บทที่1.จุดเริ่มต้นของความแค้น
บทที่1.จุดเริ่มต้นของความแค้น...
ฝุ่นควันสีแดงๆ ลอยฟุ้งกระจาย ตลบอบอวนไปด้วยผงสีแดงก่ำ เมื่อรถยนต์สมรรถสูงวิ่งห้อตะบึงเข้ามาด้านในเหมืองแร่ ความเร็วรถยนต์เหมือนวิ่งอยู่กลางสนามแข่งขันกรังปรีซ์ อาจจะเป็นเพราะว่าคนขับเคลื่อนรถยนต์คันนั้นกำลังใจร้อน เขาเลยเหยียบคันเร่งเสียจมมิด ใบหน้ารกๆ เต็มไปด้วยหนวดเคราบึ้งตึง ดวงตาคมกริบดุดันประหนึ่งดวงตาของพยัคฆ์ร้ายเจ้าป่า เรียวคิ้วเข้มขมวดแน่น ยังไม่เท่ากับเรียวปากหนาที่เม้มจนเป็นเส้นตรง เกิดอะไรขึ้นนะ เกิดอะไรขึ้นกับชายผู้นี้?
เอี๊ยด!!
เสียงห้ามล้อดังสนั่น!! เมื่อรถยนต์จอดสนิทหน้าบ้านปีกไม้หลังเล็กๆ ริมสระน้ำขนาดย่อม
ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตตารางหมากรุกสีสนิมกระโดดลงมาจากรถยนต์อย่างว่องไว รองเท้าบูทยาวถึงกึ่งกลางน่องย้ำโครมๆ บนพื้น เมื่อเขาก้าวเท้ายาวๆ พร้อมกับแหกปากตะโกนลั่น
“ไอ้เปี๊ยกๆ ไอ้เปี๊ยกโว้ย!!” สายตาคมดุกราดมองรอบๆ ตัวบ้านที่เงียบสนิท เขาร้อนรนในหัวอก เหมือนกำลังมีภัยร้ายย่างกรายเข้ามาในชีวิตมันน่ากลัวจนขนลุกชัน!!
“นายๆ แย่แล้ว นายยยยยย” เด็กชายรุ่นกระทง ทรงผมบนศีรษะยังเกรียนกุด เมื่อเขายังอยู่ในวัยเรียนชั้นมัธยม เด็กชายผู้นั้นวิ่งหน้าตั้งตรงมาหาสิงหราช พร้อมทั้งตะโกนเรียกเขาเสียงหอบสั่น
“มึงเป็นห่าอะไรวะเปี๊ยก ทำไมไม่อยู่บ้าน แล้วนี่... เหมไปไหน?”
น้องชายคนเดียวที่เพิ่งจะกลับมาพำนักที่บ้าน เพราะเขาอกหักมาจากเมืองกรุง เมื่อแฟนสาวตีตัวออกห่าง หล่อนมีผู้ชายคนใหม่เข้ามาติดพัน และเขากำลังซึมเศร้า เหมราช ปิยวาทิน จึงหอบสังขารที่บอบช้ำกลับบ้านเกิดเมืองนอน อาศัยเหมืองแร่ของพี่ชายซุกตัวเลียแผลใจ
“นายเหมกำลังจะผูกคอตาย...” เปี๊ยกรีบละล่ำละลักบอก เขาย่องตามน้องชายนายหนุ่มไปเงียบๆ เพราะสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล
“อะไรนะ!! มึงนำกูเลยเปี๊ยกให้ไว”
สิงหราชกระโจนลงจากชานบ้าน เขาตะโกนลั่นเมื่อได้ฟังข่าวร้าย สองหนุ่มต่างวัยวิ่งหน้าตั้ง เบื้องหน้าคือดงไม้หนาทึบ สถานที่ที่เหมราชคิดจะปลิดชีพตัวเอง
เพียงเสี้ยวนาที ทั้งสองคนก็มาถึงจุดเกิดเหตุ ร่างสูงใหญ่ห้อยต่องแต่งอยู่บนกิ่งไม้มีเชือกเส้นโตรัดอยู่รอบลำคอ สองเท้าถีบอากาศว่างเปล่าแรงๆ ตามสัญชาตญาณมนุษย์ ดวงตาเขาพริ้มหลับ ลิ้นสีแดงสดแลบออกมาจุกอยู่ที่ปาก แต่ยังไม่ทันสิ้นใจ
สิงหราชล้วงปืนพกออกมาจากอกเสื้อ เขาเล็งเชือกที่ห้อยต่องแต่งและรัดแน่นที่ลำคอน้องชาย เมื่อมันโยงอยู่กับกิ่งไม้และเขามีเวลาไม่มากพอที่จะไปถึงโคนไม้ก่อนที่เหมราชจะสิ้นลม
เปรี้ยง!!
