บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

จันทร์เจ้าแม้จะไม่อยากสนทนาไม่อยากตอบหรือพูดคุยผู้ชายตรงหน้าก็ได้กล้ำกลืนความไม่ชอบนั้นไว้ในใจ เพราะตอนนี้เพื่อนของเธอสำคัญที่สุด ดังนั้นหญิงสาวจึงตอบกลับไปว่า “เพื่อนฉันหาย เลยอยากจะดูว่าก่อนหน้าที่เพื่อนฉันจะหายไปมีใครมาลักพาตัวเพื่อนฉันไปหรือเปล่า”

“หึ! เพื่อนคุณหาย เลยอยากจะมาดูกล้องวงจรปิดของบาร์?”

“ใช่!”

“ตลกแล้ว นี่คุณรู้กฎระเบียบของที่นี่หรือเปล่า” ชายหนุ่มเอ่ยถาม จันทร์เจ้าไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาจึงได้หลุดหัวเราะจนหญิงสาวต้องส่งสายตาไม่พอใจให้ถึงได้หยุด

“คุณนี่ตลกดีนะ รู้ทั้งรู้ว่าระเบียบเป็นยังไงก็ยังจะมาขอดู ทำไมไม่รีบทำตามกฎระเบียบล่ะ หรือไม่ก็แจ้งความสิ”

“ถ้ามันแจ้งได้ฉันก็แจ้งแล้วสิ นี่...” ‘คุณไม่รู้เหรอว่ามันยังไม่ครบ 24 ชั่วโมง’ คือคำพูดในหัว เพราะต้องหยุดพูดเมื่อฟองคลื่นเข้ามากระตุกเสื้อเธอไว้ก่อนจะพูดว่า

“พี่จันทร์คะ ใจเย็นค่ะคนตรงหน้าคือคุณชลธีเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ของโรงแรมค่ะและเป็นเจ้าของบาร์นี้ ถ้าพี่จันทร์ต้องการดูกล้องวงจรปิดต้องขออนุญาตจากเขาแล้วค่ะ ที่สำคัญเลยคนคนนี้ค่อนข้างมีอำนาจนะคะ ฟองไม่ค่อยกล้ายุ่งด้วยหรอกค่ะ เขาค่อนข้างน่ากลัว” จันทร์เจ้าเอ่ยบอกถึงสถานะของคนตรงหน้าและเตือนไม่ให้รุ่นพี่สาวทำอะไรเสียเรื่อง

“ขอดูกล้องวงจรปิดหน่อยได้ไหมคะ” จันทร์เจ้าที่ได้ยินคำพูดเป็นการเตือนกลาย ๆ จากฟองคลื่น ทั้งยังมีมือเล็กจับเสื้อเธอไว้คอยกระตุกยิก ๆ ห้ามปรามเธอนั้น หญิงสาวก็ได้แต่สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะผ่อนออกมาแผ่วเบา แล้วกัดฟันพูดขออนุญาตเขาไป

“ผมก็เพิ่งพูดไปไม่ใช่เหรอ หรือคุณไม่ได้ฟัง?” ชายหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงยียวน มองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตาวาววับ ทว่าก็เพียงแวบเดียวเท่านั้นไม่มีใครสังเกตเห็น

ชลธี คือทายาทนักธุรกิจหนุ่มอนาคตไกล ทำสิ่งใดล้วนประสบผลสำเร็จ เสียก็แต่ไม่ชอบเข้างานสังคมชายหนุ่มค่อนข้างรักอิสระ ดังนั้นยากนักที่จะได้เห็นหน้าเขาหรือได้ทำข่าว

ด้วยเหตุที่ไม่ชอบความยุ่งยากเขาจึงได้มาอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตแห่งนี้ ธุรกิจของชายหนุ่มมีหลายอย่างด้วยกันแต่มีไม่กี่อย่างที่คนภายนอกรับรู้นั่นก็เพราะตัวเขาไม่ได้เปิดเผย หุ้นส่วนโรงแรมของฟองคลื่นก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เขาจับต้อง ชายหนุ่มไม่ได้เข้าไปยุ่งวุ่นวายในส่วนการบริหารงานในโรงแรม ส่วนใหญ่เขาจะดูแลจัดการเรื่องของบีชบาร์มากกว่า จะบอกว่าเหมือนเขามาอาศัยเปิดบาร์ที่โรงแรมของฟองคลื่นก็ได้ ที่ทำนี่ชายหนุ่มก็ไม่ได้จริงจังนัก ทำแก้เบื่อเสียมากกว่าทว่ากลับประสบผลสำเร็จ

อย่างว่าล่ะนะนี่มันจังหวัดภูเก็ตแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยเลยนี่ เมื่อรวมกับการตกแต่งร้านและการบริการ รวมไปถึงเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศแล้วก็ยิ่งมีชื่อเสียงเข้าไปใหญ่

เท่านั้นยังไม่พอเนื่องด้วยบีชบาร์เป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม ช่วงเทศกาลสำคัญหรือเวลาพิเศษ มักจะมีโพรโมชันหรือแคมเปญต่าง ๆ ออกมาต้อนรับลูกค้าอยู่เสมอ เช่นการจองห้องพักระดับนี้จะสามารถกินดื่มที่บีชบาร์ได้ฟรีหรืออาจจะมีบริการพิเศษต่าง ๆ ก็ขึ้นอยู่กับโพรโมชันนั้น ๆ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้บีชบาร์ของเขาประสบผลสำเร็จได้เช่นไร

แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็น้อยนักที่จะมีคนรู้ว่าชายหนุ่มคือหัวเรือหลักของบีชบาร์นี้ อย่างที่บอกไว้เขาไม่ชอบความวุ่นวายและเป็นคนรักความสงบยิ่ง ดังนั้นคนนอกจึงไม่ค่อยมีใครรู้ อย่าว่าแต่คนนอกเลยแม้แต่พนักงานเอง บางคนยังไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะนาน ๆ ชลธีจะเข้ามาดูความเป็นไปของบีชบาร์สักครั้งหนึ่ง

ผู้ชายอย่างชลธีเรียกได้ว่าเพอเฟคเลยก็ว่าได้ มากด้วยรูปโฉมรวยสมบัติ หากบอกเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ สถานะทางการเงินย่อมไม่ธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดายิ่งกว่าคือใบหน้าของเขา ใบหน้าที่สวรรค์สรรค์สร้างปั้นแต่งขึ้นมาอย่างลงตัวนั้น ผู้ชายเห็นต่างก็นึกอิจฉา ผู้หญิงเห็นต่างก็อยากครอบครอง เพราะมันทั้งหล่อเหลาคมเข้มกระแทกใจหญิงสาวหลาย ๆ คน ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มจึงกลายเป็นขวัญใจของหญิงสาวคนอื่น ๆ ไปโดยปริยาย หากยังไม่นับรวมจันทร์เจ้าน่ะนะ

“คุณจะเอายังไง” จันทร์เจ้าที่อดรนทนได้ไม่นาน เอ่ยปากถามชลธีทันที เธอรู้ว่าคนตรงหน้ากำลังกวนประสาทเธออยู่ ดังนั้นจึงไม่คิดสงบปากสงบคำอีกต่อไป

“ก็ไม่เอาไง แต่ผมก็ไม่ยอมให้คุณดูกล้องวงจรปิดเช่นกัน”

“...”

“แต่ผมมีข้อเสนอนะ ถ้าคุณตกลงคุณจะได้ดูกล้องวงจรปิด”

“ข้อตกลงอะไร” จันทร์เจ้าเอ่ยถามอย่างไม่ไว้ใจ ในขณะที่ชลธียกยิ้มแววตาเป็นประกาย

“ข้อตกลงที่ว่า...”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel