๑.๑ คู่หมั้นชีคทมิฬ
๑
คู่หมั้นชีคทมิฬ
ร่างเพรียวระหงเจ้าของส่วนสูงหนึ่งร้อยหกสิบแปดเซนติเมตรในชุดลำลองเสื้อยืดรัดรูปสีฟ้ากางเกงขาสั้นสีขาวอวดลำขาเรียวยาว กำลังก้าวลงจากบันไดไม้สักมันปลาบของคฤหาสน์หลังงามราคาแพงลิบลิ่วที่ผู้เป็นบิดาทิ้งไว้เป็นมรดกก่อนจะสิ้นบุญ ผมยาวสลวยสีดำขลับที่ยาวจนถึงกลางหลังถูกรวบเป็นทรงหางกระรอกเอาไว้ ทำให้ใบหน้ารูปหัวใจซึ่งประกอบด้วยเครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มนั้นเด่นขึ้นมาสะดุดตาคนมองโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องสำอางชนิดใดเข้ามาช่วยเลย
อรุโณทัย วีรวิชญะ สาวน้อยวัย 22 ปี ที่พึ่งจบการศึกษาระดับปริญญาตรีมาหมาดๆ พาตัวเองไปนั่งลงบนโซฟาสีครีมหนานุ่มแล้วหยิบนิตยสารบันเทิงชื่อดังที่ผู้เป็นมารดาชอบซื้อหามาอ่านขึ้นมาพลิกดูผ่านๆ ก่อนจะสะดุดตากับบางข่าวที่ทำให้ต้องรีบวางนิตยสารเล่มนั้นลงราวกับมันเป็นของร้อน
“ทำอะไรอยู่ลูกอ้อ” คุณหญิงอรอุษาผู้เป็นมารดาเอ่ยถามเมื่อเห็นใบหน้าของลูกสาวกระเง้ากระงอดคล้ายกำลังโกรธใครสักคนมาเป็นสิบชาติ
“อ่านนิตยสารของคุณแม่นั่นแหละค่ะ”
“ทำหน้าบึ้งตึงแบบนี้แสดงว่าอ่านข่าวของชีคอัสรานแล้วใช่ไหม” มารดาถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่ได้มีทีท่าว่าจะทุกข์ร้อนกับข่าวความเจ้าสำราญของชีคอัสราน ฟาติน อัลกาตานี ผู้เป็นคู่หมั้นของลูกสาวแต่อย่างใด
“คุณแม่ก็เห็นแล้วว่าเขาเป็นพวกหนุ่มคาสโนวาแค่ไหน ยังจะให้อ้อแต่งงานกับเขาอีกเหรอคะ” สาวน้อยตัดพ้อมารดาอย่างน้อยใจ
“อ้อก็อย่าคิดมากสิลูก มันเป็นปกติของผู้ชายที่ทั้งหล่อ ทั้งรวย และเพียบพร้อมในทุกๆ ด้าน ย่อมจะมีความเจ้าสำราญบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่พอแต่งงานไปแล้วเขาก็เลิกเองนั่นแหละ” คุณหญิงอรอุษาพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาตามประสาผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมามาก
“แล้วถ้าเขาไม่เลิกล่ะคะคุณแม่”
“ลูกอ้อก็ต้องใช้เสน่ห์ของลูกอ้อมัดใจเขาไว้ แล้วก็ทำให้เขาเลิกให้ได้สิคะ”
“แต่อ้อเกลียดเขา ไม่อยากเข้าใกล้ ไม่อยากแต่งงานกับเขานี่คะคุณแม่” ใบหน้าสวยหวานของสาวน้อยเต็มไปด้วยความยุ่งยาก
“ได้ยังไงล่ะลูกอ้อ ยังไงคุณพ่อก็ตกปากรับคำยกลูกอ้อให้แต่งงานกับเขาแล้วนะ สัญญาก็ต้องเป็นสัญญา อย่าลืมนะว่าที่เรามีวันนี้ได้ก็เพราะชีคอัสรานช่วยเหลือคุณพ่อเอาไว้” ผู้เป็นมารดาย้ำเพื่อให้อรุโณทัยนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในช่วงที่ครอบครัวของหล่อนพบกับมรสุมเศรษฐกิจ
เมื่อสิบปีก่อน อธิวัฒน์ วีรวิชญะ ผู้เป็นบิดาของอรุโณทัยเดินทางไปทำธุรกิจบ่อน้ำมันที่ประเทศในแถบตะวันออกกลาง ด้วยความเป็นมือใหม่และถูกหุ้นส่วนฉ้อโกงจึงทำให้ประสบปัญหาติดหนี้จำนวนมหาศาลจนเกือบถูกฟ้องล้มละลาย โชคดีที่ได้ชีคอัสราน ฟาติน อัลกาตานี มหาเศรษฐีชาวโดฮารา วัย 32 ปี เจ้าของโรงแรมหรูและบ่อน้ำมันอีกนับร้อยยื่นมือเข้ามาช่วยจึงทำให้อธิวัฒน์รอดพ้นจากวิกฤตครั้งนั้นมาได้ โดยอธิวัฒน์ได้ทำสัญญากู้เงินไว้กับชีคอัสรานและสิ่งที่อรุโณทัยพึ่งรู้ก่อนจะที่บิดาจะเสียชีวิตเมื่อสองปีที่แล้วก็คือ ในสัญญาระบุเอาไว้ด้วยว่าอรุโณทัยจะต้องแต่งงานกับเจ้าหนี้ของพ่อทันทีหลังจากที่หล่อนเรียนจบ
อรุโณทัยไม่เคยพบเขา แต่ข่าวคราวที่ออกมาตามหน้าสื่อไม่ว่างเว้นทำให้สาวน้อยพร่ำบอกกับตัวเองว่าเกลียดผู้ชายคนนี้จนไม่อาจจะยอมแต่งงานด้วยได้!
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่จ้ะลูกอ้อ นี่พี่อาร์มก็พึ่งโทรมาบอกแม่ ว่าวันเสาร์นี้ชีคอัสรานจะเดินทางมาเมืองไทยเพื่อร่วมฉลองวันเกิดของท่านรัฐมนตรี ลูกอ้อเตรียมตัวไว้นะ แม่จะได้พาไปแนะนำตัวอย่างเป็นทางการกันเสียที” คุณหญิงอรอุษาบอกเสร็จสรรพและรู้สึกกระตือรือร้นเป็นพิเศษที่จะได้พบกับว่าที่ลูกเขย
“แล้วพี่อาร์มมาด้วยไหมคะคุณแม่” อรุโณทัยถามถึงพี่ชายซึ่งเดินทางไปดูแลบริษัทที่โดฮาราแทนผู้เป็นบิดาตั้งแต่สองปีที่แล้ว
“ไม่มาจ้ะ พี่อาร์มบอกว่ากำลังยุ่งฝากให้แม่เป็นธุระเรื่องชีคอัสรานแทน”
“อ้อไม่ไปไม่ได้เหรอคะคุณแม่” คนเป็นลูกมุ่ยหน้าในขณะพยายามต่อรอง
“ไม่ได้สิคะลูกอ้อ” ผู้เป็นมารดาบอกด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“วันเสาร์นี้มันเร็วไปนะคะคุณแม่ นี่ก็วันพฤหัสแล้ว อ้อยังไม่มีชุดที่จะใส่ไปงานเลยค่ะ” สาวน้อยอิดออดหาทางเอาตัวรอด
“เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหา เดี๋ยวแม่จะให้ร้านเสื้อเอาแบบมาให้เลือกนะ อยากได้ชุดไหนลูกอ้อก็เลือกเอา แต่ต้องใส่แล้วสวยสง่าแล้วก็โดดเด่นเป็นที่สะดุดตานะเข้าใจไหมลูก อ้อ...แล้วก็ห้ามไม่สบาย ห้ามปวดหัว ห้ามตัวร้อน และก็ห้ามเป็นไข้นะจ๊ะลูกสาว เดี๋ยวแม่ออกไปทำธุระก่อนจะกลับมาค่ำๆ” คุณหญิงอรอุษาจัดการปิดทางที่อรุโณทัยจะบิดเบือนทุกทาง ก่อนจะหิ้วกระเป๋าแอร์เมสใบโปรดออกไปนอกบ้าน
อรุโณทัยได้แต่นั่งทอดถอนหายใจเพราะไม่อยากจะเจอกับชีคอัสรานผู้ชายที่หล่อนบอกตัวเองว่าเกลียดขี้หน้าเขาตั้งแต่ยังไม่ได้เจอกัน ข่าวของเขาลงนิตยสารบ่อยมากถึงมากที่สุด ทั้งนี้เพราะเขาจัดว่าเป็นหนุ่มหล่อ แถมมีฐานะร่ำรวยติดอันดับโลก บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ทุกมุมเมืองต่างให้ท่าและพร้อมจะพลีกายให้เขาเชยชม หล่อนไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่เป็นเครื่องสนองอารมณ์ของผู้ชายมากรักอย่างชีคอัสราน สาวน้อยบอกตัวเองว่าเกลียดเขาตั้งแต่ยังไม่พบหน้ากันด้วยซ้ำ
ตอนบ่ายวันนั้นร้านเสื้อก็นำชุดราตรีหรูหราจำนวนห้าชุดมาให้อรุโณทัยลองตามคำสั่งของคุณหญิงอรอุษา เนื่องจากสาวน้อยเป็นผู้หญิงที่จัดได้ว่ามีทรวดทรงองค์เอวได้รูปไม่แพ้นางงามคนไหนจึงมีใช่ปัญหาว่าจะว่าใส่ชุดไม่ได้
“น้องอ้อนี่ผิวสวยจังเลยนะคะขาวอมชมพูเลย ดูสิใส่ชุดไหนก็ดูดีไปหมด” เจ้าของร้านเสื้อซึ่งเป็นสตรีประเภทสองจีบปากจีบคอเอ่ยชม
“อ้อเอาชุดไหนก็ได้ พี่แพทตี้เลือกให้อ้อเลยค่ะ” เสียงใสตอบเนือยๆ
“ถ้าอย่างนั้นเอาชุดราตรีสั้นสีน้ำทะเลก็แล้วกันนะคะ รับรองว่าใส่แล้วต้องเฉิดฉายกว่าทุกคนในงานแน่ๆ เลยค่ะ”
“แต่อ้ออยากได้ชุดเรียบๆ มากกว่านะคะพี่แพทตี้”
“ไม่ได้นะคะน้องอ้อ เดี๋ยวคุณหญิงแม่หยิกพี่แพทตี้เนื้อเขียว ท่านเน้นนักเน้นหนาว่าน้องอ้อต้องโดดเด่นที่สุดในงาน”
“แต่อ้อว่า...” สาวน้อยกำลังจะแย้ง
“ไม่ต้องแต่แล้วค่ะน้องอ้อ ในงานมีแต่ลูกท่านหลานเธอ น้องอ้อจะน้อยหน้าคนอื่นได้ยังไง เอาเป็นว่าพี่แพทตี้จัดชุดนี้ให้ก็แล้วกันนะคะ” ชายร่างบึกหัวใจหญิงสรุปให้โดยไม่ยอมฟังความคิดเห็นของสาวน้อยแต่อย่างใด