๒.๑ รอยสวาทชีคทมิฬ
๒
รอยสวาทชีคทมิฬ
แสงแดดยามสายๆ สาดส่องผ่านช่องหน้าต่างเข้ามากระทบร่างอรชรของสาวน้อยที่ยังนอนครุ่นคิดอยู่บนเตียงนอนหนานุ่ม
อรุโณทัยหมกมุ่นคิดถึงแต่ตอนที่ถูกชีคอัสรานรังแกเอาในงานวันเกิดของรัฐมนตรีอนุสรณ์เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา เจอกันไม่ถึงห้านาทีหล่อนก็ถูกผู้ชายเถื่อนๆ คนนั้นปล้นจูบไปเสียแล้ว มือน้อยๆ กำเข้าหากันอย่างเจ็บใจก่อนจะระรัวทุบลงที่หมอนอีกใบซึ่งวางอย่างอยู่ข้างๆ เพื่อระบายอารมณ์ขุ่นเคืองโดยคิดเอาว่า หมอนใบนั้นคือใบหน้าหล่อๆของ...ชีคอัสราน!!
มือเรียวบางยกขึ้นถูริมฝีปากของตัวเอง ซึ่งหล่อนทำแบบนี้มาหลายสิบรอบแล้ว แต่ทว่าถูยังไงก็ไม่อาจจะลบรอยจุมพิตป่าเถื่อนนั้นออกไปได้ ยิ่งคิดยิ่งก็ยิ่งเกลียด สาวน้อยบอกตัวเองว่าหล่อนขยะแขยงสัมผัสของเขาทุกอย่างไม่ว่าจากมือหรือจากริมฝีปากที่ทำให้หล่อนร้อนวูบวาบ เกลียดอย่างที่ไม่เคยเกลียดหรือขยะแขยงผู้ชายคนไหนเท่านี้มาก่อน แล้วอย่างนี้จะให้หล่อนแต่งงานไปกับผู้ชายบ้าตัณหาและไม่ให้เกียรติผู้หญิงแบบนั้นได้อย่างไร
เป็นไงเป็นกัน ในเมื่อผู้เป็นมารดาไม่ยอมช่วย หล่อนก็จำเป็นต้องช่วยตัวเองเพื่อให้รอดพ้นการเป็นเจ้าสาวขัดดอกของชีคอัสราน ผู้ชายที่หล่อนเกลียดหน้าเขาที่สุด
สาวน้อยลุกขึ้นจากเตียงนอนอาบน้ำแล้วแต่งตัวด้วยชุดเดรสแขนกุดผ้าแก้วปักดอกไม้ลายสีเขียวมิ้นท์ แต่งดอกไม้สีขาวช่วงคอเสื้อและแขนเสื้อ คาดเข็มขัดเล็กๆ ช่วงเอว ดวงตาสีน้ำตาลมองตัวเองในกระจกแล้วไม่ชอบใจเอาเสียเลยที่ชุดนี้ทำให้หล่อนดูน่ารักสดใสเป็นพิเศษทั้งๆ ที่อยากจะทำให้ตัวเองดูไม่ได้มากที่สุดในสายตาของผู้ชายคนนั้น เขาจะได้ตกลงทำตามข้อเสนอของหล่อน
ร่างอรชเดินลงจากบันไดมา คุณหญิงอรอุษาซึ่งนั่งจิบกาแฟยามเช้าอยู่ที่โต๊ะอาหารเห็นลูกสาวแต่งตัวด้วยชุดสวยสดใสก็ขมวดคิ้วมุ่นเล็กน้อย
“จะไปไหนลูกอ้อ”
“อ้อจะออกไปธุระข้างนอกน่ะค่ะคุณแม่ เลยมาเรียนให้คุณแม่ทราบก่อน” สาวน้อยปดมารดา
“ธุระอะไร?” คุณหญิงอรอุษาซักตามปกติวิสัย
“ธุระกับเพื่อนน่ะค่ะ อ้อจะขับรถไปเองนะคะ กลับไม่ค่ำค่ะคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วง”
“แล้วที่ปวดหัวเมื่อคืนหายดีแล้วเหรอ”
“หายแล้วค่ะคุณแม่ เอ่อ... คุณแม่พอจะทราบไหมคะว่าชีคอัสรานพักที่ไหน” อรุโณทัยเลียบเคียงถาม หากแต่คำถามนั้นทำเอาคนเป็นแม่ต้องขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัยทันที
“ถามทำไมลูกอ้อ”
“อ้อก็ถามไปอย่างนั้นล่ะค่ะ เห็นเขาเป็นคนโปรดคุณแม่นี่คะ”
“เห็นพี่อาร์มบอกว่าพักที่โรงแรม...” คุณหญิงอรอุษาบอกชื่อโรงแรมระดับห้าดาวย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยาไป “ความจริงแม่กะว่าจะชวนมาพักที่บ้านเราเหมือนกัน แม่เห็นว่ามีบอดี้การ์ดมาด้วยหลายคนเลยเกรงว่าจะไม่สะดวก”
อรุโณทัยคิดว่าดีแล้วที่เป็นอย่างนั้นหล่อนจะทำอะไรได้สะดวกๆ หน่อย ไม่อย่างนั้นคงถูกมารดาหยิกเนื้อเขียวแน่ๆ หล่อนอยากจะรู้นักว่าคุณหญิงอรอุษาจะยังปลื้มชีคอัสรานอยู่ไหมถ้ารู้ว่าเขาล่วงเกินหล่อน ทั้งๆ ที่พึ่งจะได้พูดคุยกันไม่กี่ประโยค
“ถ้าอย่างนั้นอ้อไปก่อนนะคะ”
“ไม่ทานข้าวเช้ากับแม่ก่อนเหรอลูก”
“อ้อยังไม่หิวค่ะ” สาวน้อยเดินเข้ามากอดมารดาและหอมแก้มเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปยังโรงรถ เลือกรถคันที่ใช้เป็นประจำ แล้วสตาร์ทเครื่องออกไปจากบริเวณคฤหาสน์
