บทที่ 3 เสือร้าย 1.2
วิตโตริโอถามอีกครั้งเมื่อเห็นเธอนิ่งงัน แล้วเผลอจ้องมองดวงหน้าของปรางค์รวี เธอสวยและน่ารัก ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่มองมาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก หวาดหวั่น หากแต่เจิดจรัสพร่างพรายเป็นประกายสดใสในบางครั้ง หัวใจของคนที่มองกระตุกวูบ หวามไหวในร่างกายเป็นอย่างมาก เมื่อสายตาของเขาหลุบต่ำลงมองคอเสื้อของเธอ สิ่งที่เขาเห็นคือก้อนเนื้อสองก้อนที่แนบชิดบดเบียดอยู่ในเสื้อในสีสวย
ฉับพลันนั้นความคิดบางอย่างก็แวบเข้ามาในหัว ความคิดนั้นคือ วิธีลงโทษสาวน้อยตรงหน้าที่กล้าพูดพาดพิงเขาจนเขาหยิบยื่น แทนวิธีเดิมที่ตั้งใจไว้ มือหนายกขึ้นสูงใช้หลังมือไล้ไปที่แก้มนวลเบาๆ เธอเบี่ยงหน้าหนีสัมผัสจากเขา ใบหน้าหวานใสแดงเรื่อ มือบางกระชับที่คอเสื้อ เมื่อเห็นสายตาของเขาโลมเลียที่เนินอก
“ปรางค์ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นหนูหรือแมว”
เธอตอบเสียงเบาเจือสั่น ขยับเท้าเพื่อเบี่ยงตัวหนีร่างหนาที่คุกคาม แต่มือใหญ่ก็จับท่อนแขนเล็กไว้มั่น ก่อนจะรั้งร่างงามเข้ามาประชิดตัว
“ฉันจะบอกให้ก็ได้ว่าเธอเป็นอะไร เธอเป็นนางแมวไง นางแมวยั่วสวาท”
วินาทีต่อมาร่างของปรางค์รวีแข็งดุจหิน เมื่อเรียวปากทาบทับกลีบปากนุ่มอย่างรวดเร็วโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว เขาบดเคล้าปากแนบแน่น เคลียคลอสร้างความรัญจวน ใช้ความชำนาญแยกปากของเธอแล้วสอดลิ้นเข้าไปพัวพันแลกรัดลิ้นนุ่ม ที่ตื่นเต้น ตื่นกลัว ประหม่า ร่างกายสาวสั่นยามที่ลิ้นหนาเสาะแสวงหารัดเกี่ยวกับลิ้นบางอย่างเร่าร้อน สมองของเธอชาไปหมด ไม่มีสติหลงเหลืออยู่ ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะขัดขืน ยืนอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มแปลกหน้าที่ฉกฉวยจูบแรกไปซึ่งหน้า ทำให้เธอมึนงง สับสน อ่อนแรงไร้การต่อสู้ ยืนนิ่งให้เขาหาความหวานจากปากของเธอเป็นเวลานาน
ความเร่าร้อนและเรียกร้องจากจูบของเขา ส่งผลให้ร่างกายสาวสั่น หัวใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ร้อนรุ่มไปทั่วร่าง กระแสอะไรบางอย่างวิ่งไหลวนผ่านลิ้นหนาที่เกี่ยวพันลิ้นนุ่ม ส่งผ่านมาทางลำคอไหลอาบดั่งสายน้ำตกที่ไหลออกมาจากภูเขาสูง กระทบกับภายในร่างกายจนความเย็นแปรสภาพเป็นความร้อน มันวูบวาบ อย่างที่ปรางค์รวีไม่เคยพบเจอมาก่อน ลิ้นสากใหญ่ยังคงสำรวจหาเกล็ดความหวานจากปากของเธออย่างต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด หญิงสาวรู้สึกว่ากำลังหายใจไม่ออก ออกซิเจนในร่างกายเหลือน้อยเต็มที เลือดในร่างหมุนเวียนช้าลง สมองของเธอหยุดการทำงาน ดวงตาที่ปรือสลัว เริ่มมีความมืดมิดมาเยือน
วิตโตริโอจูบเธอด้วยความกระหายซ่าน ริมฝีปากสีชมพูของเธอช่างนุ่มราวกับครีมนม ความหวานจากปากของเธอเหมือนน้ำผึ้งสดที่ดื่มกินจากรวงผึ้ง ทั้งหอมและหวานยิ่งดื่มกินยิ่งกระชุ่มกระชวย มีพลังขึ้นมาอย่างร้ายเหลือ กลีบปากนุ่มของเธอช่างวิเศษจริงๆ ร่างกายของเขาตื่นตัวทีละนิด คราแรกตั้งใจแค่ลงโทษเธอด้วยการจูบ แต่เมื่อความหวานที่เขาได้รับทำให้เขาคิดที่จะทำอย่างอื่นเพิ่มเติมขึ้นมา
“เฮ้ย!” เสียงห้าวร้องแสดงความตกใจ เมื่อเธอคอพับคออ่อน ร่างกายทรงตังยืนไม่ได้ ดีที่ว่าเขากอดเธอไว้ ไม่เช่นนั้นคงรูดตัวลงไปนอนที่พื้น
