๑.๒ คู่หมั้นชีคทมิฬ
คุณหญิงอรอุษากลับมาบ้านในตอนค่ำ ทันทีที่มาถึงก็ตรงดิ่งไปยังห้องลูกสาวคนเดียวเพื่อสอบถามความเรียบร้อยอีกครั้งหลังจากได้รับรายงานจากแพทตี้เรื่องชุดมาแล้วรอบหนึ่ง
“ว่าไงคะลูกอ้อชุดสวยถูกใจไหม”
“ก็สวยดีค่ะคุณแม่”
“ไหนขอแม่ดูหน่อย”
คุณหญิงอรอุษาเยื้องย่างอย่างสง่างามไปที่ตู้เสื้อผ้าของอรุโณทัย ซึ่งในนั้นมีชุดราตรีสั้นสีน้ำทะเลรูปทรงเรียบหรู แต่ดูเก๋และทันสมัยสมกับวัยของคนเป็นลูก
“อืม...สวยดี”
“พี่แพทตี้เลือกให้น่ะค่ะ”
“ไม่ผิดหวังเลยที่ไว้วางใจแพทตี้ วันมะรืนใส่ชุดนี้แล้วอย่าลืมใส่เครื่องเพชรชุดเล็กที่แม่ซื้อไว้ให้ล่ะ ลูกอ้อสวยอยู่แล้วไม่ต้องใส่เครื่องประดับอะไรมากให้มันเกะกะตาหรอก” คุณหญิงอรอุษาย้ำ เรื่องรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้เลยต้องเป๊ะคุณหญิงถึงจะยอม
“ค่ะคุณแม่” สาวน้อยได้แต่รับคำเสียงเอื่อยๆ
“ทำหน้าให้มันสดใสร่าเริงหน่อยสิคะลูกอ้อ ถ้าวันที่ชีคอัสรานมาลูกอ้อห้ามทำหน้าแบบนี้เด็ดขาดนะคะ หนูต้องทำหน้ายิ้มแย้มเหมือนกับคนที่กำลังจะได้เจอคู่หมั้นคู่หมายถึงจะถูก” คนเป็นแม่กำชับ
“โธ่...คุณแม่คะ อ้อไม่ได้เต็มใจจะหมั้นกับเขาสักหน่อย”
“ปกติลูกอ้อเป็นคนว่าง่ายนี่คะ เชื่อแม่อีกสักครั้ง รับรองว่าลูกอ้อจะไม่ผิดหวัง”
สาวน้อยได้แต่ก้มหน้างุดอย่างซังกะตาย จะทำยังไงได้เมื่อมารดาจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพเรียบร้อย อีกทั้งพินัยกรรมของผู้เป็นบิดาที่ระบุเอาไว้ จะบิดพลิ้วก็กลัวถูกตราหน้าว่าขี้โกง ไม่รักษาสัญญา ไหนจะพี่ชายซึ่งทำงานอยู่ที่โดฮาราอีก ถ้าหากชีคจอมหื่นนั่นเกิดไม่พอใจขึ้นมาแล้วกลั้นแกล้งพี่ชายของหล่อน คนที่รับกรรมก็คือครอบครัววีรวิญช์นั่นเอง
“ถ้างั้นสักพักก็อาบน้ำแล้วลงไปทานข้าวกับแม่นะ”
“เดี๋ยวอ้ออาบน้ำเสร็จจะตามลงไปค่ะคุณแม่”
ค่ำนั้นสองแม่ลูกก็รับประทานอาหารค่ำกันตามลำพังอีกเช่นเคย คุณหญิงอรอุษาเข้มแข็งมากเพราะตั้งแต่คุณอธิวัฒน์ผู้เป็นเสาหลักของครอบครัวจากไปเมื่อสองปีที่แล้วนางก็ต้องเป็นเสาหลักให้กับลูกๆ แทนสามี อรุโณทัยไม่เคยเห็นผู้เป็นมารดาแสดงความอ่อนแอมาให้เห็นเลยสักครั้ง ตรงกันข้ามคุณหญิงอรอุษากับมีทัศนคติในด้านบวกและใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีความสุข
“วันนี้มีแต่กับข้าวอร่อยๆ คิดถึงพี่อาร์มจังเลยนะคะคุณแม่” เสียงใสเปรยขึ้นในระหว่างรับประทานอาหาร
“อยากไปเยี่ยมพี่อาร์มไหมล่ะลูก”
ดวงตาใสดั่งน้ำค้างเป็นประกายวิ้งวับทันที “คุณแม่จะพาอ้อไปเหรอคะ”
“เปล่าหรอก... แต่แม่จะให้อ้อไปกับชีคอัสรานคู่หมั้นของลูกอ้อต่างหาก”
“คุณแม่น่ะ...” คนแง่งอนได้แต่ตัดพ้อ “จะให้อ้อไปกับเขาได้ยังไงคะ”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะลูกอ้อ ก็เขาเป็นคู่หมั้นของลูกไม่น่าเกลียดอะไรหรอก ต่อไปก็ต้องตบแต่งออกเรือนกันไป” คุณหญิงอรอุษาไม่ได้มีท่าทีเดือดร้อนตรงกันข้ามกลับสนับสนุนอีกต่างหาก
“แล้วถ้าเขาเกิดเบี้ยวไม่แต่งด้วยล่ะค่ะ”
“แม่เชื่อว่าชีคอัสรานไม่ใช่คนอย่างนั้น”
“แต่คุณแม่ยังไม่รู้จักเขาดีพอเลยนะคะ” อรุโณทัยแย้งมารดา
“แม่เชื่อในสายตาของคุณพ่อ ถ้าเขาเป็นคนไม่ดีคุณพ่อของลูกอ้อคงไม่คิดจะฝากฝังลูกไว้กับเขาหรอก” คุณหญิงอรอุษาให้เหตุผล
