บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 มาเป็นเมียผมซะเถอะ…คนสวย 2

มัสลินหยัดยืนลุกขึ้น เท้าเล็กๆสาวเดินไปหยุดที่หน้ากระจกบานใหญ่ที่ตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของมุมห้อง

ภาพที่สะท้อนออกมาคือผู้หญิงรูปร่างบอบบาง หน้าเรียวสวยหม่นหมอง ตาคู่โตร่วงโรยช้ำๆเพราะอดนอนมาเกือบทั้งคืน

ทำไมนะ…ทำไมเธอถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย

ช่วงหัวค่ำเจอผู้ชายสองคนจะฆ่าข่มขืนเธอ

ช่วงดึกๆเจอผู้ชายคนหนึ่งมาบังคับให้เธอยอมเป็นเจ้าสาวให้เขา

ต้องขอยอมรับล่ะว่าเขาเป็นคนที่หล่อมากจริงๆ แต่เขาดูลึกลับอย่างไรชอบกลจนเธอรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

เธอไม่เคยรู้จักกับเขามาก่อน เธอไม่รู้จักนิสัยใจคอของเขา เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร แล้วอยู่ๆจะให้เธอไปแต่งงานกับเขาได้ไง

ร่างระหงเดินไปๆมาๆอยู่ภายในห้องด้วยท่าทางเหมือนคนคิดไม่ตก ริมฝีปากบางขบเม้มเข้าหากันแน่นเพื่อหนีเอาตัวรอด ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปพบบางสิ่งบางอย่างที่ดูสะดุดตาเธออย่างน่าประหลาด

ผนังห้องที่ควรจะราบเรียบกลับมีปุ่มสีแดงเล็กๆติดอยู่ที่ด้านล่าง ความสงสัยทำให้หญิงสาวเดินไปเปิดปุ่มนั้นอย่างรวดเร็ว

พลัน! ดวงตาคู่งามก็เบิกกว้างอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นช่องเล็กๆบริเวณฝาผนังเริ่มเคลื่อนขึ้น

“ห้องใต้ดิน?” หญิงสาวพึมพำในลำคอ ก่อนจะค่อยๆไต่ลงไปในห้องที่แสนมืดทึบทันที

ช่องเล็กๆเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างแค่พอให้มีคนมุดตัวลงไปได้เท่านั้น ความมืดทึบและกลิ่นอับๆทำให้เธออยากจะเปลี่ยนใจเดินกลับขึ้นไปข้างบน แต่ความอยากรู้อยากเห็นกลับบังคับให้เธอเดินหน้าต่อไป

บันไดทอดลงสู่พื้นด้านล่าง ยิ่งเดินลงมาลึกเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกว่ามันจะสว่างขึ้นเรื่อยๆ

และทันทีที่เท้าของเธอสัมผัสกับพื้นห้องใต้ดิน เธอก็เห็นทุกอย่างภายในห้องนี้ได้อย่างชัดเจน

เธอกวาดตาไปรอบๆอย่างตื่นๆ กว้าง….กว้างมากจริงๆ แถมยังมีกลิ่นอับๆรุนแรงจนจมูกของเธอคันยุบยิบไปทั่ว

ปากเล็กอ้าออก ตั้งท่าจะจามออกมา แต่แล้วสายตาก็ไปกระทบเข้ากับกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าสองกล่องที่ตั้งวางคู่กันเข้าพอดี ทำให้หญิงสาวต้องรีบเอามืออุดปากกลั้นเสียงจามเอาไว้ ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตระหนก ขาเริ่มสั่นระริกจนก้าวไม่ออก

พระเจ้าช่วย! นี่มันโลงศพชัดๆ!!

