บทที่1.จุดเริ่มต้นของความแค้น...
“พี่สิงห์อยากพูดอะไรก็พูดไปเถอะ...พี่พูดได้สิ...ก็พี่มันคนตายด้าน พี่ไม่มีหัวใจ”
เหมราชก่นว่าพี่ชาย สิงหราชเย็นชาไร้หัวใจ เขาไม่เคยเพลี่ยงพล้ำ เพราะหัวใจของสิงหราชเป็นสีดำ
“เออ...กูมันเป็นคนไร้ใจ...แต่กูไม่โง่”
เสียงกล่าวย้ำ ทำให้เหมราชอยากจบชีวิตมากขึ้น ใช่สิ!! เขามันก็ไอ้หน้าโง่คนหนึ่ง ที่ทุ่มเททุกอย่างให้กับเพลาพิลาศแต่กลับถูกหล่อนถีบหัวส่งแบบไม่ใยดี ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเขาจะเป็น หรือตาย
“ผมมันโง่ ผมไม่น่าเป็นน้องพี่เลย เงินทองที่พี่ให้ผมไป ผมยกให้หมดหล่อนไปหมด ไม่มีอะไรเหลือ เหลือแค่ร่างกายโทรมๆ ที่ไม่มีหัวใจ”
กำปั้นตันๆ ทุกโครมลงไปบนผิวดินแดง ฝุ่นผงกระจายฟ่อง และเปี๊ยกยืนมองตาปริบๆ เด็กชายไม่เข้าใจ อนุภาพความรักมันร้ายแรงขนาดนั้นเชียวหรือ ร้ายแรงขนาดเปลี่ยนแปลงผู้ชายอารมณ์ดีคนหนึ่ง ให้หมดอาลัยตายยาก
ตู้ม!! ซ่า!!
ร่างสูงใหญ่ของเหมราชถูกคนเป็นพี่ เหวี่ยงลงไปลอยคออยู่ในบ่อน้ำ ชายหนุ่มสำลักน้ำ รีบว่ายกลับเข้าฝั่งพร้อมกับร้องโวยวาย
“จะบ้าเหรอพี่สิงห์ หากผมจมน้ำตายไปล่ะ...พี่ตั้งใจฆ่าผมหรือไง?”
อารามตกใจ เหมราชลืมไปว่าตัวเองตั้งใจ...ตาย
“น้ำเย็นๆ ทำให้สมองแกโล่งขึ้นไหมล่ะเหม? เอาไอ้ความคิดทุเรศๆ นั่นทิ้งลงไปในน้ำด้วย เวลาแกขึ้นมาจะได้เป็นคนใหม่สักที”
“พี่สิงห์นี่โรคจิตปะ เอะอะใช้แต่กำลัง ผมกำลังล้มนะ ทำไมชอบเหยียบซ้ำ”
“ล้มก็ลุกสิวะ ไม่มีใครล้มแล้วลุกไม่ได้นี่หว่า”
สิงหราชแย้งเสียงแข็ง เขารู้ว่าเหมราชกำลังประชดชีวิต หนุ่มหัวอ่อนเปราะบาง ไม่มีเกราะกันภัย เมื่อเหมราชถูกฟูมฟักเหมือนไข่ในหิน เขาทนแรงกดดันไม่ได้เยอะเหมือนเขา
“ผมอาย...” ใบหน้าเปื้อนฝุ่นมอมแมมไปด้วยคราบน้ำ เงยขึ้นมองสบตาพี่ชาย ดวงตาของเขาเอ่อคลอไปด้วยน้ำใสใส
“เหอะ!! อายทำไม แกมีพี่อยู่ทั้งคน ใครหน้าไหนดูถูกแกบอกพี่...เดี๋ยวจะตามไปเอาลูกปืนยัดใส่ปากมันให้ เอาให้หุบปากไม่ทันเลยวะ”
นายเหมืองนิสัยดุดัน เพราะความจำเป็น สิงหราชกล้าแกร่ง เพราะคนงานที่อยู่ในเหมืองส่วนมากมาจากในคุก เขาต้องแกร่ง ต้องเก่ง ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถบงการ ตัวร้ายๆ เหล่านั้นได้ เรื่องปืน ผา หน้าไม้ เตะ ต่อย สิงหราชเชี่ยวทุกแขนง หากใครกล้าแหยม คนๆ นั้นอาจจะชะตาขาด เมื่อฤทธิ์หมัด หรือฤทธิ์บาทาของเขา ขนาดแรงม้าเตะ ในอดีตเคยมีคนคิดลองดี มันผู้นั่นนอนหยอดน้ำข้าวต้มเป็นเดือนๆ เพราะช้ำใน
“ผมไม่ชอบใช้กำลัง!!” เหมราชค่อยๆ ยันตัวขึ้นจากน้ำ เขาเปรยเสียงอ่อน
ในสังคมคนเมือง หากทำอย่างที่สิงหราชบอก เขาจะกลายเป็นคนเถื่อน เป็นฆาตกร
“แกมันแหยเหม...นายแม่ถนอมแกเกินไปจนแกอ่อนเป็นวุ้น แกมาอยู่ที่นี่ล่ะดี...พี่จะฝึกแกให้เป็นแมนเต็มร้อย ไม่ใช่อ่อนปวกเปียกเหมือนตอนนี้”
สิงหราชพูดเสียงห้าว เปี๊ยกยกมือขึ้นตบเปาะแปะ หากใครก็ตามที่ถูกเคี่ยวด้วยฝีมือนายสิงห์ รับประกันความห้าว เพราะหลักสูตรแต่ละอย่างที่เปียกเคยเห็น ‘มันโคตรโหด’ ขอบอก
ไม่มีคำตอบจากปากน้องชาย มีแต่ใบหน้าที่ก้มลงจนปลายคางจรดแผ่นอก เขาท้อแท้ หมดกำลังใจ ไม่อยากแม้แต่จะลืมตา ไม่อยากแม้แต่จะหายใจ
“อย่าคิดบ้าๆ แบบนี้อีก แกก็รู้ หากแกเป็นอะไรไป นายแม่คงสิ้นใจตามแก”
สิงหราชผ่อนลมหายใจยาวๆ เขานึกถึงมารดา สาวสังคมชื่อก้อง แม่นายของปิยวาทิน นายแม่สีลา ปิยวาทิน สิงหราชเป็นบุตรชายคนโต เขาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง เพราะบิดาสิ้นใจก่อนวัยอันควร สิงหราชจึงกระโจนเข้าสู่การทำงานตั้งแต่แรกรุ่น เขายอมทิ้งโอกาสที่จะไปเรียนต่อเมืองนอก เลือกเข้ามาบริหารงานเหมืองแร่เต็มตัวแทน โดยปล่อยให้น้องชายที่ห่างกัน2 ปี ให้อยู่กับมารดาที่บ้านหลังใหญ่กลางเมือง
ชายหนุ่มเรียนรู้ ตั้งแต่การทำงานระดับล่างๆ โดยหัวหน้าคนงานเก่าแก่ ลุงคำปันเป็นคนสอนสั่ง ไม่เกี่ยงแม้งานจะหนักจนเหนื่อยแทบขาดใจ เพียงเพราะต้องการรู้วิธีทำ เพื่อไว้ใช้สอนคนงาน
เรื่องตีรัน ฟันแทงเป็นเรื่องปกติ เหมือนอาหารที่ต้องกินเข้าไปประทังชีวิต เขาหัวหก ก้นขวิด เดินทางในเส้นทางลูกผู้ชาย จนแกร่งกล้าจวบทุกวันนี้