บทที่1.จุดเริ่มต้นของความแค้น.....
เหมืองแร่ปิยวาทิน... เป็นแหล่งผลิตแร่ขนาดใหญ่ มีออเดอร์ที่ต้องส่งออก มีรายได้มากมายมหาศาล จนมีแต่คนโลภอยากจะครอบครอง
แต่สิงหราชยืนเป็นก้าง จวบจนปัจจุบัน ไม่มีใครกล้ายื่นตีนเข้ามาแกว่ง เพราะหากถูกตอบโต้...มันหมายถึงความฉิบหาย!! เมื่อสิงหราชกัดไม่ปล่อย เขาถูกขนานนามว่าเสือบ้า...เพราะหากสิงหราชกัด เขากัดจมเขี้ยว!!
“ผมอยากเก่งได้ครึ่งหนึ่งของพี่”
เหมราชไม่ได้ล้อเล่น เขาอยากเก่ง อยากฉลาดเหมือนพี่ชาย แต่เขามันก็เป็นได้แค่ไอ้โง่ เพราะผู้หญิงหัวอ่อนคนเดียวเขายังถูกหล่อนหลอก ไม่คิดว่าใบหน้าหวานๆ ตาซื่อๆ จะถูกฉาบหน้าไว้ด้วยพิษร้ายๆ ของอสรพิษ
“แกเป็นแบบฉันได้วะเหม แต่แกต้องลุกขึ้นยืน ไม่ใช่นอนทอดอาลัยอยู่แบบนี้ อีห่านั่นมันไม่สนคนปวกเปียกหรอก!! แกก็ต้องแกร่ง แล้วกลับไปเอาคืน”
ในอนุสติของสิงหราช ไม่มีคำว่า ‘แพ้’ ใครดีมา เขาดีตอบ หากใครร้าย...มันจะได้ร้ายตอบนับสิบเท่า
หากเพลี่ยงพล้ำ หลงกลคนชั่ว ชายหนุ่มจะถอยไปตั้งหลัก และกลับไปย้อนเกร็ดเอาคืน
ให้พังกันไปข้างหนึ่ง สมยานามของสิงหราช คือ ‘สิงห์เถื่อน’
เขากัดไม่ปล่อย ฟัดไม่ยอมถอย หากจะพัง คนๆ นั้นต้องไม่ใช่เขา
“เปี๊ยกๆ ไอ้เปี๊ยก พานายเหมไปอาบน้ำ หายาให้กินด้วย อากาศมันเย็น น้ำในบึงก็เย็นฉิบหาย”
ฟันของเหมราชกระทับกันดังกึกๆ กักๆ เพราะอากาศช่วงเดือนธันวาคมมันเย็นยะเยือก น้ำในบึงไม่ต้องพูดถึง เหมือนโยนลงไปในบ่อน้ำแข็ง แต่เพราะความหวังดีของสิงหราช เขาอยากปลุกสติของน้องชาย ให้กลับเป็นผู้เป็นคน ไม่ใช่จมอยู่กับความผิดหวัง
“ทำเองยังจะบ่น”
เด็กชายวัยรุ่นบ่นอุบ เขาก้มหน้าหลบสายตา ‘ก็ใครจะกล้าสู้ตานายสิงห์ คนอะไรตาโหดฉิบหาย’
“กูให้มึงเฝ้านายเหมนะเปี๊ยก มึงเผลออีท่าไหน ปล่อยนายเหมรอดสายตา เกือบไปนะมึง”
ชายหนุ่มยังคงบ่น ‘และเด็กหนุ่มวัยรุ่นก็นินทาในใจ นายสิงห์ทำเหมือนผู้หญิงสูงวัย เป็นป้าแก่ๆ บ่นไม่เลิก’
“อย่าให้กูรู้นะเปี๊ยก มึงแอบเล่นเกม...กูจะตัดอินเตอร์เนต ไม่ต้องล่ง ต้องเล่นมันล่ะ”
ชายหนุ่มยังตะโกนขู่ ช่วงหัวเลี้ยว หัวต่อ ต้องจับตามองเหมราชแบบไม่ให้คลาดสายตา เขาอยากจะมาเฝ้าเอง แต่เกรงว่าจะทำให้เหมราชอึดอัดใจเพราะมันเหมือนกดดันน้อง แถมงานในเหมืองก็ยุ่งวุ่นวาย วันๆ แทบจะไม่มีเวลาหายใจ แล้วอย่างนี้...จะมีเมียได้ยังไง อยู่แต่กับฝุ่นผง จนมองเห็นก้อนกรวด ก้อนดินสวยปานนางฟ้า
“สัยหมดประจำเดือน...บ่นจัง ขู่ยังกับหมาแม่ลูกอ่อน”
เด็กวัยรุ่นปวดตับ เผลอพักตาแปบเดี๋ยว น้องชายนายหวิดดับ...
“นายเหม ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวผมหายาไว้ให้ กินกันหวัดจับ”
เปี๊ยกกลายเป็นเบ้เต็มตัว เขาต้องคอยบริการนายหนุ่มทุกเรื่อง แต่เพราะบุญคุณที่สิงหราชมีให้ เปี๊ยกไม่เคยเกี่ยงงอน เขาเต็มใจทำเต็มกำลัง
“เปี๊ยก ฉันดูน่าสงสารเหรอ?”
เหมราชถามเด็กหนุ่มเสียงอ่อน เขานั่งคอตก ไม่อยากขยับตัวทำอะไรสักอย่าง แม้จะมีสติขึ้นมากกว่าเก่า
“เรื่องปกติลวกเพ่...คนอกหักกะเป็นเงี้ยะทั้งนั้นแหละ จนกว่าจะหาคนใหม่มาดามใจได้”
เปี๊ยกพูดเหมือนรู้ดี เพราะเด็กสมัยนี้ ล้ำหน้ากว่าเยอะ เมื่อเทคโนโลยี เข้ามาเยือน มีทุกอย่างใน Google อยากรู้อะไร อากู่บอกได้หมด...แม้แต่เรื่องที่ใครๆ ก็คิดว่ามันยาก แต่มักจะมีข้อมูลแฝงไว้ ให้คนทั่วไปสืบค้น ไม่แปลกหรอกหากเด็กจะรู้มากกว่าคนโต
“ฉันรักใครไม่ได้อีกแล้ว ฉันรักเค้า” เหมราชเพ้อ ไม่มีใครทำให้เขาสุขฉ่ำได้เท่าเพลาพิลาศ หล่อนอ่อนหวาน เย้ายวน ลีลาของหล่อนตรึงใจ จนเขาหลงละเมอ
“อย่าปากๆ นายเหม...เปี๊ยกเห็นมาหลายรายแล้ว เมาหัวทิ่มจะเป็นจะตาย พอเจอคนใหม่ แทบจะลืมไปด้วยซ้ำว่าตอนเมาเพ้ออะไรไว้บ้าง”
เปี๊ยกแย้งเสียงหลง หนุ่มๆ ในเหมืองเกือบเป็นบ้าไปหลายคน หลังถูกจำปาแม่หม้ายสุดอึ๋มหักอก แต่พอมีคนงานสาวๆ เข้ามาใหม่ ก็ลืมจำปาเสียสิ้น และหากสาวเจ้าตอบรับ จำปาแทบจะหมดความหมาย
“ฉันพูดจริงเปี๊ยก คอยดูสิ เค้าไม่รักฉันก็ช่าง แต่ฉันจะรักเค้าอยู่แบบนี้แหละ”
เหมราชฉวยผ้าเช็ดตัวเนื้อนิ่มที่เปี๊ยกส่งให้เกือบเป็นกระชาก เขารักเพลาพิลาศและไม่มีทางเปลี่ยนใจ แม้หล่อนจะทิ้งเขาไปมีคนใหม่ แต่หัวใจรักของเขา จะยึดมั่นเหมือนเดิม...เขามั่นใจ...
“เอาที่สบายใจเลยลวกเพ่...”