ตอนที่ 3 ต้องอดทน
เจ็ดโมงเช้าของอีกวัน
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงทุบประตูอยู่หน้าห้องของดลยา ไม่ถึงเสี้ยววินาทีประตูก็ถูกเปิดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ
“นอนกินบ้านกินเมืองไม่รู้จักหน้าที่” เสียงหญิงวัยกลางคนแว่วเข้ามาในหูของดลยาที่ยังนอนหลับตาอยู่ เธอรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว
ดลยาพยายามเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้นมาอย่างช้า ๆ แล้วคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวานหลังจากกลับมาถึงบ้านหลังนี้เธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จก้าวขาจะไปรับใช้ ‘คุณเชษฐ์’ ตามคำสั่งของคนที่ทุกคนในบ้านเรียกกันว่า ‘คุณนาย’ เธอก็…หน้ามืดและหมดสติไปอีก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเข้ามานอนในห้องนี้ได้อย่างไร
“ลุกขึ้นมา! ขี้เกียจสันหลังยาว ไปเช็ดเนื้อเช็ดตัวและป้อนข้าวคุณเชษฐ์ได้แล้ว แกรู้ไหมเมื่อวานใครเป็นคนทำงานแทนแก” พวงแก้วเดินเข้าไปฉุดแขนให้ดลยาลุกขึ้นจนคนตัวเล็กรู้สึกร้าวไปทั้งแขนเหมือนมันจะหลุดออกจากบ่า
พวงแก้วสัมผัสได้ถึงไอร้อนที่แผ่ซ่านออกมาจากกายสาวใช้จนเธอต้องรีบปล่อยมือเพราะความร้อน
“ใครหรือคะ” ดลยายังเอ่ยถามถึงคนที่รับอาสาทำหน้าที่แทนเธอ หรืออาจจะเป็นผู้หญิงตรงหน้าเธอนี้ที่เป็นคนทำงานแทนเธอทั้งหมด ดูจากที่ทุกคนพูดกับเธอเมื่อคืนนี้ดลยาสรุปได้ว่าเธอคงเป็นคนใช้ของบ้านหลังนี้
“คุณศักดิ์” พวงแก้วตอบออกไป “นี่แกยังไม่หายป่วยอีกเหรอ” พวงแก้วมีท่าทีเปลี่ยนไปเมื่อรู้ว่าสาวใช้ยังมีไข้สูง เมื่อคืนนี้สุรศักดิ์กับภรรยาของเขาเอายาให้เธอกินแล้วพวงแก้วก็เข้าใจว่าตื่นขึ้นมาตอนเช้าเด็กคนนี้คงจะหายป่วยและสามารถกลับไปทำหน้าที่ของตนได้ แต่ไหนกลับไม่ใช่ เธอยังตัวร้อนจัดใบหน้าแดงเถือกลามไปตามลำคอและใบหู
“ยังค่ะ…ฉันหนาว” ดลยาพูดทั้งปากสั่นพั่บ ๆ นอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มผืนบาง
“เฮ้อ…ฉันละเบื่อจริง ๆ ซื้อตัวมายังไม่ถึงอาทิตย์ก็ป่วยเสียแล้ว แบบนี้ฉันไปจ้างคนใหม่ไม่ดีกว่าเหรอ” พวงแก้วบ่นอย่างอารมณ์เสีย ตั้งแต่เธอซื้อเนื้อนวลจากปู่กับย่าที่ท้ายหมู่บ้านเข้ามาเป็นคนรับใช้ส่วนตัวลูกชายที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงเนื้อนวลก็ยังทำงานไม่ได้เต็มที่สักวัน บ้างปวดท้อง บ้างปวดศีรษะไม่เว้นแต่ละวัน มาวันนี้กลับเป็นไข้หนักไปเสียแล้ว จะคุ้มไหมกับเงินที่จ่ายไป
พวงแก้วทอดถอนหายใจเสียงดังเดินออกจากห้องเธอไปคล้ายกับไม่สนใจ
ห้านาทีผ่านไป ดลยาที่นอนหนาวภายใต้ผ้าห่มผืนบางที่ทั้งสากทั้งหยาบก็ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา เหมือนจะเดินลงส้นเท้า หากบ้านหนังนี้ไม่เป็นปูนทั้งหลังมันก็คงเสียงดังมาก