“เขาอาจจะบีบังคับคุณพ่อก็ได้นะคะ”
“ผู้ชายที่หล่อเหลาแถมร่ำรวยมหาศาลเพียบพร้อมขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องบังคับเพื่อให้ได้ผู้หญิงสักคนหรอกค่ะลูกอ้อ”
อรุโณทัยได้แต่ก้มมองจานข้าวอย่างยอมแพ้ผู้เป็นมารดา ดูเหมือนว่าคุณหญิงอรอุษาจะเชื่อมั่นในตัวชีคอัสรานเสียจริงๆ ทั้งๆ ที่พฤติกรรมของเขาออกจะเสื่อมเสียขนาดนั้น และนั่นยิ่งเพิ่มความเกลียดที่มีต่อชายหนุ่มผู้ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นมากขึ้นไปกว่าเดิมอีกเป็นเท่าทวี
แล้ววันที่อรุโณทัยไม่อยากให้มาถึงก็มาถึงจนได้ เช้าวันเสาร์คุณหญิงอรอุษาตื่นมาแต่เช้าปลุกให้อรุโณทัยเพื่อให้ช่างจากร้านมาทำผมแต่งหน้าให้ สาวน้อยทำหน้าเซ็งๆ แต่ขัดผู้เป็นมารดาไม่ได้ หล่อนไม่อยากสวย ไม่อยากเด่น ไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของใคร โดยเฉพาะ ‘ชีคอัสราน’ เขาไม่มองหล่อนเลยยิ่งดี
ผมดำขลับนุ่มสลวยถูกช่างผมอาชีพจัดแต่งทรงให้อย่างคล่องแคล่ว กินเวลาไปเกือบสองชั่วโมงก็ได้ทรงผมที่พร้อมจะออกงาน หลังจากนั้นช่างเสริมสวยก็ลงมือแต่งหน้าให้อย่างประณีตที่สุด คุณหญิงอรอุษามองลูกสาวตัวเองแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับความสดใสและสวยสง่าซึ่งมีอยู่อย่างเพียบพร้อมในตัวอรุโณทัย
“คุณหนูอ้อนี่สวยจังเลยนะคะคุณหญิง ตอนไม่แต่งว่าสวยแล้ว พอแต่งแบบนี้ยิ่งเปล่งประกายออร่าเข้าไปใหญ่” ช่างผมหันไปเอยชมกับคุณหญิงอรอุษาหลังจากที่เสร็จงานตัวเองแล้ว
“รายนี้เขาสวย แต่ไม่ค่อยชอบแต่งตัว”
“ไม่ต้องแต่งก็สวยค่ะคุณหญิง หายากนะคะคนที่จะสวยทั้งแต่งและไม่แต่งแบบหนูอ้อเนี่ย”
“ปากหวานเชียว ยังไงก็ขอบใจนะจ้ะ แล้วจะแวะมาใช้บริการใหม่”
คุณหญิงอุษายิ้มแย้มอย่างพอใจก่อนจะจ่ายค่าจ้างพร้อมกับทิปงามๆ ให้กับช่างทั้งสามคน ทุกคนต่างยิ้มแย้มกับผลงานและค่าจ้างที่ได้รับก่อนจะลากลับ
ค่ำนั้นที่บริเวณคฤหาสน์ของรัฐมนตรีซึ่งก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์น ถูกประดับประดาด้วยดวงไฟสีนวลตา โคมไฟระย้าหรูหราถูกเปิดใช้งานทั่วทุกมุมตึก เสียงเครื่องสายจากเครื่องดนตรีคลาสสิกดังขับกล่อมในท่วงทำนองสบายหู แต่ทว่าผู้คนในงานซึ่งล้วนแต่เป็นสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีจากวงสังคมชั้นสูงต่าง ต่างไม่มีใครสนใจจะซาบซึ้งกับความไพเราะของดนตรีเหล่านั้น บ้างก็กำลังยืนโอภาปราศรัยกันตามมุมต่างๆ สลับกับจิบเครื่องดื่มราคาแพง และหัวเราะออกมาแบบรักษาจริตเป็นบางครั้งบางคราว
รถเบนซ์คันหรูของคุณหญิงอรอุษาแล่นเข้ามาจอดรวมกับรถคันอื่นๆ หลังจากที่คนขับรถกุลีกุจอลงมาเปิดประตูให้อย่างนอบน้อม คุณหญิงอรอุษาและอรุโณทัยก็ก้าวลงจากรถแล้วเดินเคียงกันเข้าไปในตัวคฤหาสน์ สายตาของผู้คนในบริเวณนั้นต่างก็จับจ้องมายังร่างอรชรในชุดราตรีสั้นสีน้ำทะเลพร้อมกับส่งเสียงซุบซิบ ส่วนใหญ่จะเป็นไปในทางชื่นชมเพราะวันนี้อรุโณทัยสวยโดดเด่นสะดุดตาด้วยเรือนร่างอรชรผุดผ่องด้วยผิวพรรณขาวสล้างดั่งงาช้างซึ่งถูกขับด้วยชุดราตรีสั้นสีน้ำทะเลตัดกับสีผิวทำให้สาวน้อยดูสวย สง่า และสดใสในคราเดียวกัน