บทที่ 2 มาเป็นเมียผมซะเถอะ…คนสวย 1
บทที่ 2
มาเป็นเมียผมซะเถอะ…คนสวย
น้ำค้างเริ่มทิ้งตัวลงมาจับยอดหญ้า อากาศในที่ที่รกครึ้มไปด้วยแมกไม้ดูจะเหน็บหนาวจนจับขั้วหัวใจ เสียงหรีดหริ่งเรไรพากันร้องระงมไปทั่ว
ท่ามกลางความมืดวังเวง เข็มที่นอนสลบไสลอยู่ใต้ต้นไม้ก็เริ่มรู้สึกตัวฟื้นจากการหลับหลายชั่วโมง
เข็มลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ความรู้สึกแรกที่ผ่านเข้ามาในความรู้สึกก็คือ…ความงุนงง
เขาค่อยๆยันกายลุกขึ้นอย่างสับสน สองตาเหลือบแลมองไปรอบๆข้างที่มีความมืดปกคลุมไปทั่วบริเวณ
เขาจำได้ว่าเขาพามัสลินมาที่ป่าแห่งนี้เพื่อฆ่าหมกป่าตามคำสั่งของธันวา แต่ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งมาช่วยมัสลินเอาไว้
ดวงตาดำดุ มือที่แข็งเหมือนคีมเหล็ก เรี่ยวแรงมหาศาลเกินคนธรรมดา
อยู่ๆร่างของเข็มก็สั่นเทิ้มขึ้นมาด้วยความหวาดกลัวเมื่อนึกถึงราชิต
พลันดวงตาของเข็มก็เบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นประกายตาสีเขียวเรืองแสงขึ้นที่ใต้จามจุรีพันปี
ดวงตาแบบนั้นต้องไม่ใช่ดวงตาของคนแน่ๆ!!
ความกลัวแล่นพล่านไปทั่วร่าง เข็มหันรีหันขวาก่อนจะเห็นทองนอนสลบอยู่ไม่ไกลจากที่เขานั่งมากนัก
เข็มรีบกระเถิบก้นไปหาทองพร้อมเขย่าร่างที่ไร้สติของทองแรงๆ
“ทอง! เฮ้ย ตื่นสิวะ”
ทองยังคงหลับตาสนิท ไม่มีทีท่าว่าจะลืมตาขึ้นมาเลยสักนิด เข็มหันไปมองทางดวงตาสีเขียวอีกครั้ง ก่อนจะใจหายวาบ เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งกำลังเดินตรงมาทางเขา
วูบหนึ่งที่เข็มอยากร้องถามบุรุษแปลกหน้าออกไปว่าเขาคือใคร แต่พอดวงตาสบกับตาสีเขียวเรืองที่เห็นเด่นชัดในความมืด เขาก็กลืนคำพูดลงลำคออย่างรวดเร็ว
แสงจากจันทราส่องลงมากระทบเสี้ยวหน้าขาวซีดราวกับไร้เลือดมาหล่อเลี้ยงของบุคคลที่กำลังก้าวเข้าหาเขาอย่างช้าๆ
สัญชาตญาณบอกเขาว่า…ภัยกำลังมาถึงตัว
ยังไม่ทันจะได้วิ่งหนี ร่างของชายนัยน์ตาเขียวก็มาประชิดตัวเขาด้วยระยะเวลาเพียงไม่กี่วินาที
คนที่จะเคลื่อนไหวได้เร็วขนาดนี้ จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ!!
เข็มใจหายวาบเมื่อมือเย็บเฉียบจับต้นแขนเขาตรึงไว้แน่น
“อะ” เข็มร้องออกมาได้เพียงเท่านั้น คมเขี้ยวแหลมคมก็เจาะเข้าที่เส้นเลือดตรงต้นคอเขาจนจมเขี้ยว
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก” เข็มร้องลั่น ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันตั้งตัว รู้สึกเจ็บปวดบริเวณต้นคอและ…พลังในตัวของเขากำลังจะหมดลงไป รู้สึกเหมือนโดนสูบเลือดออกไปจากร่างกายจนแข้งขาเริ่มยืนไม่ไหว
สำนึกสุดท้ายที่ผุดขึ้นมาในความคิดของเขาก็คือ…เขาคงไม่รอดแน่ๆ
ทองค่อยๆลืมตาขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงร้องโหยหวนของเพื่อนรัก มือสากๆสกปรกยกขึ้นมาขยี้ตาตัวเองไปมาเพื่อปรับสายตาให้ชินกับความมืด
ทองค่อยๆยันกายลุกขึ้น และก็ทันได้เห็นร่างเข็มที่ทรุดลงไปกองอยู่ที่พื้นเข้าพอดี
“เฮ้ย ผีดิบ!!” ทองอุทานลั่น ขนลุกวาบเมื่อเห็นชายในชุดขาวตวัดสายตามาทางเขาอย่างหมายมาด ที่ปากหนามีน้ำสีแดงๆเปรอะเปื้อนไปหมด
เข็มคงตายไปแล้ว ตายเพราะโดนดูดเลือดออกไปหมด คนต่อไปที่จะต้องตกเป็นเหยื่อของผีดิบตนนี้ก็คงเป็น….เขาเอง
ทองยังไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เขาออกแรงวิ่งอย่างรวดเร็ว วิ่ง และก็วิ่ง วิ่งตรงไปที่รถเพื่อขับออกไปจากป่าบ้าๆแห่งนี้
มือสากจับประตูรถ แต่ยังไม่ทันได้เปิดออก เขาก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมากดที่บ่าหนักๆ พอเขาหันไปมอง เขาก็เห็นมือขาวซีดจนเขียวของคนนัยน์ตามรกตที่รั้งบ่าเขาเอาไว้
“ปะ ปล่อยผม” ทองพูดเสียงสั่น แต่อย่าหวังเลยว่าอมมนุษย์จะรับฟัง เพราะคมเขี้ยวขาวๆเจาะเข้าที่ชีพจรต้นคอของเขาสุดเขี้ยว
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นไปทั่วผืนป่าที่แสนจะสงบ เหล่าแมลงและสัตว์เลี้ยงกลางคืนต่างพากับเงียบกริบ ดั่งจะไว้อาลัยให้แก่ชายสองคนผู้ตกเป็นเหยื่อ!!
