บทที่ 2 แรกพบ 1.1
“เข้าไปในงานกันเถอะพี่พรีม เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่จะบ่นอีก ปริมขี้เกียจฟัง”
“ปริมเข้าไปในงานก่อนนะ พี่ขอเข้าห้องน้ำก่อน สงสัยส้มตำฝีมือเอียดจะทำพิษ มวนๆ ท้องยังไงไม่รู้” พรวิภาบอกน้องสาว
“งั้นปริมรอพี่พรีมนะ เราจะได้ไปด้วยกัน”
“อย่ารอเลยเผื่อพี่เข้าห้องน้ำนาน ปริมเข้าไปในงานก่อนเถอะนะ อย่างน้อยๆ ปริมเข้าไปคุณพ่อคุณแม่จะได้ไม่ดุพี่ไง เดี๋ยวจะหาว่าพี่เป็นตัวถ่วงทำให้ปริมต้องคอยพี่อีก”
“เอางั้นก็ได้” พรเทวีทำตามที่พี่สาวบอก หล่อนเดินออกจากห้องน้ำหญิง เดินไปตามทางที่เชื่อมไปยังล็อบบี้ของคอนโด ระหว่างทางที่กำลังจะเลี้ยวไปทางห้องจัดเลี้ยง หล่อนก้มลงเปิดกระเป๋า หมายจะหยิบมือถือที่ดังไม่หยุด คิดในใจว่าคงเป็นบิดาหรือไม่ก็มารดาที่โทรมาตาม จึงไม่ทันระวังว่าจะมีใครเดินเลี้ยวเข้ามาเพื่อเข้าห้องน้ำ
“ว้าย!” พรเทวีคิดว่าตนเองชนอะไรบางอย่างที่แข็งแรงมาก เพราะมันทำให้ร่างหล่อนเซไปหลายก้าวและทำท่าจะล้มก้นจ้ำเบ้า ดีที่ว่ามีเจ้าของเรือนกายใหญ่คว้าตัวหล่อนไว้ก่อน
“ขอโทษครับ” ชีคจาฟาห์เอ่ยคำขอโทษเป็นภาษาอังกฤษ จ้องมองใบหน้าสตรีที่เขาชนนิ่งงัน มองสบตาหล่อนแล้วรู้สึกประหนึ่งเวลาหยุดเดิน เขามองนัยน์ตาผู้หญิงมาเยอะ ทว่าไม่มีสายตาคู่ใดสะกดเขาได้มากเท่านัยน์ตาคู่นี้ เสมือนมีศรรักพุ่งปักกลางอกก็ว่าได้ เป็นความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นกับจาฟาห์
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ” พรเทวีตอบโต้เป็นภาษาสากล ค่อยๆ ดันร่างหนาให้ออกห่างอย่างสุภาพ คลี่ยิ้มส่งให้ “ขอตัวนะคะ”
“ผมขอโทษอีกครั้งนะครับที่กอดคุณ” ชีคจาฟาห์คลายอ้อมแขนจากเอวคอดกิ่วอย่างแสนเสียดาย หากอยู่จามาล ผู้หญิงคนนี้ไม่รอดมือเขาแน่ แต่ทำไมมิทราบได้ เขาถึงได้ปล่อยร่างนุ่มนิ่มอย่างง่ายดาย
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันต้องขอบคุณคุณด้วยซ้ำที่ช่วยฉันไม่ให้ก้นจ้ำเบ้าบนพื้น” พรเทวีพูดเสียงนุ่ม “ฉันขอตัวก่อนนะคะ คุณพ่อคุณแม่คอยอยู่ในงานค่ะ”
“เดี๋ยวสิครับ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรครับ ผมชีคจาฟาห์ครับ” เขาแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ
“ฉันชื่อพรเทวีค่ะ เรียกว่าปริมก็ได้ค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณปริม”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะท่านชีค” พรเทวียิ้มรับเพื่อนใหม่ ก่อนกล่าวลา “ฉันขอตัวนะคะ”
พรเทวีเดินไปยังห้องจัดเลี้ยง โดยไม่รู้ว่า ชีคจาฟาห์มองตามร่างระหงในชุดราตรีสีชมพูเข้ม สตรีที่ดึงดูดใจเขาตั้งแต่แรกเห็น และเป็นหญิงเดียวที่ทำให้เขารู้สึกว่า ปรารถนาให้มาเป็นแม่ของลูก
..............