ห้องทึบๆ ไม่มีแสงแดดส่องลอดเข้ามา เพิ่มความวังเวงจนเธอขนลุกซู่อย่างสะพรึงกลัว

แต่พอคิดๆดูอีกที ใครกันจะเอาศพมาไว้ที่ห้องใต้ดินถึงสองศพ บางที….อาจจะเป็นโลงศพเปล่าๆก็ได้ เธอควรจะพิสูจน์ จะได้ไม่ต้องมาหลงกลัวอยู่แบบนี้อีกถ้าพบว่าข้างในโลงมันไม่มีศพอยู่

เธอเดินไปหยุดยืนข้างๆโลงใบใหญ่ กวาดตามองอย่างพินิจ โลงสีขาวสะอาดอีกใบหนึ่งยาว อีกใบหนึ่งค่อนข้างสั้น หญิงสาวเอื้อมมือสั่นๆมาแตะที่ฝาโลง

ก้อนเนื้อที่หน้าอกข้างซ้ายพากันเต้นตึกตัก แขนเริ่มเกร็งขึ้นเพื่อออกแรงขยับฝา แต่ยังไม่ทันจะเปิดออก เสียงทุ้มก็ตวาดดังลั่นจนเธอสะดุ้งโหยง

“นั่นคุณจะทำอะไรน่ะ”

“อ่ะ เอ่อ คือว่าฉัน….” เสียงใสๆขาดเป็นห้วงๆ สบตากับดวงตาสีน้ำเงินเข้มอย่างหวาดๆ

“คือว่าอะไร” เสียงเข้มดุดัน คิ้วคมเข้มสีดำที่ยาวพาดจรดหางตาขมวดมุ่น ขายาวๆก้าวเข้ามายืนประชิดตัวเธอราวกับจะข่มขวัญ

“ปะ เปล่า” เธอปฏิเสธ อยู่ๆร่างทั้งร่างก็สั่นขึ้นมาอย่างระงับไม่อยู่

“อย่ามาปฏิเสธ บอกผมมาว่าคุณมาที่นี่ทำไม” เขาตะคอก นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มลุกวาบ จับไหล่กลมกลึงบีบแน่นด้วยเพลิงโทสะ

เขามาหาเธอที่ห้อง และพบว่าไม่มีเธออยู่ในห้องอย่างที่เขาคิด แถมประตูทางลับใต้ดินยังถูกเปิดออกทิ้งไว้

ประตูทางลับจะเชื่อมลงสู่ห้องใต้ดิน ซึ่งประตูลับนี้จะมีอยู่ในทุกๆห้องเพื่อความสะดวกที่จะลงไปได้ทุกเวลา

เขาไม่น่าประมาทเธอเลยจริงๆ ใครจะไปนึกล่ะว่ามือเธอจะซนไปกดปุ่มแดงจนประตูเปิดออกแบบนั้น แถมยังกล้าลงมาถึงห้องใต้ดินคนเดียวเสียอีก

ไม่รู้เลยหรือไงนะว่า…ห้องใต้ดินมีอันตรายแฝงอยู่!!

“ทำไมคุณต้องโกรธขนาดนี้ด้วย ฉันต่างหากที่ควรจะโกรธคุณ ทำไมคุณไม่ส่งฉันกลับบ้าน” น้ำตาเริ่มคลอ ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความหม่นหมองและตัดพ้อ

“คุณต้องเป็นเจ้าสาวของผม”

“แต่ฉันไม่เป็น” เธอเงยหน้าขึ้นเถียงเขาคอเป็นเอ็น

“แต่คุณต้องเป็น”

“คุณไม่มีสิทธิ์มาบังคับฉันแบบนี้”

“ยังไงคุณก็ต้องมาเป็นเจ้าสาวให้ผม” เขาย้ำเจตนารมณ์เดิมอีกครั้ง มือใหญ่กระชากร่างบางเข้าหาลำตัวแกร่ง พร้อมริมฝีปากได้รูปที่กระแทกลงมาขยี้เรียวปากอิ่มอย่างรุนแรงและหนักหน่วงดุจจะลงทัณฑ์

“จำไว้ว่าคุณ…ไม่มีทางหนีผมรอด!!” เขากระซิบขู่ชิดติด ริมฝีปากจิ้มลิ้ม พร้อมกับดึงข้อมือบางให้เดินตามเขาไปเพื่อออกจากห้องใต้ดินอับๆแห่งนี้

“ปล่อยฉัน” มัสลินดิ้นเร่าๆ พยายามขืนตัวเอาไว้ไม่ให้เดินตามแรงดึงของชายหนุ่ม ปากก็ร้องกรี๊ดๆไปด้วยจนราชิตชักจะรำคาญ

“หุบปากของคุณซะ!” หน้าคมหันมาตะคอกใส่หน้าเธอ ดวงตาสีน้ำเงินสวยลุกราวกับมีเปลวไฟอยู่ในนั้นจนเธอต้องเงียบกริบ หน้าใสๆซีดเผือดอย่างตระหนก ความกลัวแล่นวาบเข้าสู่หัวใจ และสิ่งที่เธอทำได้ในตอนนี้ก็คือ….เดินตามแรงจูงของร่างสูงขึ้นบันไดกลับเข้าห้องโดยที่ไม่มีโอกาสรู้เลยว่าภายในโลง2ใบที่ตั้งเคียงคู่กันนั้น มีอยู่โลงหนึ่งที่เริ่มมีการขยับเคลื่อนไวอยู่ภายในโลง

ร่างกายขาวซีดเหมือนขาดเลือดมาหล่อเลี้ยงอยู่ในชุดสีขาวทั้งชุด มือใหญ่วางแนบกับลำตัวเหมือนไร้ซึ่งลมหายใจ แต่….ดวงตาสีเขียวมรกตกลับลืมขึ้นมาอย่างรวดเร็วและแข็งกร้าว

“ฮื่อ…” เสียงคำรามเบาๆดังออกมาจากลำคอ เมื่อจมูกได้กลิ่นของมนุษย์สาวผู้มาใหม่….กลิ่นของสาวบริสุทธิ์!!

ปากหนาอ้าออกกว้างเผยให้เห็นเขี้ยวยาวๆขาววับ ก่อนจะปิดปากสนิทลงตามเดิม นัยน์ตาเขียวเรืองแสงปิดลงอีกครั้งอย่างช้าๆ ร่างกายแข็งทื่อที่ยังคงนอนนิ่งไม่ขยับ

รอ…รอจนกว่าจะถึงคืนนี้ เขาคงได้ดื่มกินเลือดสาวพรหมจรรย์!!

เมื่อฉุดกระชากมัสลินออกมาจากห้องใต้ดินได้แล้ว ราชิตก็เหวี่ยงร่างบางลงไปนอนบนเตียงนุ่มก่อนจะหันไปกดปุ่มสีแดงให้ประตูลับปิดลงเหมือนเดิม

“ซ่าส์นักนะ” เขาต่อว่า พลางยกมือขึ้นท้าวสะเอว

“ฉันสงสัยนี่นา” เธอพูดอุบอิบ “ขอร้องล่ะนะ ปล่อยฉันกลับบ้านไปเถอะ”

“กลับบ้านเหรอ?” เขาแค่นเสียงหัวเราะอย่างเยาะหยัน “คุณอยากกลับไปตายเหรอไง”

“หมายความว่าไง” คิ้วเขียวเลิกขึ้นสูงอย่างงุนงง

“มีคนคิดจะฆ่าคุณอยู่ไม่ใช่เหรอไง ถ้ากลับไป คุณจะไม่เหลือแม้แต่ลมหายใจ”

“ให้ฉันตาย ยังจะดีกว่าการต้องมาแต่งงานกับคนที่ฉันไม่ได้รักอย่างคุณ” เธอพูดด้วยแรงโทสะ ดวงตาวาววับขึ้นมาอย่างฮึดสู้ เล่นเอาราชิตต้องบดกรามกรอด ดวงตาสีน้ำเงินหรี่ลงเล็กน้อยก่อนจะพูดอย่างมีเลศนัยเมื่อร่างสูงโถมร่างลงทับคนตัวเล็กบนเตียงอย่างรวดเร็ว

“ถ้าคุณเป็นเมียผมแล้ว คุณก็จะไม่ปฏิเสธการแต่งงานกับผมใช่มั้ยครับ…คนสวย!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel