บทที่ 3.2 เท่าไหร่
บทที่ 3.2 เท่าไหร่
ชายหนุ่มนึกโกรธในใจ ขอให้จัดการยัยม้าพยศที่อยู่ตรงหน้าให้ได้เสียก่อน แล้วจะกลับไปจัดการกับซิกม่าเจ้าของบาร์ โทษฐานที่เอาของแสลงมาให้เขา
“โว้ย เดี๋ยวกูก็เผาแมร่งมันทั้งบาร์เลย แสบนัก!!” ร่างสูงสบถออกมาทันทีเมื่อถูกเสยด้วยศอกแหลมอย่างแรงจนเจ็บ
“บอกว่าอย่าเข้ามา อย่าเขย่าตัว อย่าเพิ่งไง…อุ๊ก”
เพราะเพิ่งจะอาเจียนไปได้แค่รอบเดียว เมื่อถูกอีกฝ่ายออกแรงเขย่าเนื้อตัวจนหัวสั่นหัวคลอน อาการที่มันคล้ายเหมือนมีคลื่นมหาสมุทรอยู่ในช่องท้อง พานทำให้แองเจล่าปล่อยของเก่าที่มีอยู่ออกมาจนหมดกระเพาะ
“เวรเอ้ย อ้วกล้วน ๆ เล่นกูแล้วรอบนี้” ร่างสูงสบถออกมา พร้อมผลักคนตัวเล็กลงโซฟาทันที ก่อนจะทำหน้าพะอืดพะอมกับกลิ่นเปรี้ยวและเศษซากที่ยัยแสบฝากรักเอาไว้
คนอาเจียนพอได้ปล่อยของเก่าออกมาจนหมด ก็ถึงกับโล่งสบายก่อนจะตะแคงตัวแล้วหลับไปทันที ส่วนคนที่โดนอาเจียนรดใส่ตั้งแต่หน้าท้องลงไปถึงกางเกงที่สวมก็เลอะเทอะเหม็นคลุ้งไปทั้งตัว
“เวรจริง ๆ เห็นว่าสวยหน่อยเลยคิดจะเล่นด้วย แต่เสือกสวยแต่รูปจริง ๆ ซิกม่าส่งมาทำงานได้ไงวะเนี่ย”
คลอฟท์หัวเสียอย่างแรง เที่ยวซ่องฟาดหญิงมาเยอะยังไม่เคยเจอใครแบบนี้ ในใจอยากจะจับแม่ผู้หญิงคนนี้โยนออกไปนอกห้องเสียด้วยซ้ำ เขาหาเศษผ้าที่หล่นอยู่บริเวณนั้นขึ้นเช็ดคราบเปรอะออกไปลวก ๆ ก่อนจะเดินกลับไปหยิบเอาอาวุธคู่ใจซึ่งวางอยู่บนโต๊ะใกล้ ๆ แต่เสียงปืนที่ดังมาจากภายในโดมด้านใน ทำให้สัญชาตญาณของคลอฟท์รีบคว้าอาวุธขึ้นมา จัดเตรียมขึ้นลำรอทันที
ปึง ปึง!!!
เสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมเสียงเรียกของคนสนิท
“นาย..เกิดเรื่องแล้วครับ”
คลอฟท์เดินไปฉวยหยิบเสื้อแจ็คเก็ตหนังขึ้นมาสวม โดยที่ไม่ทันได้รูดซิปแล้วรีบมาเปิดประตู
“พวกตะวันออกมาที่นี่ ตอนนี้เหมือนเราจะเจอกับหัวกะทิของพวกมันเลยล่ะครับ” ลูกน้องคนสนิท..เฟย..รายงานทันที
ชายหนุ่มนึกถึงใบหน้าของคนที่เขาเคยดวลปืนด้วยเมื่อปีกลาย มันคือพี่ใหญ่ของตระกูลหยวน ซึ่งการใช้ปืนคู่ครั้งนั้นทำเขาเกือบเสียท่า เพราะไม่คิดว่ามันจะเป็นคนที่สามารถเหนี่ยวไกติดกันได้ว่องไวขนาดนั้น
“วันนี้เป็นวันดีอะไรของกูวะ ได้แต่ของดี!!..แถมยังมาเสือกเจออริเก่า”
“จะให้เราเรียกคนมาเพิ่มไหมครับ?”
“หมายความว่ายังไง?”
“ก็คนที่เราพามาตอนนี้ ถูกไอ้พวกตะวันออกสามคนนั่นเก็บไปเกือบครึ่งแล้ว พวกมันทำท่าเหมือนกับว่าเราเอาของสำคัญของพวกมันไปไอ้ตัวพี่คนรองกำลังคลั่งอาละวาดใหญ่เลยครับนาย ตอนนี้แขกในร้านกำลังหนีตายออกนอกร้านกันหมดแล้วครับ”
คลอฟท์กระตุกยิ้มเหี้ยม ที่นี่เป็นเขตการปกครองส่วนกลาง ที่นี่มีกฎระเบียบชัดเจนว่าห้ามก่อความวุ่นวาย ไม่อย่างนั้นจะต้องถูกเรียกเข้าสภากลาง มันเหมือนโชคเข้าข้างเขาเพราะตอนนี้เขากำลังต้องการแรงหนุน เพื่อทำการขยายอาณาเขตให้ฝั่งตะวันตก
“ช่างแมร่ง ปล่อยพวกมันไปก่อน วันนี้ถึงกูจะไม่จัดการมัน เดี๋ยวสภาก็เรียกมันเข้าไปเอง แล้วตอนนั้น…กูค่อยไปกระทืบมันในสภาดีกว่ากูก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าไอ้แก่แบรี่ มันจะมีหนังหน้าอะไรมาปกป้องคนของมัน หึ..อย่างน้อย ๆ งานนี้ก็ต้องมีเสียเขตการปกครองกันบ้างล่ะ”
ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเหี้ยมหยัน ก่อนจะหันกลับไปมองร่างบอบบางซึ่งยังคงนอนตะแคงอยู่ในท่าเดิมบนโซฟาตัวยาว ถึงแม้เรื่องภายในบาร์กำลังวุ่นวายและชวนให้เขาเข้าไปตะลุมบอนด้วย แต่เขากลับไม่คิดจะใส่ใจเท่ากับคนที่นอนอยู่บนโซฟา คลอฟท์กระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์
“ไปเอารถมา กูจะกลับแล้ว แล้วค่อยสั่งพวกมันถอยทีหลัง”
“ครับนาย”
ร่างสูงเดินเข้าหาร่างอรชรอ้อนแอ้นที่นอนปิดเปลือกตาสนิทอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว เขาใช้สายตาแทะโลมไล้ไปตั้งแต่เรียวขาขาวก่อนจะหยุดมองอยู่ที่ใบหน้าสวย ถึงแม้จะหัวเสียกับกลิ่นที่เธอทิ้งเอาไว้แต่จะให้จากไปโดยไม่ทันได้เอาคืนให้สาสมก็ดูจะเป็นเรื่องที่โง่เกินไปเสียหน่อย