริษัทหนุ่มรูปหล่อ เอ่ยถามเลขานุการสาวสวยด้วยความเป็นห่วง เพราะตั้งแต่ออกจากห้องประชุมมา เธอก็ดูมีท่าทางกังวล แววตาสับสนตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ปกติ ไม่ว่าจะเจองานยากเพียงใด เธอก็ไม่เคยหวั่น
“เอ่อ เพิร์ลไม่มั่นใจ ว่าจะช่วยคุณตุลาทำงานนี้ได้ดี บางทีเพิร์ลอาจ..”
“อย่าพูดแบบนั้นครับ ผมมั่นใจว่าคุณทำได้ คุณทั้งเก่งภาษา ทั้งทำงานอย่างคล่องแคล่ว อีกอย่างคนที่จะดีลงานกับเราก็เป็นระดับผู้จัดการ ไม่น่ามีอะไรยากเย็นนะครับ”
พราวมุกลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่คนที่เธอต้องติดต่อประสานงานด้วยนับจากนี้เป็นผู้จัดการคนใดคนหนึ่งของโรงแรมแห่งนั้น อย่างนี้เธอก็คงไม่มีโอกาสได้เจอกับเขาอีกแน่
“ขอโทษค่ะ พอดีโปรเจคนี้เป็นโปรเจคใหม่ แล้วก็ค่อนข้างใหญ่ เพิร์ลเลยกังวล ว่าจะช่วยคุณไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็น”
“ที่ผ่านมาคุณก็ช่วยแบ่งเบาผมได้มาก ทั้งยังเป็นแขนเป็นขาและเป็นสมองของผมได้ในหลายๆเรื่อง แค่นี้ก็มากเกินพอแล้วครับ”
ที่เขาพูดออกมาไม่ได้เกินจริงเลยสักนิด เพราะตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมา เธอได้พิสูจน์ให้เขาได้เห็นในศักยภาพของเลขานุการมืออาชีพอย่างเธอแล้ว จึงไม่ต้องแปลกใจที่เธอจะมีเงินเดือนสูงลิ่วเกินหน้าเกินตาเลขานุการคนอื่นๆ
“ขอบคุณมากค่ะ”
“ไปครับ เดี๋ยวเราคงต้องเร่งเตรียมเอกสารสัญญากันก่อน เพราะเห็นว่าตัวแทนของทางนั้นจะมาเซ็นสัญญาภายในอาทิตย์หน้า คงมีเรื่องให้คิดให้ทำกันอีกเยอะ”
วันนี้เธอมีคำสั่งให้ทำโอทีแบบสายฟ้าแลบ จึงไม่ทันได้บอกลูกสาวตัวน้อยเอาไว้ก่อน และเย็นนี้คงต้องรบกวนปกป้องให้ไปรับลูกสาวเธออีกแล้ว
“ขอเพิร์ลโทรบอกป้องให้ไปรับลูกก่อนนะคะ วันนี้เพชรใสมีเรียนดนตรีด้วยค่ะ”
“เชิญครับ”
ท่านประธานหนุ่มรูปหล่อหน้าเสียไปเล็กน้อยเมื่อเธอเอ่ยถึงพ่อของลูกเธอ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอมาสมัครงาน เขาก็ตกหลุมรักเธอโครมเบ้อเร่อ บวกกับความสามารถและผลการเรียนที่เธอมีทำให้เขาไม่มีเหตุผลเลยที่จะปฏิเสธไม่รับเธอเข้าทำงาน
เขาแอบมองเธอแทบจะตลอดเวลาที่ต้องอยู่ใกล้กัน ไม่แน่ใจว่าคนสวยๆอย่างเธอจะมีคนรักแล้วหรือยัง เลยไม่กล้าที่จะจีบอย่างโจ่งแจ้ง กะเอาไว้ว่ารอให้เธอกับเขาสนิทสนมกันมากกว่านี้อีกหน่อย ค่อยทำเนียนๆถามเธอถึงเรื่องส่วนตัว
แต่ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เธอกลับขอลางานเพื่อไปฝากครรภ์ วันนั้นเขารู้สึกเหมือนโลกทั้งใบถล่มลงมาตรงหน้า แต่ดีหน่อยตรงที่เขายังไม่ทันได้แสดงท่าทีอะไรต่อเธอไป ไม่อย่างนั้นคงได้มองหน้ากันไม่ติด และทำงานด้วยกันอย่างอึดอัดเสียเปล่าๆ
หลังจากนั้น เขาก็พยายามจะทำใจยอมรับว่าเธอคือลูกน้องคนหนึ่ง แต่เพราะความใกล้ชิด เห็นหน้ากันทุกวัน ช่วยกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ฝ่าวิกฤติกันมาก็หลายครั้ง ยิ่งทำให้เขาอดทึ่งในความสามารถและความอดทนของเธอไม่ได้ นั่นยิ่งทำให้เขาหลงรักเธอเข้าไปกว่าเดิมอีก ทั้งๆที่เธออุ้มท้องใหญ่โตขนาดนั้น เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นไปได้ขนาดนั้น
ในวันที่เธอคลอดลูก เขาได้ไปเยี่ยมเธอและลูกสาวตัวน้อยที่น่ารักเหมือนกับตุ๊กตาไม่มีผิด และวันนั้น เป็นวันที่เขาได้เจอพ่อของลูกเธอครั้งแรก ผู้ชายคนนั้น หล่อเหลา สะอาดสะอ้าน ท่าทีที่ดูสนิทสนมรักใคร่ของทั้งคู่ มันยิ่งทำให้เขาเจ็บปวด แต่ก็ไม่รู้เป็นอะไร เขาถึงตัดใจจากเธอไม่ได้เสียที ยังทำทีตีเนียนไปเยี่ยมเธอกับลูกที่บ้านบ้างประปราย และลูกสาวตัวน้อยของเธอก็น่ารักจนเขาใจละลายทุกครั้งที่เจอ
สิ่งที่เขาได้รู้อีกเรื่องก็คือ ความสัมพันธ์แบบแปลกๆ ของเธอกับพ่อของลูกคนนั้น ทั้งคู่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน นานๆถึงจะมานอนด้วยกันที หรือผลัดเปลี่ยนกันไปรับลูกเมื่ออีกคนไม่ว่าง แต่เขาก็ยังไม่กล้าพอที่จะละลาบละล้วงถามเธอถึงเรื่องนี้ และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เธอต้องให้ผู้ชายคนนั้นไปรับลูกให้ เพราะเธอมีทำโอทีเร่งด่วนกับเขา
“ป้อง ไปรับลูกให้ทีสิ ฉันมีทำโอทีด่วนอ่ะ วันนี้ลูกมีเรียนดนตรีด้วย ต้องไปนั่งรอ สะดวกหรือเปล่า”
เขาได้ยินเสียงเธอคุยโทรศัพท์ดังแว่วๆ ก่อนที่ประตูห้องทำงานของเขาจะปิดลง
“เห้อ ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาจะดูแปลกๆ แต่พวกเขาก็ยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ แกคิดอะไรของแกอยู่วะ ไอ้ตุลา”
เสียงถอนหายใจดังมาจากท่านประธานหนุ่มรูปหล่อ ที่ไม่เคยขาดแคลนเรื่องสาวๆ แต่กลับมีผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ครองใจเขาเอาไว้ได้ แต่เขากลับไม่เคยได้อยู่ในหัวใจของเธอเลย
“ตั้งใจเรียนนะครับ เดี๋ยวพ่อนั่งรออยู่ด้านหน้านะ”
“ค่า”
สาวน้อยเพชรใสเดินตามคุณครูสอนดนตรีคนสวยของโรงเรียนสอนดนตรีชื่อดัง เข้าไปในคลาสเรียนที่มีเด็กๆ นั่งรออยู่แล้วหลายคน
ในขณะที่สาวน้อยเพชรใสกำลังนั่งจิ้มคีย์บอร์ดตามที่คุณครูคนสวยสอน ผมแกละน้อยๆ ก็สะบัดไปมาน่ารัก สร้างความรำคาญให้กับ บราโว่ เด็กน้อยขาใหญ่ประจำคลาส ที่ลงเรียนซ้ำมาถึงสองครั้ง ก็ยังไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
เมื่อถึงเวลาพักเบรก ครูคนสวยออกไปเข้าห้องน้ำ บราโว่จึงดึงผมแกละของเพชรใสอย่างแรงจนเธอหน้าหงาย รีบหันกลับไปมองด้านหลัง ก็เจอกับเจ้าบราโว่ตัวตึงคลาสดนตรีนั่งกอดอกยักคิ้วให้ด้วยท่าทียียวน เธอจึงหันกลับมา ไม่สนใจเด็กเกเรนั่นอีก
แต่เด็กเกเรก็คือเด็กเกเรวันยังค่ำ ยิ่งคนที่โดนแกล้งทำเป็นไม่สนใจ เด็กเกเรนั่นยิ่งหมั่นไส้อยากแกล้งให้หนักขึ้น จึงดึงผมของเธออย่างแรงอีกครั้ง จนคราวนี้สาวน้อยเบะปากน้ำตาคลอเบ้าแต่ก็ไม่มีเสียงร้องออกมาสักแอะ
“บราโว่ นายแกล้งเพชรใสทำไม”
พอร์ช เด็กชายใบหน้าคล้ายตุ๊กตาฝรั่งเหมือนกับเธอ เดินตรงเข้ามาขวางบราโว่เอาไว้ ไม่ให้เข้าไปรังแกสาวน้อยผมแกละที่น่ารักน่าสงสารคนนี้อีก
“นายยุ่งอะไรด้วยพอร์ช เราจะแกล้ง นี่แน่ะ นี่แน่ะ”
บราโว่กระโจนเข้าหาเพชรใส แล้วดึงผมแกละนั่นอีก จนคนตัวน้อยเจ็บจนน้ำตาไหล ร้องไห้จ้า ทำให้ความอดทนของพอร์ชสิ้นสุดลงแล้ว เขาดึงคอเสื้อของบราโว่จากด้านหลังให้เซถลาถอยหลังมาตามแรง แล้วชกเข้าที่เบ้าตาเจ้าเด็กเกเรคนนั้นจนเขียวช้ำทันตา
“โอ๊ยยย เจ็บนะ แกตาย”
เด็กเกเรกระโจนใส่พอร์ชแล้วผลักจนเขาล้มลง ก่อนขึ้นนั่งคร่อมแล้วชกไปที่หน้าของเขาอีกหลายครั้ง ในขณะที่พอร์ชก็พยายามปัดป้องตามที่ได้รับการสอนมา แต่ก็ยังพลาดโดนเข้าไปเต็มๆ จนมุมปากแตกยับมีเลือดไหลซิบ
“ว๊ายยย หยุดนะ”
ครูคนสวยที่กลับเข้ามาจากการพาเด็กๆไปเข้าห้องน้ำ รีบตรงดิ่งมาจับเด็กชายที่กำลังต่อยกันนัวเนียให้แยกออกจากกัน ด้วยเสียงที่ดังออกไปนอกห้องทำให้ผู้ปกครองหลายรายวิ่งกรูกันเข้ามาในห้องนี้ทันที
“เกิดอะไรขึ้น ว๊ายย บราโว่ลูกแม่ ทำไมเป็นแบบนี้ ใครทำลูกฉันห๊ะ”
ผู้ปกครองของบราโว่เด็กเกเร ร้องตะโกนโวยวายหาคนผิด ที่ต่อยหน้าลูกชายจนตาเขียวคล้ำขนาดนี้
“พอร์ชทำเองครับ”
