บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ชีวิตที่เลือกไม่ได้ (1)

บทที่ 1 ชีวิตที่เลือกไม่ได้ (1)

“หูหนวกเหรอ บอกว่าให้ไปส่งที่ถนนสาม พูดแค่นี้แกฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง”

หญิงสาวร่างเล็กที่เพิ่งเดินกลับเข้ามาในร้าน ผงกศีรษะรัว ๆ รีบคว้าข้าวของแล้วเดินออกไปตามถนนอีกครั้ง โดยมีเสียงก่นด่าไล่หลังมา

‘แคลร์’ หญิงสาวที่เพิ่งจะเข้ามาทำงานพาร์ตไทม์ที่นี่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ แต่เธอต้องจดจำเส้นทางทุกตรอกซอกซอย

หล่อนไม่ได้หวาดกลัวเสียงของเจ้าของร้านที่ขู่ตะคอกไล่เธอออกมา แต่สิ่งที่ทำให้กลัวที่สุดก็คือหากถูกหักเงิน เย็นนี้จะต้องมีปัญหากับผู้เป็นพ่อเมื่อกลับไปถึงบ้านอย่างแน่นอน เธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังถนนเส้นที่เจ้าของร้านบอก

“ร้านที่ห้าจากฝั่งซ้ายมือ ร้านที่มีป้ายนกสีเหลือง คงร้านนี้สินะ”

หญิงสาวเงยหน้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อขึ้นมองป้ายร้าน ก่อนจะเอื้อมมือไปจับลูกปิดประตู แต่ปรากฏว่ามีคนมากมายจากด้านในผลักประตูแล้วพากันวิ่งหนีตายออกมา หญิงสาวถูกกระแทกด้วยฝูงชนที่กรูกันออกมาจนเซไปด้านหนึ่งและล้มลง

“ที่นี่มีระเบิด เร็วเข้า รีบหนีกันเร็วเข้า”

ช่วงโกลาหลเสียงของผู้คนที่กำลังกลัวตายก็ดังขึ้น ในวินาทีนั้นแคลร์ไม่ได้สนใจฟังสิ่งที่ผู้คนร้องบอก สายตาของเธอเอาแต่จับจ้องไปที่กล่องอาหารที่หล่นกระจัดกระจาย

“เดี๋ยวก่อนสิคะ อย่าเหยียบอาหารของฉันแบบนั้น คุณคะ”

หญิงสาวร้องตะโกนบอก ในขณะที่ทุกคนต่างพากันเอาตัวรอดหนีตายกันจ้าละหวั่น ด้วยกลัวว่าจะไม่ได้ค่าแรงกลับไป เมื่อผู้คนออกไปกันจนหมด เธอจึงคลานไปเก็บกล่องอาหาร แต่ทว่าก็มีเสียงดังสนั่นขึ้นจากชั้นบนสุดของอาคาร

บึ้ม!

หญิงสาวหดตัวยกมือขึ้นป้องหู ดวงตาเบิกโพลงตกใจอย่างสุดขีด ร่างเล็กนั่งขดตัวแข็งทื่อ ไร้เรี่ยวแรงและสติพอที่จะพาตัวเองออกไปจากสถานการณ์เลวร้ายตรงหน้า

เศษกระจกละเอียดที่กำลังร่วงหล่นปลิวว่อนราวหิมะ ก่อนที่ของแข็งบางอย่างจะร่วงหล่นลงมาตรงที่หญิงสาวนั่งอยู่

“ระวัง!!”

เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงใหญ่ของเขา หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยจากลำแขนแกร่งที่ช้อนอุ้มเธอออกมาจากจุดนั้น

เมื่อเสียงเงียบลง หญิงสาวค่อย ๆ ปรือตาและเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของอ้อมแขนที่กำลังโอบอุ้มเธออยู่ เรือนผมสีอ่อนและนัยน์ตาสีเดียวกันของเขามันวิบวับเมื่อต้องแสงอาทิตย์ แม้สถานการณ์จะเลวร้าย แต่ผู้ชายคนนี้กลับดึงสติของเธอไปได้ทั้งหมด

หล่อ..อย่างกับเทพเจ้าปั้น

“ซื่อบื้อหรือไง ถึงได้นั่งอยู่แบบนั้น เกือบพาฉันตายไปด้วยแล้วไง หรือกำลังรอให้เจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วย ฮึ”

ดวงตาเพ้อฝันเพียงเสี้ยววิของแคลร์ เปลี่ยนเป็นเบิกโพลงทันที คิ้วโก่งขมวดกันแน่น และคำพูดของเขาดึงสติเธอกลับคืนมาได้ทั้งหมดอีกครั้ง สองมือเล็กยกขึ้นผลักแผงอกของเขาออก

“ไอ้บ้า ใครขอให้ช่วยกัน ปล่อยฉันลงเลยนะ แกสิฉวยโอกาส”

เขาปล่อยร่างเล็กลงให้เป็นอิสระ ก่อนจะจ้องสำรวจเจ้าของใบหน้าหวานอย่างละเอียดอีกครั้งพร้อมส่ายหน้าไปมา

“ทำคุณบูชาโทษแท้ ๆ ขอบคุณสักคำไม่มี แถมยังปากดีอีก รู้งี้น่าจะปล่อยให้ตายไปซะ”

“ขะ ขอบคุณ แต่ฉันไม่ได้ขอให้ช่วย”

“เออ...เสือกเองแหละ”

“.......”

นี่เป็นเรื่องที่เขารู้สึกว่าโง่ และเสียเวลาในชีวิตมากที่สุด ดวงตาคมของเขาหรี่มองต่ำลงมาที่หน้าอกคู่โตของหญิงสาวตรงหน้า พร้อมยกยิ้มที่มุมปาก เมื่อถูกจ้องอย่างเปิดเผย หญิงสาวจึงทำได้แค่เบี่ยงตัวหลบ

แคลร์เกลียดสีหน้าท่าทางของเขา ที่มองมาเหมือนกับเห็นขนมหวานชิ้นหนึ่ง ด้วยเธอมักจะถูกผู้ชายมากหน้าหลายตาจ้องมองและแทะโลมเธอด้วยสายตาหื่นกามมาโดยตลอด

ปัญหาของเธอนั้นไม่ได้มีเพียงแค่การหาเงินประทังชีวิตในแต่ละวัน แต่มันยังรวมไปถึงการพยายามเอาตัวให้รอดพ้นจากการถูกคุกคามจากพวกผู้ชายที่เห็นเธอเป็นเหมือนวัตถุเพศ

ชายหนุ่มมองดูใบหน้าเล็กด้วยความรู้สึกขบขันอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป

“ระวังตัวให้ดีเถอะ สักวันจะล้มหน้าทิ่มเพราะไอ้นมที่ใหญ่เกินตัวของเธอ”

“ไอ้ ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ ไอ้ ไอ้”

ชายหนุ่มหันกลับมามองหญิงสาวด้านหลังอีกครั้ง ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง ที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่แน่ใจ แต่นั่นแหละเพียงแค่หยุดสายตาไว้ที่ใบหน้าหวาน หัวใจของเขากลับเต้นรัวเร็ว

“กลับบ้านไปหาแม่เถอะนะ น้องหนู พี่ไม่ว่างอยู่เล่นด้วยหรอก”

ชายหนุ่มตะโกนบอกออกไป ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองทางเดิน ปากบางกระตุกยิ้มอย่างมีเลศนัย เมื่อนึกถึงหน้าอกคู่หยุ่นเมื่อครู่...

มันเป็นสิ่งหนึ่งที่เขาจดจำได้อย่างไม่มีวันลืม นั่นก็คือผ้ากันเปื้อนที่หญิงสาวสวมเอาไว้

และมันคือเป้าหมายต่อไป..ที่เขาจะต้องเข้าไปจัดการ

.....................................

“ข้าวของเสียหายขนาดนี้ยังมีหน้ามาขอค่าแรงอีก ฉันไม่เรียกพวกอันธพาลมาทำร้ายแกก็ดีเท่าไหร่แล้ว”

เสียงของเจ้าของร้านตวาดหญิงสาวอย่างไม่ไว้หน้า แคลร์หวาดกลัวที่สุดก็คือการที่เธอจะไม่ได้รับเงินค่าแรงกลับบ้าน

“แต่มันเกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ นะคะ คุณไปดูก็ได้ว่าฉันพูดความจริงหรือเปล่า”

“ต่อให้มันมีระเบิดหรือใครจะตาย แกก็มีหน้าที่จะต้องส่งของให้ลูกค้าให้สำเร็จและเอาเงินกลับมา ไม่อย่างนั้นก็ต้องเอาข้าวของกลับมาให้ครบ ไม่ใช่เอาขยะกลับมาเรียกร้องความเห็นใจจากฉัน แกเข้าใจมั้ยยัยเด็กโง่”