“แย่แล้ว ประจำเดือนมา” พรวิภาพูดกับตัวเองเมื่อเห็นคราบเลือดติดอยู่บนกางเกงชั้นใน ประจำเดือนครั้งนี้มาก่อนกำหนดสองวัน หล่อนจึงไม่ได้เตรียมผ้าอนามัยติดกระเป๋ามาด้วย แล้วถ้าหากไม่หาผ้าอนามัยมาใส่ มันต้องเลอะมากกว่านี้แน่นอน พรวิภาเปิดกระเป๋าถือออกหยิบมือถือที่ใช้ต่อจากน้องสาวขึ้นมาส่งข้อความบอกพรเทวีทางไลน์
“พี่เข้างานช้าหน่อยนะ พี่ประจำเดือนมาจะออกไปซื้อผ้าอนามัยข้างนอก”
พรวิภาไม่รอให้น้องสาวตอบข้อความ หล่อนรีบเดินออกจากห้องน้ำ เดินออกไปนอกคอนโดเพื่อไปซื้อผ้าอนามัยในร้านสะดวกซื้อที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดนัก
อีกยี่สิบนาทีพรวิภาเดินกลับมาที่คอนโดอีกครั้งพร้อมผ้าอนามัย หล่อนรีบไปใส่ผ้าอนามัยในห้องน้ำ นำผ้าอนามัยที่เหลือสามชิ้นใส่กระเป๋าถือ แล้วเสร็จจึงเดินออกจากห้องน้ำ
ตึ๊ง...เสียงข้อความไลน์ดังขึ้น พรวิภาหยิบมือถือออกจากกระเป๋า เปิดอ่านข้อความทางไลน์ที่พรเทวีส่งมาให้
‘พี่พรีมไปที่รถเลยนะ คุณย่าลื่นล้มในห้องน้ำ ตอนนี้พี่บุญกำลังพาไปโรงพยาบาล’
พรวิภาร้อนใจเมื่อรู้ข่าว แม้ว่าประภาวดีจะไม่รักตน ทว่านางก็คือมารดาของบิดา ที่หล่อนต้องเคารพรัก จุดหมายปลายทางของหล่อนเปลี่ยนทัน มุ่งหน้าเดินไปยังลานจอดรถของคอนโด
“คุณปริมครับ” พรทิวาได้ยินเสียงเรียกชื่อน้องสาวเป็นภาษาสากล หล่อนลังเลที่จะหันไปมองต้นเสียง เพราะเจ้าของเสียงทักผิดคน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทักผิดทักถูก “คุณปริมครับ”
เขาเรียกชื่อเล่นพรเทวีซ้ำ พรวิภาจึงหันกลับไปมองต้นเสียงที่เดินเข้ามาหาตน ม่านตาหล่อนขยายกว้างเมื่อเห็นใบหน้าคมเข้มสไตล์ชาวอาหรับ ดวงตาสีนิลของเขาดูนุ่มลึก มีเสน่ห์น่าค้นหา ขนตาเขาดกดำและงอนเช้ง ทำให้นัยน์ตาเขาชวนหลงใหลมากขึ้น จมูกโด่งเป็นสัน ไรขนสีดำที่ขึ้นบางๆ ตรงสันแก้ม ส่งเสริมใบหน้าเขาให้ดูโดดเด่น น่าเกรงขาม พรวิภาแอบสงสัยไม่ได้ว่า น้องสาวตนรู้จักชายตรงหน้าได้อย่างไร
“คะ” พรวิภากลืนคำพูดที่จะบอกชายหนุ่มหน้าเข้มว่า ทักผิดคน กลายเป็นตอบรับกลับซะงั้น
“ดีใจจังครับที่ได้เจอคุณปริมก่อนกลับ ในงานผมพยายามมองหาคุณปริม แต่คนมางานเยอะเหลือเกิน”
ชีคจาฟาห์ส่งยิ้มให้ เข้าใจว่าเป็นพรเทวี หญิงสาวที่เขาผูกใจตั้งแต่แรกเห็น เป็นเพราะรูปร่างหน้าแต่แม้กระทั่งชุดก็เหมือนกับพรเทวีที่เขาเจอเมื่อครู่ใหญ่ไม่มีผิด
พรวิภาตะลึงกับรอยยิ้มเขา เพราะภาพที่เห็นคือ เขาหล่อมาก หัวใจหล่อนเต้นแรง มองเขาตาค้าง
“คุณปริมครับ คุณปริม”
“ค่ะ ว่าไงคะ” พรวิภาดึงสติตนเองกลับมาได้เพราะน้ำเสียงของเขา ที่ยิ่งฟังยิ่งไพเราะ อบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
“ผมพูดว่า ผมดีใจที่ได้เจอคุณก่อนกลับครับ”
“อ๋อค่ะ ฉันก็ดีใจค่ะที่ได้เจอคุณ” พรทิวาตอบกลับ “ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวก่อนครับ” เขารั้งหล่อนไว้ด้วยวาจา ยื่นมือไปจับมือเรียวสวยของพรวิภาที่มัวแต่ตกใจที่อยู่ๆ ถูกฉวยจับมือ จึงไม่ได้ชักมือกลับ “ตามธรรมเนียมประเทศผม การจูบมือคือการกล่าวคำลา”
จาฟาห์ยกมือหล่อนขึ้นสูงก่อนก้มหน้าจุมพิตกลางฝ่ามือ พรวิภาเข้าใจธรรมเนียมต่างชาติ หล่อนไม่มีความโกรธหรือไม่พอใจที่เขาทำเช่นนี้กับตน ในใจคิดว่า หากชายคนนี้รู้จักพรเทวี ก็คงกล่าวลาเช่นนี้เหมือนกัน
“ฉันขอตัวนะคะ สวัสดีค่ะ” พรวิภาพนมมือไหว้ชีคจาฟาห์ คลี่ยิ้มบางส่งให้แล้วหมุนตัวเดินไปยังลานจอดรถของคอนโดทันที
“ท่านชีคจะให้ผมจัดการให้ไหมครับ”
ฮัมซาถามอย่างรู้ใจเจ้าชีวิต หากผู้หญิงคนนี้อยู่จามาล รับรองไม่รอดมือชีคจาฟาห์ บุรุษที่ใช้ผู้หญิงเปลืองมากคนหนึ่ง เฉพาะที่อยู่ในวังก็มีไม่ต่ำกว่าสิบคน
“ไม่ต้อง” ชีคจาฟาห์ตอบเสียงเข้ม “คนนี้ฉันจัดการเอง”
“เชิญท่านชีคขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องดีกว่าครับ พรุ่งนี้มีนัดแต่เช้าครับ” ฮัมซานอกจากเป็นลูกน้องมือขวา เขายังเป็นเลขาส่วนตัวของชีคจาฟาห์ คอยจัดการเรื่องต่างๆ ไม่ว่าเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว
“ท่านชีคครับ คุณแมรี่ส่งผู้หญิงมาให้แล้วนะครับ ผมให้เธอไปรอที่ห้องแล้วครับ” อาฟีนลูกน้องคนสนิทอีกคนบอกเจ้าชีวิต
ชีคจาฟาห์พยักหน้ารับรู้ ก้าวเดินไปยังลิฟต์โดยสารของทางคอนโดที่จะจอดในชั้นที่เขาซื้อห้องชุดไว้เท่านั้น