รถมินิคูเปอร์สีขาวแล่นเรื่อยๆ ไปตามถนนก่อนจะเลี้ยวเข้าไปจอดยังลานจอดรถของโรมแรมหรูระดับห้าดาวซึ่งชีคอัสรานพักอยู่ สาวน้อยลงจากรถและก้าวไปที่ประชาสัมพันธ์เพื่อสอบถามถึงห้องพักของคนที่หล่อนตั้งใจจะมาเจรจากับเขา
“ขอโทษนะคะพอดีแขกท่านนี้เป็นแขกวีไอพี ดิฉันจำเป็นต้องแจ้งให้ท่านทราบก่อนน่ะค่ะว่าคนที่มาขอพบเป็นใคร” ประชาสัมพันธ์สาวบอกแก่อรุโณทัยด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรตามแบบอย่างของพนักงานบริการที่ดี
เรียวปากเรียวบางเม้มเข้าหากันเล็กน้อย รู้สึกหมั่นไส้เหลือประมาณ ใช่สินะ ทั้งหล่อ ทั้งรวย คงจะกลัวมีคนบุกมาหา หรือไม่ก็อาจจะกำลังมีธุระกับสาวสวยบางคนอยู่ตามประสาคนขาดผู้หญิงไม่ได้ก็เป็นได้
“รบกวนบอกเขาว่าดิฉัน ‘อรุโณทัย’ มาขอพบค่ะ” สาวน้อยตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพเช่นกัน
“กรุณารอสักครู่นะคะ”
ประชาสัมพันธ์สาวกดโทรศัพท์ต่อตรงไปยังห้องของแขกวีไอพี พูดในสำเนียงภาษาอังกฤษกับปลายสายสักครู่ก็วางสายลงแล้วหันมาทางสาวน้อย
“ท่านอนุญาตให้คุณอรุโณทัยพบได้ค่ะ เชิญค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
สาวน้อยกล่าวขอบคุณประชาสัมพันธ์ก่อนจะเดินตรงไปที่ลิฟต์ กดตัวเลขชั้นที่เป็นห้องพักของชีคอัสราน เพียงไม่ถึงสองนาทีประตูลิฟต์ก็เปิด อรุโณทัยก้าวออกจากลิฟต์แล้วเดินไปทางซ้ายมือ หยุดอยู่หน้าห้องๆ หนึ่งซึ่งมีบอดี้การ์ดสองคนในชุดสูทสากลยืนรออยู่แล้ว
“ดิฉันมาขอพบชีคอัสรานค่ะ” เสียงหวานบอกความประสงค์ของตัวเองกับบอดี้การ์ด
“เชิญครับเจ้านายรอคุณอยู่”
มือเรียวบางหมุนลูกบิดพบว่ามันไม่ได้ล็อกราวกับคนข้างในรอคอยการมาของหล่อนอยู่แล้ว ร่างอรชรก้าวเข้าไปในห้องสูทสุดหรูด้วยหัวใจที่เต้นระทึก บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไม อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศภายในห้องนั้นเย็นฉ่ำด้วยการทำงานของเครื่องปรับอากาศที่เงียบกริบจนแทบจะไม่ได้ยินเสียง บนโซฟามีร่างสูงสง่าผู้หนึ่งนั่งไขว่ห้างอยู่ ร่างกายเขามีเสื้อคลุมสีขาวสวมทับอยู่ ตะเข็บเสื้อคลุมเปิดแยกอวดแผงอกกว้างกำยำซึ่งประดับด้วยขนอ่อนดกดำที่จัดเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ
หัวใจดวงน้อยของอรุโณทัยเต้นไม่เป็นส่ำ ภาพของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าสามารถเล่นงานจนชีพจรของหล่อนทำงานอย่างสับสน ดวงตาคู่คมจับจ้องมองมาไม่วางตา กลิ่นหอมแบบบุรุษเพศจากกายเขากรุ่นมาโอบล้อมกายอรชรคล้ายกำลังถูกวงแขนหนานั้นกอดรัดไว้เช่นเดียวกับเมื่อคืนชวนให้เกิดอาการหวามหวิวและวูบโหวงในช่องท้องอย่างประหลาด
สาวน้อยตกอยู่ในห้วงภวังค์จวบจนกระทั่งร่างสูงลุกขึ้นมาหยุดยืนตรง พร้อมกับเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงทุ่มลึกแบบที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองซึ่งตรงข้ามกับหล่อนโดยสิ้นเชิง
“อรุณสวัสดิ์สาวน้อย ไม่คิดว่าผมจะได้เจอคุณเร็วกว่าที่คิดไว้เสียอีก”
แพขนตางอนสวยกะพริบหนึ่งครั้งอย่างคนที่พึ่งจะหลุดจากภวังค์ ใบหน้าสวยหวานร้อนผ่าวขึ้นด้วยความเขินอายระคนขุ่นเคืองที่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหวั่นไหวจนทำให้สูญเสียความมั่นใจและลืมจุดประสงค์การมาที่นี่ไปชั่วขณะ
“ดิฉันมาที่นี่เพื่อเจรจากับคุณ” เสียงหวานเอ่ยขึ้น แต่ชีคอัสรานรู้สึกเหมือนหล่อนเป็นหนูน้อยที่กำลังอาจหาญต่อกรกับราชสีห์อย่างเขา