“ขอร้องล่ะนะคะ หนูเพิ่งจะมาทำงานที่นี่ได้เพียงแค่อาทิตย์เดียว ค่าแรงก็ยังไม่มากพอเท่ากับค่าประกันที่ถูกหักเอาไว้เลย วันนี้หนูขอค่าแรงกลับบ้านก่อน ได้โปรดเถอะนะคะ คุณพ่อของหนูกำลังรออยู่”

“แกจะเอาข้ออ้างอะไรมาพูดก็ได้ แต่ฉันไม่มีทางให้เงินแกเด็ดขาด”

“ได้โปรดเถอะค่ะ จะให้หนูไปทำงานอะไรเพิ่มก็ได้หนูไม่เกี่ยง แต่วันนี้หนูขอค่าแรงกลับบ้านไปหน่อยได้มั้ยคะ”

เจ้าของร้านรูปร่างอ้วน กักขฬะ ดวงตาเจ้าเล่ห์ มองเธอมาด้วยสายตาน่าขนลุก ย่างเท้าเข้าหาสาวน้อยก่อนจะกระซิบบางอย่างลงที่ข้างหู

“ถ้าอยากได้เงินจริง ๆ งั้นก็ยอมมาให้ฉันเล่นด้วยสักวัน แล้วฉันจะให้ค่าตอบแทน ไปอีกเท่าตัวเลย เป็นไง”

เพียงแค่ได้ยินเถ้าแก่ร้านแสดงความหื่นออกมา หญิงสาวก็ไม่รีรอที่จะตะโกนใส่หน้าเขากลับไปด้วยความโกรธ

“ฉันมาทำงานเพื่อเอาค่าแรงนะ ไม่ได้มาขายตัว”

“หนอย นังเด็กนี่ ฉันอุตส่าห์เสนอหนทางที่ทำให้แกได้เงินกลับบ้าน ให้พ่อของแกมากกว่าเดิม แต่แกกลับมาขึ้นเสียงใส่”

“ฉันมาทำงานเอาเหงื่อแลก ไม่ได้เอาอย่างอื่นแลก ฉะนั้นคุณช่วยจ่ายค่าแรงฉันอย่างตรงไปตรงมาด้วยเถอะค่ะ แต่ถ้าจะโกงกันงั้นฉันขอลาออก”

แคลร์ลุกขึ้นยืนพูดเสียงดังฟังชัด พร้อมเขยิบตัวหนีเตรียมผละไป แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวเท้าออก เจ้าของร้านหื่นกามก็รีบเข้ามากระชากตัวของเธออย่างแรง พร้อมกับตะโกนใส่หน้า

“แกอย่าคิดว่าจะหนีไปง่าย ๆ โดยที่ไม่จ่ายค่าเสียหายอะไร ถ้าแกไม่ทำตามที่ฉันเสนอ แกก็ต้องจ่ายค่าอาหารและค่าข้าวของที่แกทำพังให้ฉัน”

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ฉันไม่ได้เป็นคนทำข้าวของพวกนั้นเสียหายสักหน่อย แล้วอีกอย่างในเมื่อคุณไม่ยอมจ่ายค่าแรง ก็ถือว่าเจ๊ากัน”

“หนอย หัวหมอนักนะ ตามมานี่ ฉันจะให้พวกนักเลงพวกนั้นเอาแกไปขายซ่องให้ดู”

เพื่อเอาตัวรอดหญิงสาวสู้ขัดขืนเต็มที่ เธอส่งเสียงกรีดร้องดังลั่น เพื่อหวังให้ใครสักคนกล้าพอที่จะยื่นมือเข้ามาช่วย แต่ไม่มีใครเลย ด้วยไอ้อ้วนจอมหื่นค่อนข้างมีอิทธิพลในละแวกนี้

ในขณะที่เธอกำลังสิ้นหวังและไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วย แรงฮึดสู้ที่เป็นเพียงที่พึ่งเดียวในชีวิต ก็ทำให้หญิงสาวตัดสินใจเตะเข้าไปที่หว่างขาของชายตรงหน้า

ตุบ!

เสียงร่างใหญ่โตของเจ้าของร้านล้มลงกับพื้นพร้อมเสียงร้องโอดโอย จากนั้นแคลร์ก็รีบวิ่งออกมา ก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนออกจากตัวแล้วเหวี่ยงกลับเข้าไปในร้าน

“ไอ้ร้านแบบนี้ใครจะไปอยากทำงานด้วย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel