บทที่ 3 พี่สาวแสนดี 1
ณ โรงพยาบาลกรุงเทพเมมอรัล
อนุชินถอนหายใจออกมาพรืดยาว เมื่อรู้ว่า คุณหญิงประภาวดีผู้เป็นมารดาเลือกจะนอนห้องพักฟื้นวีไอพีที่ใหญ่ที่สุดในโรงพยาบาล แน่นอนว่าราคาค่าห้องต่อคืนสูงลิ่วถึงสามหมื่นบาท ยังไม่รวมค่าอื่นๆ อีก คิดคร่าวๆ ก็น่าจะถึงสี่หมื่นบาท หากนอนพักรักษาตัวสักสามคืน ค่าใช้จ่ายพุ่งทะยานหลักแสนบาทเป็นแน่
“ผมว่าคุณแม่พักห้องวีไอพีธรรมดาก็ได้นะครับ นอนสบายเหมือนอยู่บ้านไม่ต่างกัน” อนุชินพูดกับมารดาที่ค้อนใส่วงใหญ่
“ฉันขายหน้าแย่น่ะสิถ้าอยู่ห้องธรรมดา พวกคุณหญิงคุณนายที่มาเยี่ยมฉันเห็นเข้า ได้เอาฉันไปนินทา ไม่ได้หรอก ฉันไม่ยอมตกเป็นขี้ปากใครแน่ ฉันจะนอนห้องนี้” ประภาวดีที่รักหน้า รักตาเป็นที่สุด ไม่ยอมขายหน้าหากย้ายห้องพักฟื้น “ฉันนอนพักแค่สามสี่คืนหมดไม่เท่าไหร่หรอกน่า”
“ที่ว่าหมดไม่เท่าไหร่ของคุณแม่ มันคือแสนกว่าบาทนะครับ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายอื่นอีกหรือเปล่า”
อนุชินยิ่งพูดยิ่งกลุ้ม เปลือกนอกฐานะเขาคือร่ำรวย แต่ภายในนั้นกลวงโบ๋ เนื่องจากความผิดพลาดทางเรื่องธุรกิจและไว้ใจคนผิด ทำให้ทรัพย์สมบัตินับร้อยล้านหมดภายในไม่กี่เดือน แถมเป็นหนี้สินอีกร่วมสองร้อยล้านบาท ฉะนั้นเงินแสนกว่าบาทค่ารักษาพยาบาลมารดาจึงมากสำหรับเขา
“มีค่าใช้จ่ายอื่นแกก็หาสิ หน้าที่แกนี่ แกเป็นลูกแกก็ต้องหา แล้วฉันก็ไม่มีวันย้ายห้องด้วย”
ประภาวดีเสียงแข็ง นางรู้ว่าครอบครัวเป็นเช่นไร แต่ก็ไม่ยอมอ่อนข้อ นางรักหน้ารักชื่อเสียงของตนมากว่าสิ่งใด ไม่ยอมตกเป็นหัวข้อเรื่องในการถูกติฉินนินทาแน่นอน
“หายากนะคะคุณแม่ เงินสามหมื่นจ่ายค่าคนรับใช้ยังเลือดตาแทบกระเด็นเลยค่ะ” เปรมสุดาเสียงอ่อย
“แก้วแหวนเงินทองเธอก็มี เอาไปขายสิ ขายแปปเดี๋ยวก็ได้เงิน แค่นี้ไม่เห็นจะยาก” ประภาวดีคิดว่าเป็นเรื่องง่าย
“ถ้ามันมีแก้วแหวนเงินทองอย่างที่คุณแม่พูดก็ดีสิคะ แต่นี่ไม่มีค่ะ ขายเกลี้ยงพยุงบริษัทหมดแล้ว ไหนจะค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก ไม่มีเหลือแล้วค่ะคุณแม่” เปรมสุดาบอกแม่สามี “คุณแม่พอจะมีให้สุดายืมสร้อยเพชรสักเส้นสองเส้นไหมล่ะคะ”
“ฉันไม่ให้ ฉันให้เธอแล้วฉันจะเอาอะไรใส่ล่ะ ฉันไม่ยอมใส่ของปลอมอย่างเธอหรอก” ไม่ใช่ว่าประภาวดีจะไม่เคยให้ นางให้สร้อยเพชรสามชุด สร้อยคอทองคำหนักสิบบาท และทองคำแท่งรวมแล้วหนึ่งร้อยห้าสิบบาทให้อนุชินนำไปแปลงเป็นเงินมาหมุนใช้จ่ายในบริษัท ที่เหลืออยู่ก็มีไว้ประดับบารมี มีไว้ออกงานไม่ให้น้อยหน้าใคร หากให้ไปอีกก็คงต้องใส่ของปลอม นั่นคือเรื่องที่นางไม่มีวันทำ “แกต้องหาเงินให้ได้นะชิน แกอย่าทำให้ฉันขายหน้าเด็ดขาด อย่าลืมสิว่า ที่เราเป็นอย่างนี้เพราะแก แกไม่น่าโง่ไว้ใจคนผิดเลย”
แล้วนางก็ย้อนมาเรื่องนี้อีก
“โอเคครับ ผมจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเอง คุณแม่พอใจแล้วใช่ไหมครับ” อนุชินพูดสรุป ไม่งั้นยาวแน่
“ก็แค่นี้ ไม่เห็นต้องพูดกันให้มาก อ้อ...พรุ่งนี้ซื้อผลไม้ดีๆ แพงๆ มาด้วยนะ แล้วก็ของว่างด้วย เผื่อคุณหญิง คุณนายมาเยี่ยมฉันจะได้มีของกินรับรอง” ประภาวดีสั่งลูกชาย “ฉันขอพยาบาลพิเศษด้วยนะ”
“ครับคุณแม่” ลูกชายรับคำ สีหน้าเหนื่อยใจ
“คุณแม่พักผ่อนนะคะ คืนนี้พวกเราขอตัวกลับก่อน พรุ่งนี้สายๆ จะมาเยี่ยมค่ะ” ลูกสะใภ้บอกแม่สามีจอมเอาแต่ใจ
“ซื้อแบรนด์รังนกมาสักสามโหลด้วยนะ จัดมาเป็นกระเช้าล่ะสักสองกระเช้า ผลไม้แพงๆ อีกสักกระเช้า เอามาวางไว้ในห้องรับแขก คนที่มาเยี่ยมฉันจะได้รู้ว่า คนที่มาเยี่ยมฉันเอาแต่ของดีๆ มาให้ ฉันล่ะเบื่อพวกเอากระเช้าน้อยๆ ราคาถูกๆ มาให้เหลือเกิน” คุณหญิงจอมหยิ่ง ทำตัวจมไม่ลง
“แต่ของที่มาเยี่ยมคือน้ำใจของคนให้นะคะคุณย่า บางทีค่าของเงินหรือของราคาแพงก็ไม่ได้วัดว่า น้ำใจคนไหนมีมากกว่าน้อยกว่า คนที่ดีกับเราแค่เปลือกนอกมีเยอะแยะไป ข้อนี้ปริมคิดว่า คุณย่าน่าจะรู้”
พรเทวีพูดไม่อ้อมค้อม หล่อนรู้สถานะของครอบครัวดี บางคนที่รู้ว่า ครอบครัวของตนตกอยู่ในสถานการณ์แบบใด ถอยห่างหนีก็หลายคน แต่บางคนก็ยังคงอยู่เคียงข้าง โอบอุ้มเท่าที่กำลังจะมีให้ ความที่พรเทวีเป็นหลานรัก นางจึงไม่กล้าพูดอะไรมาก ได้แต่ส่งค้อนให้เท่านั้นที่พูดจี้ใจดำ