ตุ๊บ...
เสียงแรกคือเสียงปืนของสิงหราช เสียงที่สองคือเสียงเหมราชหล่นตุ๊บลงมากองที่พื้น
ชายหนุ่มกระโจนพรวดรวบร่างของน้องชายเอาไว้ เขาฟาดมือไปที่ใบหน้าคมคายของน้องชายในสายเลือดแรงๆ
เพี้ยะ!!
“คิดอะไรโง่ๆ วะห่ะ ถ้าแกตาย...อีนังนั่นมันคงสะใจพิลึกที่ตัวเองสามารถทำให้ผู้ชายหน้าโง่คนหนึ่ง จบชีวิตเพราะหล่อนได้”
เสียงสิงหราชดังปานฟ้าฝ่า เขากำมือแน่น พยายามไม่ระเบิดอารมณ์ออกมา เพราะรู้ว่าน้องชายกำลังเศร้าเสียใจ
“พี่สิงห์ช่วยผมทำไม? ผมอยากตาย...”
น้ำเสียงหมดอาลัยตายยาก น้ำตาลูกผู้ชายไหลริน เขาทนไม่ได้หากไม่มีเพลาพิลาศอยู่ในชีวิต เหมราชรักหล่อน รักจนตายแทนได้ แต่หล่อนกับไม่เห็นค่าความรักที่เขามอบให้ หล่อนกระโจนเข้าใส่มหาเศรษฐีแก่คราวพ่อ เพียงเพราะไอ้หมอนั้นให้หล่อนได้มากกว่าที่เขาเคยประเคนให้
“ฉันไม่นึกว่าแกจะโง่ได้ขนาดนี้นะ เหม...”
ชายหนุ่มผลักน้องชายจนกระเด็นไปคลุกฝุ่น เขาผุดลุกขึ้นยืน เก็บมัจจุราชสีเงินเข้าซอกอกเหมือนเดิม พร้อมกับปลายตามองน้องชายแบบเหยียดๆ
“พี่สิงห์ไม่เคยมีความรัก พี่ไม่รู้หรอกมันเจ็บปวดขนาดไหน” เหมราชยังฟูมฟายต่อ
“เอ่อ...กูไม่เคยรักใคร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากูรักใครไม่เป็นนี่โว้ย!! มึงเป็นน้องกูนะเหม ถ้าไม่ใช่...กูจะไม่ห่วงมึงเลยไอ้ห่า!! ผู้ชายเชี่ยอะไรวะ อกหักถึงกับอยากตาย มึงแน่ใจหรือว่ามึงแมน”
เสียงเหี้ยมกรรโชกใส่ นึกอยากจะซัดเหมราชให้หมอบ เสียแรงเป็นเลือดสีเดียวกัน ทำไมน้องชายถึงอ่อนปวกเปียกเช่นนี้
หนุ่มเมืองกรุงนอนหมอบราบไปกับพื้นดินแดงๆ เขาหมดอาลัย ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ หมดกำลังใจ จะมีลมหายใจเพื่ออะไร? ในเมื่อผู้หญิงที่ตนเองมอบหัวใจรักให้ ผละไปกับชายอื่น เขาหมดสิ้นทุกอย่าง ไม่อยากแม้แต่จะลืมตา