๑.๒ ภรรยาที่ไม่รัก
ภาพที่เห็นทำให้อันดามันเบิกตากว้างอย่างตกใจระคนงุนงง เพื่อนสนิทวิ่งออกมาจากห้องของผู้เป็นอาด้วยสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง โดยมีอาของเธอซึ่งมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันเอวสอบอยู่เพียงผืนเดียวก้าวตามออกมาติดๆ แม้จะยังไม่ได้ยินจากปากของใคร แต่แค่นั้นก็พอจะเดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนทั้งคู่
“หยี...”
เสียงเรียกที่คุ้นเคยทำให้สายน้ำผึ้งวิ่งเข้าไปกอดอันดามันเอาไว้แน่นทันที ร่างบางสั่นสะท้านและเอาแต่ก้มหน้างุดเพราะไม่กล้าสบตากับใคร ตอนนี้เธอทั้งอับอายทั้งเสียขวัญ ไม่คิดว่าจะมีบุคคลที่สามเข้ามารับรู้เรื่องที่น่าอายโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น อาภูทำอะไรเพื่อนมิ้มคะ”
“ผู้หญิงผู้ชายอยู่ในห้องสองต่อสองกลางดึก มิ้มคิดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ” จอมทัพตอบอย่างหงุดหงิดเป็นที่สุด เขาอยากตกลงกับแม่คนต้นเรื่องเงียบๆ มากกว่า แต่นี่ทั้งพี่ชายและหลานสาวซึ่งตอนนี้อยู่ในฐานะพี่สะใภ้กำลังจะทำให้มันยุ่งยากขึ้นกว่าเดิม
“มิ้มไม่ยอมนะคะอา เพื่อนมิ้มไม่ใช่ผู้หญิงข้างถนน อาจะมาทำเล่นๆ กับหยีไม่ได้ มิ้มต้องการให้อาภูรับผิดชอบ”
“จะเอาเท่าไหร่ก็ให้เขาว่ามา อาจะได้จ่ายแล้วจบๆ กันไป” ชายหนุ่มตอบง่ายๆ แต่ทำเอาทั้งอันดามันและสายน้ำผึ้งต่างอ้าปากค้าง
“อาภูพูดอะไรบ้าๆ ออกมา” อันดามันโวยวายดังลั่น อยากจะหาอะไรมาตีหัวอาของตัวเองสักเปรี้ยงนัก ทำไมถึงเขาถึงได้พูดจาย่ำยีสายน้ำผึ้งถึงเพียงนั้น
“แล้วมิ้มจะให้อาทำยังไง ในเมื่อเขามาขายตัวให้อา ไม่ให้อาจ่ายเงินแล้วจะให้อาทำยังไง”
“หยีไม่ใช่ผู้หญิงพรรค์นั้นนะคะอา มิ้มไม่ยอมให้อาทำชุ่ยๆ แบบนั้นกับเพื่อนมิ้มเด็ดขาด อาภูต้องรับผิดชอบหยีด้วยการแต่งงานกับหยีนะคะ” อันดามันยื่นคำขาดกับอาตัวเองทันที
“เสียสติ!” จอมทัพสบถออกมาแรงๆ “เพื่อนมิ้มมานอนให้ท่าอาถึงห้อง แล้วจะมาให้อารับผิดชอบขนาดนั้นได้ยังไง อีกอย่างเด็กคนนี้ก็จืดชืด หาความเร้าใจไม่มีเลยสักกะผลีก ขืนอาแต่งด้วย อาไม่ต้องทนเฉาไปทั้งชาติเหรอ”
ใบหน้าสวยหวานของสายน้ำผึ้งชาวาบ มองผู้ชายซึ่งกำลังผรุสวาทใส่ตัวเองอย่างอับอายที่ถูกปรามาสขนาดนั้น อารมณ์ในส่วนลึกผลักดันให้เธอเชิดหน้าขึ้น ตั้งป้อมสู้เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง
“แต่อาต้องแต่งกับหยีค่ะ ไม่อย่างนั้นหยีจะไปตรวจร่างกายและร้องเรียนสื่อมวลชนว่าหยีถูกอาลวนลาม จะเอาให้เป็นข่าวดังทั่วประเทศไปเลย ให้มันรู้กันไปว่ามันจะไม่กระทบกับธุรกิจและชื่อเสียงของอา”
“ยัยเด็กบ้า!” จอมทัพเดือดจัดแทบอยากจะปรี่เข้าไปบีบคอขาวๆ ของคนที่กำลังเชิดหน้าฉอดๆ ใส่เขา ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรอยู่แท้ๆ มารยานัก!