แสงแรกแห่งอรุณเริ่มจับที่ขอบฟ้า ความทะมึนของทุ่งหญ้าและต้นไม้ดูจะคลายลงเหลือแต่สีเขียวชอุ่มแลดูสดใส และดอกไม้ป่าหลากหลายสีสันที่กำลังแย้มกลีบบานท้าทายพระอาทิตย์ที่กำลังจะโผล่ขึ้นมาทำหน้าที่แทนดวงจันทร์
คฤหาสน์หลังใหญ่ใหม่เอี่ยมถูกสร้างเลียนแบบชาติตะวันตกตั้งตระหง่านอยู่กลางพื้นที่กว้างขวาง จนไม่น่าเชื่อว่าจะมาสร้างกลางป่ารกร้าง ห่างไกลผู้คนแบบนี้ได้
ภายในห้องโอ่โถงกว้างขวางของคฤหาสน์สิงห์ตะวัน
เสียงพ่นลมหายใจดังออกมาจากปากสีกุหลาบครั้งแล้วครั้งเล่า ในมือใหญ่มีแก้วใบขนาดกลางอยู่ แก้วที่มีโลหิตสีแดงสดบรรจุอยู่
ราชิตเหม่อมองออกไปนอกคฤหาสน์อย่างล่องลอย ปลดปล่อยความคิดให้แล่นผ่านไปเรื่อยๆ ก่อนจะยกแก้วโลหิตขึ้นจรดที่ริมฝีปากแล้วดื่มลงคอรวดเดียวจนหมดแก้ว
เขาวางแก้วลงบนโต๊ะ พาดท่อนขายาวๆไว้บนโต๊ะ ใบหน้าหล่อเหลามีแต่ความเศร้าหมอง ริมฝีปากได้รูปที่มีหยดเลือดเกาะอยู่สองสามหยด
ตาคมซึ้งหลุบลงมองมือตัวเองเล่นอย่างครุ่นคิด
เขาเบื่อเหลือเกินกับชีวิตที่เป็นอยู่
เขาอายุยี่สิบสี่ปีแล้ว หากวันใดที่เขาอายุครบยี่สิบห้าปี แล้วเขายังไม่ได้ผู้หญิงที่มีปานแดงรูปพระจันทร์ตรงต้นขาอ่อนมาเป็นเจ้าสาว เขาจะต้องทุกข์ทรมานไปอีกนานหรือไม่ก็…ตลอดชีวิต
เขาอยากหนีไปให้พ้นสิ่งที่เขากำลังเป็นอยู่ ทุกวินาทีที่เขาประสบมันไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย แต่ก็น่าแปลกอยู่พอควรที่เขากลับไปพูดจาบังคับให้มัสลินมาเป็นเจ้าสาวของเขา ทั้งๆที่เธอไม่ได้เป็นสตรีมีปานพระจันทร์อย่างที่เขาต้องการ
ดวงตากลมโตที่มักจะฉายแววตระหนกอยู่เสมอเหมือนกวางสาวระแวงภัยมันทำให้เขารู้สึกอยากปกป้อง
ปากจิ้มลิ้มที่มักจะเผยอออกมายามที่ตกใจ มันทำให้เขาอยากจุมพิตเรียวปากเธอหนักๆหลายๆครั้ง
ผิวที่ไม่ขาวมากของเธอ ผิวที่ออกจะสีแทนๆ เป็นสีผิวที่ชาวยุโรปอย่างเขาชื่นชอบที่สุด
เธอสวยถูกใจเขา และมีอะไรอีกหลายๆอย่างในตัวเธอที่ทำให้เขาไม่อยากปล่อยเธอไป
แม้จะรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย แต่ความปรารถนาในใจมันมีมากกว่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เขาจึงตัดสินใจทำตามเสียงของหัวใจ
เมื่อนึกถึงเธอ ร่างสูงก็ลุกขึ้นยืนแล้วหยิบผ้าผืนเล็กมาเช็ดเลือดออกจากริมฝีปากอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปด้วยความเร็วราวพายุ