บทที่2.เริ่มแผนการ...
พฤติกรรมเหลานั้น พราวฟ้ารู้ดีแก่ใจ เธอทำได้แค่เป็นห่วง เพราะหากพูดขึ้นมา มีหวังบ้านแตก!!
“ช่ายยย หล่อนเป็นผู้หญิงลั๊ลลา...แค่นี้สิวๆ ฮ่าๆ”
จบด้วยเสียงหัวเราะ เป็นข่าวฉาวที่คนภายนอกเสพจากสื่อ มันทำให้คนเกิดและดับได้ แต่เพราะพิลาศกลับโดดเด่นขึ้นมา หล่อนไม่แคร์ปากคน เมื่อหล่อนโกยเงินได้จากข่าวฉาวๆ เหล่านั้น ยิ่งเป็นกระแส หล่อนยิ่งมีงานวิ่งชน
“อุ้ย!!”
สามสาวที่นินทาอย่างออกรสถึงกับสะดุ้ง เมื่อหันกลับมาเจอพราวฟ้า
หญิงสาวพยายามวางสีหน้าให้นิ่งที่สุด เพราะหากแสดงความไม่พอใจออกไปเกรงว่าจะไปกันใหญ่ และอาจทำให้ชื่อเสียงของเพลาพิลาศลดลง
“ทั้งหมดเลยเหรอคะ”
หล่อนยิ้มกร่อยๆ ให้พราวฟ้า ขณะที่ยื่นมือออกมารับชุดสวยๆ ไปจัดการใส่กล่อง
“ค่ะ...” หญิงสาวตัดใจ เธอห้ามปากคนไม่ได้ เพราะที่เขาพูดกัน มันก็คือเรื่องจริง
กว่าจะยอมออกจากร้านเสื้อ กว่าเพลาพิลาศจะหยุดช็อป พราวฟ้าก็เดินจนขาลาก ไม่มีอะไรเป็นของเธอสักชิ้น ที่หอบหิ้วจนแขนโก่งมีแต่ของพี่สาว เมื่อหล่อนจ่ายไม่อั้นเพราะมีคนเสนอตัวเปย์ให้ เพลาพิลาศเลยสนองความอยากของตัวเองเต็มคราบ ผลพวงคือ พราวฟ้าแทบจะขนกลับไม่ไหว สองมือของเธอหิ้วจนล้า ในขณะที่พี่สาวเดินโฉบเข้าร้านนั้นที ร้านนี้ที
แต่ว่า...ทุกทีที่เพลาพิลาศปรากฏตัว...มีสายตาชื่นชม แอบริษยาเสมอ หล่อนสวย หล่อนดูดีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ไม่แปลกหรอกหากจะมีคนมอง
รวมทั้งคนของสิงหราชด้วย เขาจับตามองพร้อมกับจดจำกิจวัตรประจำวันของเพลาพิลาศ เพื่อรอจังหวะลงมือ ตามคำสั่งของนายหนุ่ม
พราวฟ้ารู้สึกถึงรังสีอันตราย เธอรู้สึกอึดอัดเหมือนมีคนจ้องมองทุกฝีก้าว แต่ไม่รู้ว่าเป็นใครเท่านั้นเอง
“คิดมากละมั้งเรา”
เธอบ่นอุบ มองไปรอบๆ ตัว แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติใดใดเลย
มีผู้คนเดินสวนไปสวนมาปกติ เมื่อมันเป็นห้างสรรพสินค้า เธออาจจะคิดมาก ระแวงไปเองก็ได้
“พราว...พี่จะเปลี่ยนรถดีไหม?”
เพลาพิลาศเปรยเหมือนขอความเห็น เธอมองรถยนต์คันหรูของตัวเอง พร้อมกับอมยิ้มกรุ่มกริ่ม แค่นี้ยังไม่พอ เธอต้องเหนือกว่าทุกคน อะไรที่ช่วยเสริมให้ตัวเองดี ตัวเองเด่น หญิงสาวไม่รอช้าที่จะไขว่คว้า...
“คันนี้ยังไม่ถึงปีนะคะพี่เพลา”
หญิงสาวท้วง งานของเพลาพิลาศมีตลอดก็จริง แต่หากเป็นขาลง จะเอาสตุงสตางค์ที่ไหนมาผ่อนจ่าย ไหนจะรายจ่ายในบ้านที่อาศัยคุ้มศีรษะ ไหนจะรถยนต์ ไหนจะค่ากิน ค่าใช้ ค่าไฟ ค่าคนงาน จิปาถะเสียจนพราวฟ้ากลัวแทน
“แล้วไง ฉันอยากเปลี่ยน!!”
คนเป็นพี่หันมาตวาดน้องสาว...เธอเหยียดยิ้มไหวไหล่... “มีคนเปย์ให้ ไม่เอาก็โง่สิ!!”
คนที่เสนอให้ไม่ใช่ใครอื่นเลย พุฒิพัฒน์กำลังหลงเขาทุ่มไม่อั้นเสมอ เมื่อเขาไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน
พราวฟ้าอยากเถียง หากแลกมาด้วยสิ่งนอกกาย แต่ต้องเสียความภาคภูมิใจ เธอไม่เอา!! แต่นี่เธอทำได้แค่หุบปากให้สนิท ไม่เช่นนั้น...คงต้องฟังคำบ่นของเพลาพิลาศจนหูชา...เพราะหญิงสาวมั่นหน้า หล่อนไม่สนใจวิธีการ ขอแค่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการแค่นั้น...
“แกไม่ต้องขึ้นไปหรอกยัยพราว รออยู่นี่แหละ”
เพลาพิลาศสั่งให้พราวฟ้าจอดรถยนต์ใต้ถุนอาคารสูงเสียดฟ้า ที่พำนักของพุฒิพัฒน์ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก
พราวฟ้าเหลียวมองรอบตัว เธอไม่อยากให้เกิดข่าวฉาวๆ อีก แต่พี่สาวของเธอไม่เคยคิดระวังตัว หล่อนเดินฉับๆ ตรงไปยังลิฟต์แก้ว แบบไม่เร่งรีบ
มีแสงเพลชสว่างวาบ!! พราวฟ้าอยากเป็นลม ครั้งนี้คงไม่แคล้วได้ขึ้นหน้าหนึ่ง เมื่อสื่อต่างๆ จ้องจะประโคมข่าวฉาวของเพลาพิลาศซ้ำ เพราะมันสามารถทำเงินให้เขาได้มากโข เมื่อเป็นเรื่องเน่าๆ ผู้คนส่วนใหญ่นิยมเสพ
มือเรียวสอดลงไปในกระเป๋าสะพายข้างตัว ล้วงเอาคีการ์ดที่พุฒิพัฒน์ให้ไว้มาสอดในช่องเปิดประตู เสียงสัญญาณดังเบาๆ ‘ติ้ด’ แต่มันหมายถึงประตูห้องเปิดออกแล้ว หญิงสาวผลักประตูหนาทึบเบาๆ มันเปิดออกและรีบแทรกตัวผ่านเข้าไปในนั้น
“ดาร์ลิ่ง!!” เพลาพิลาศส่งเสียงทักทายหวานฉ่ำ เธอเดินวนรอบห้อง เพื่อหามองหาหวานใจ ต่อให้สะอิดสะเอียนรูปร่างอ้วนฉุของพุฒิพัฒน์ปานใด เธอก็ต้องทนฝืนเอาไว้ เมื่อชายหนุ่มมีสตางค์ในกระเป๋าเป็นฟ่อนๆ เขาพร้อมเปย์ไม่อั้น หากเธอทำให้เขาพอใจ
“คนสวย ผมอยู่นี่!!”