“ไม่บ้าค่ะแต่หยีเอาจริง อาภูต้องแต่งงานกับหยี” สายน้ำผึ้งมีท่าทีมุ่งมั่นเอาจริง มองหน้าหล่อๆ ที่ตอนนี้หงิกงออย่างไม่คิดจะประนีประนอมหากไม่ได้ตามที่ตัวเองตั้งข้อเสนอ
“ฉันจะแต่งงานกับเธอได้ยังไง ในเมื่อฉันไม่ได้รักเธอ แล้วเธอจะให้ฉันเอาผู้หญิงที่ฉันรักไปไว้ไหน”
“หยีไม่สน นั่นมันเรื่องของอา แต่เรื่องที่หยีต้องการก็คือ อาภูต้องแต่งงานกับหยีเท่านั้น”
“ยัยเด็กนรก! เธอเป็นคนก่อปัญหา แล้วยังจะเอาห่วงมาผูกคอฉันแบบนี้เหรอ ให้ตายสิ นี่มันบ้าชัดๆ” จอมทัพสบถอีกคำ ใบหน้าหล่อคมขบกรามเข้าหากันแน่น ไม่คิดว่าแม่สาวไร้เดียงสาจะเล่นงานเขาแบบนี้
“หยีเป็นเด็กนรกแน่ค่ะ ถ้าอาภูปฏิเสธความรับผิดชอบ ตกลงว่าไงคะ”
“ก็ได้... ในเมื่อเธอระริกระรี้อยากเป็นเมียฉันนัก ฉันก็จะทำให้เธอเป็นสมใจ แล้วอย่ามาโวยวายหรือขอความเห็นใจทีหลังล่ะ” เขาหรี่ตาลงอย่างคาดโทษ แววตาคมดุกระด้าง หากมันเป็นมีดก็คงเป็นมีดอรัญญิกสักพันๆ เล่มที่สามารถเชือดเฉือนเนื้อตัวเธอให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้อย่างง่ายดาย
“ขอบคุณค่ะ” สายน้ำผึ้งยักไหล่อย่างผู้ที่ได้รับชัยชนะ แต่เพียงครู่มือเล็กก็ถูกกระชากมายืนข้างๆ ร่างสูง ท่ามกลางสายตาของอันดามันและภีมภัทร
“โอ๊ย!” เสียงหวานอุทานออกมาด้วยความเจ็บ เพราะแรงมือของเขาไม่เบาเลยสักนิด
“นั่นอาภูจะพาหยีไปไหนคะ” อันดามันถามออกมาอย่างนึกเป็นห่วงสายน้ำผึ้ง เพราะไม่เคยเห็นจอมทัพโกรธมากเท่านี้มาก่อน
“ในเมื่อตกลงกันได้แล้ว อาก็จะพาเมียไปนอนต่อน่ะสิ มิ้มเองก็พาพี่ภีมกลับไปนอนเสียเถอะ เอาเวลาที่มายุ่งเรื่องของอาไปจู๋จี๋กันดีกว่า”
อันดามันหน้าแดงซ่านกับคำพูดที่ค่อนข้างตรงไปตรงมาของผู้เป็นอา จอมทัพพูดไม่ผิดนักหรอก เพราะเมื่อกี้เธอกับภีมภัทรเองก็กำลังช่วยกันโหมไฟรักเป็นระลอกที่สอง อย่างกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม แต่มีเสียงดังขึ้นกลางดึกเสียก่อน
“ยังไงอาภูก็อย่าทำอะไรรุนแรงกับหยีนะคะ มิ้มขอร้อง หยีเป็นคนดีนะคะอา” อันดามันอดที่จะเอ่ยปากขอร้องผู้เป็นอาไม่ได้
“เรื่องนั้นอาไม่รับปากหรอก ผัวเมียอยู่ในห้องด้วยกันคงต้องทำอะไรกันบ้างล่ะ จะแรงหรือจะเบามันก็ขึ้นอยู่กับระดับอารมณ์ในตอนนั้น”
เป็นอีกครั้งที่อันดามันต้องเหวอกับคำพูดของผู้เป็นอา ครั้นจะต่อปากต่อคำอะไรอีกก็กลัวจอมทัพจะโกรธกว่าเดิม จึงทำได้แค่หันไปมองหน้าสามีของตัวเอง จอมทัพจึงถือโอกาสกึ่งลากกึ่งจูงกึ่งบังคับให้สายน้ำผึ้งกลับเข้าห้องไปด้วยอีกครั้ง
“มิ้มเป็นห่วงหยีจังค่ะอา” อันดามันรำพึงขึ้นหลังจากที่ประตูห้องของจอมทัพปิดลง
“เอาน่าคนดี ใจเย็นๆ ก่อนเถอะนะ ภูไม่ใช่คนใจร้ายอะไรนักหรอก” ภีมภัทรเอ่ยปลอบภรรยาซึ่งมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด
“เวลาอาภูโกรธน่ากลัวจังค่ะ น่ากลัวพอๆ กับเวลาที่อาภีมโกรธนั่นแหละ”
“ยังไง”
“ร้อนพอๆ กับไฟแต่ก็เย็นเหมือนน้ำแข็งจนไม่รู้ว่าต้องรับมือยังไง” หญิงสาวตอบสามีไปตามที่ตัวเองเคยประสบ
“ถ้าอย่างนั้นก็กลับเข้าห้องไปกับอา อาจะทำให้มิ้มรู้ว่าตอนนี้ในตัวของอามีแต่ไฟและคนที่จะดับได้ก็มีแต่มิ้มคนเดียว” ภีมภัทรบอกตาพราวระยับ แขนแกร่งตวัดเอวเจ้าสาวหมาดๆ เข้าไปกอดไว้
“ไม่ง่วงบ้างหรือไงคะ เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนักหนา”
“อามีแรงถึงยันสว่างเลยล่ะ ไปกันเถอะ”
พูดจบภีมภัทรก็ย่อตัวช้อนอุ้มเอาร่างอรชรของภรรยาสาวขึ้นไว้ในอ้อมแขน แล้วพากลับเข้าห้องของตัวเองบ้าง
บรรยากาศระหว่างเจ้าบ่าวเจ้าสาวภายในห้องหอดำเนินไปอย่างหวานหอมอีกครั้ง ผิดกับห้องข้างๆ ซึ่งตอนนี้มีแต่ความเย็นชาและคุกรุ่นไปด้วยความตึงเครียด
สายน้ำผึ้งยืนตัวลีบ รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ขณะเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ตัวใหญ่และสูงกว่าเกือบฟุต ใบหน้าหล่อเหลาไม่แพ้ผู้ชายที่เธอเคยแอบปลื้ม ตอนนี้ถมึงทึงและบึ้งตึงเต็มแก่ สายตาที่มองมายังเธอก็ราวกับเพชฌฆาตที่กำลังจะประหารนักโทษ ทำให้หญิงสาวเกือบจะกลับคำเรื่องที่ต้องการให้เขาแต่งงานเพื่อรับผิดชอบเธอ
“อาคะคือว่าหยี...”