เด็กชายพอร์ชที่มุมปากแตกยับมีเลือดซิบ เอ่ยยอมรับออกมาอย่างลูกผู้ชาย โดยที่เบื้องหลังของเขา มีคุณพ่อยังหนุ่มในชุดสูทหล่อเหลายืนเอามือลูบหัวให้กำลังใจลูกชายของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
“ทำไมถึงเป็นเด็กเกเรแบบนี้ห๊ะ คุณพ่อจะรับผิดชอบยังไง ดูซิ ลูกฉันตาเขียวขนาดนี้ ฉันไม่ยอมนะ”
“แต่บราโว่แกล้งเพชรใสก่อนครับ พอร์ชห้ามแล้วแต่บราโว่ก็ไม่หยุด”
“ไม่จริง บราโว่ไม่ได้ทำครับแม่ ฮือๆๆๆ อยู่ๆพอร์ชก็มาตีบราโว่เลย”
เด็กเกเรร้องไห้สะอึกสะอื้น ทำตัวอ่อนแอจนน่าสงสาร ในขณะที่สาวน้อยเพชรใสก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน อยู่ในอ้อมกอดของคนที่เธอเรียกว่าพ่อ
“เพชรใส บราโว่แกล้งหนูหรือเปล่าลูก”
มือใหญ่ของปกป้อง ลูบหลังลูบไหล่เล็กๆ ของสาวน้อยตัวจ้อยในอ้อมกอด หวังปลอบโยนให้หายตกใจ
“ฮึก ฮึก ค่า บระ บราโว่ ดึงผม เพชรใส ฮึก”
พูดไปยังสะอื้นไป ทำให้ปกป้องอยากจะไปดึงหัวไอ้เด็กตัวโตแสนเกเรนั่นจริงๆ เพราะลูกสาวของตัวเองเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่ชอบโกหก และเป็นคนที่ไม่ใช่เด็กเจ้าน้ำตา เธออดทนเก่งมาก ถ้าไม่เจ็บหรือตกใจกลัวจริงๆ ไม่มีทางเลยที่เธอจะร้องไห้สะอึกสะอื้นขนาดนี้
“ยัยเตี้ย อย่ามาโกหกนะ”
บราโว่ร่างยักษ์คำรามก้อง ส่งผลให้ยัยเตี้ยในอ้อมกอดของพ่อร้องไห้จ้าอีกครั้ง
“ฉันไม่ยอมนะคะครู ทำไมเด็กสองคนนี้ถึงรุมใส่ร้ายลูกชายฉัน”
“ใจเย็นๆ ค่ะคุณแม่ เราถามเด็กๆ ที่อยู่ในห้องก่อนนะคะ หรือถ้าไม่เชื่อ ในห้องนี้มีกล้องค่ะ ครูผู้ช่วยกำลังไปขอไฟล์อยู่ค่ะ เด็กๆคะ ไหนใครเห็นบ้างว่าเกิดอะไรขึ้น ยกมือหน่อยค่ะ”
เด็กน้อยสองสามคนยกมือขึ้น แล้วแย่งกันพูด จับใจความได้ว่าบราโว่ดึงผมเพชรใส แล้วตามไปกระชากผมอีกเมื่อพอร์ชเข้ามาห้าม จนเกิดการต่อยตีกันขึ้น แต่แม่ของเด็กเกเรนั่นก็ยังไม่ยอมรับอยู่ดี หาว่าลูกตัวเองถูกใส่ร้าย ก่อนจะยอมจำนนด้วยหลักฐานคือภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ลูกชายของตัวเองเป็นเด็กเกเร ทำร้ายเพื่อนก่อนจริงๆ สุดท้ายก็ต้องขอโทษขอโพยผู้ปกครองของเด็กทั้งสองเสียยกใหญ่ แล้วคลาสเรียนดนตรีวันนี้ก็สิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้
“ตัวเล็ก แล้วเจอกันนะ”
เด็กชายพอร์ชโบกมือให้สาวน้อยเพชรใส ก่อนเดินขึ้นรถยนต์คันหรูของตัวเองไป