“ลุกขึ้นมากินข้าวกินยา” เสียงนั้นกระแทกกระทั้น ดลยาสัมผัสได้ถึงความไม่เป็นมิตร
เธอลืมตาขึ้นใช้สองมือยันพื้นประคองร่างตัวเองลุกขึ้นอย่างลำบาก
หญิงสาววัยยี่สิบสองปีกล่าวขึ้นอีกครั้งหลังจากวางชามน้ำเปล่าและมีผ้าผืนเล็กแช่อยู่ในนั้น “นี่ผ้ากับน้ำ กินข้าวกินยาเสร็จแล้วเช็ดเนื้อเช็ดตัวเอาเองก็แล้วกัน ฉันหามาให้แกหมดแล้ว ฉันต้องไปทำหน้าที่ดูแลนายง่อยแทนแก แกสำนึกบุญคุณของฉันบ้างไหม” น้ำขิงทั้งพูดทั้งทำปากบิดปากเบี้ยวเมื่อรู้ว่าต้องไปดูแลสุรเชษฐ์ เจ้านายหนุ่มที่เอาแต่ใจและอารมณ์ร้อนเป็นที่สุด ไม่รู้วันนี้เธอต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่ก็ดีที่ไม่ต้องนอนค้างคืนที่นี่เหมือนเนื้อนวล ที่เจ้านายจะเรียกใช้ตอนไหนก็ได้
พ้นร่างของสาวผิวเข้ม น้ำเสียงค่อนไปทางห้าวคล้ายผู้ชาย ดลยาหยิบช้อนขึ้นมาด้วยแรงอันน้อยนิดแล้วตักข้าวต้มเข้าปาก เพื่อความอยู่รอดเธอต้องกินแม้จะกินได้แค่น้ำข้าวต้มก็ยังดี ชาติที่แล้วก็ใช่ว่าจะไม่เคยลำบาก แต่เธอก็สู้จนฐานะของตัวเองพออยู่พอกินจนได้ ถึงแม้จะต้องทำงานหนักจนตัวตายก็ตามเถอะ ตอนนี้เธอยังจับต้นชนปลายไม่ถูกขอนอนเอาแรงอีกสักหน่อยเผื่อเธอจะคิดอะไรออก ตอนนี้เหมือนสมองไม่ทำงานเลยแม้แต่น้อย
เพียงขาข้างหนึ่งของน้ำขิงก้าวเข้าไปในห้องของชายหนุ่มที่นอนป่วยเป็นอัมพาตครึ่งซีกอยู่ก็ต้องถอยเบี่ยงตัวหลบหมอนที่ลอยลิ่วพุ่งมายังใบหน้าของเธอ
“ว้าย!”
“ออกไป!” สุรเชษฐ์กล่าวน้ำเสียงดุดันออกมา จนน้ำขิงต้องหยุดอยู่ตรงหน้าห้อง ดวงตาส่อแวววิตกกังวล
“คุณนายให้ขิงมาเช็ดตัวและป้อนข้าวให้คุณเชษฐ์ค่ะ” น้ำขิงบอกคนที่ยังนอนอยู่ด้วยความหวาดหวั่น
“ไม่ต้อง ฉันไม่หิว แล้วนวลมันหายไปไหน” สุรเชษฐ์ถามไปอย่างนั้น เวลานี้ถึงแม้เป็นเนื้อนวลเขาก็ไม่อยากเจอหน้าใครทั้งนั้น เมื่อวานเขาได้ยินว่าที่เนื้อนวลแอบไปเข็นน้ำก็เพื่อเลี่ยงการดูแลเขา เขาจึงไม่อยากเห็นหน้าใครทั้งนั้น
ทำไม? คนอย่างเขามันน่ารังเกียจนักหรือไง ทั้งเมียและคนรอบข้างถึงไม่มีใครอยากมาอยู่ใกล้เขาสักคน ดี! ในเมื่อไม่มีใครอยากอยู่ด้วยก็ไม่ต้องมาอยู่
“แต่คุณเชษฐ์ต้องกินข้าวกินยานะคะ”
“ฉันบอกว่าฉันไม่หิว หูหนวกหรือไง” สิ้นคำสุรเชษฐ์ก็หยิบแก้วน้ำปาออกมาจากห้องอีก
เพล้ง!
“ว้าย!” น้ำขิงกรีดร้องและรีบปิดประตูลง เป็นแบบนี้เธอคงไม่กล้าเข้าไปดูแลเขาอย่างแน่นอน ไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนคนใช้ส่วนตัวเป็นว่าเล่น ถ้านับเนื้อนวลสาวรับใช้โชคร้ายคนแรกของเขาก็คงเป็นคนที่ยี่สิบแล้วที่พวงแก้วรับเข้ามาภายในเวลาสองปีนับจากที่เขาเริ่มป่วย “ไม่กินก็อย่ากิน ดี กูจะได้ไม่ต้องไปคอยรองรับอารมณ์คนบ้า” พูดจบน้ำขิงก็เดินสะบัดตูดไปทำงานอย่างอื่นต่อ แน่นอนว่าเป็นคนใช้บ้านนี้เธอไม่มีทางอู้ได้เป็นอันขาด เว้นเสียแต่เนื้อนวลจะหายป่วยแล้วให้เธอกับแม่หลอกใช้อย่างสบายใจ