วิตโตริโอรีบช้อนอุ้มร่างของคนเป็นลมไปยังโซฟา วางร่างเล็กอย่างนุ่มนวล มองใบหน้างามยามหมดสติอย่างเพลิดเพลิน เขาหัวเราะออกมาเบาๆ ส่ายศีรษะกับท่าทางของหญิงสาวไร้เดียงสาตรงหน้า
“แค่จูบนิดเดียว ใจเสาะเป็นลมซะแล้ว ถ้าทำอย่างอื่นมีหวังได้หัวใจวายแน่ๆ” เขาพูดกับร่างที่หลับใหล เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง นั่งทำงานอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทอดสายตามองนางแมวยั่วสวาทเป็นระยะ ร่างกายของเขาร้อนขึ้นมาทุกครั้งที่มองมาที่เธอ กระโปรงนักศึกษาที่สั้นเหนือเข่า ร่นขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ เผยให้เห็นเรียวขาสวย ทรวงอกที่ดันเสื้อออกมาทำให้เขาหายใจติดขัดไม่ทั่วท้อง ไม่มีสมาธิทำงาน อย่างจะทำอย่างอื่นมากกว่า วิตโตริโอตัดสินใจคว้าสูทของเขา เดินมาหานางแมวยั่วสวาทคลุมร่างกายของเธอให้มิดชิดกว่านี้ ก่อนที่เขาจะทนไม่ไหว หลังจากนั้นเขาเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง และก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียว
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปไม่ขาดไม่เกิน ร่างอรชรเริ่มขยับตัว ดวงตาทั้งสองข้างค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างเชื่องช้า มองเพดานสูงชั่วครู่เพราะรู้สึกมึนงงจากนั้นจึงขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ใบหน้าของปรางค์รวีแดงขึ้นเรื่อยๆ มือบางยกขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตัวเธองอย่างเผลอไผล รสชาติของการจูบที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน มันช่างวาบหวิวเสียจนหัวใจของเธอสั่นยามเมื่อคนที่จูบตน
แล้วเมื่อนึกถึงวิตโตริโอ ที่ก็เพิ่งนึกออกว่า ก่อนที่ตนจะหมดสติเธออยู่ในห้องทำงานของเขา และตอนนี้เธอก็ยังอยู่ห้องเดิม และเหมือนปรางค์รวีจะรู้ตัวว่ามีสายตาของใครคนหนึ่งจ้องอยู่ แน่นอนว่าจะเป็นสายตาของใครไปไม่ได้นอกจาก สายตาของวิตโตริโอ
ตามสัญชาตญาณเธอหันไปมองตามความรู้สึก ใบหน้าของปรางค์รวีเกลื่อนไปด้วยความตื่นตกใจเมื่อดวงตาคู่งามมองเห็นร่างสูงใหญ่ของวิตโตริโอนั่งมองตนอยู่ ชนิดที่ว่าตาไม่กระพริบ มองนิ่งนานตรงเนินอกคู่งามที่โผล่ล้นออกมา เนื่องจากกระดุมเสื้อชุดนักศึกษาของเธอหลุดออกหนึ่งเม็ด หญิงสาวมองตามสายตาของเขา มือบางรีบตะครุบที่คอเสื้อ มืออันสั่นเทากลัดกระดุมเสื้อเป็นพัลวัน
“จะไปไหน” เสียงทรงอำนาจเอ่ยถามเมื่อเห็นปรางค์รสีลุกขึ้นยืน เดินตรงไปหยิบกระเป๋าถือที่ตกอยู่บนพื้นห้องจุดที่เธอโดนจูบ
“กลับบ้าน” เธอตอบเสียงเบา ปรางค์รวีคงไม่มีหน้าทำงานที่นี่แน่ ยิ่งอยู่ใกล้ชิดเขา ทำงานร่วมกับเขา รับรองเธอต้องหัวใจวายเข้าสักวัน ดวงตาของเขาช่างร้อนแรงยามที่เธอเมียงมองและสบตา อีกทั้งการกระทำของเขาก็จาบจ้วงเกินกว่าจะรับได้
“ไม่ฝึกงานแล้วหรือไง” เขาถาม หญิงสาวหยุดชะงักเล็กน้อย ใช่เธอมาที่นี่เพื่อฝึกงาน หากไม่ทำเธอก็จะไม่จบ ไม่มีคะแนนเหมือนเพื่อนคนอื่น ปรางค์รวีสับสนคิดอะไรไม่ออก อยากทำงานที่นี่ต่อก็อยากทำ หากแต่ใจไม่สู้ดีเอาเสียเลยเวลาที่อยู่ใกล้เขา รสจูบของเขาทำให้ความคิดและสติของเธอหยุดนิ่ง ปรางค์รวีกลัวว่ามันจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำสองอีก