ตอนที่ 6 เพื่อนมาหา
เข้าวันที่สองแล้วที่เขาทำตัวแปลกไปจากเดิม ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาเขาไม่เคยตื่นเช้า ไม่เคยเดินมาถาม ไม่เคยหยิบจับอะไรช่วยเลย เอาเถอะ! เธอจะคอยดูเขาต่อไป
“เอาน่ำไสหด” (เอาน้ำที่ไหนรด)
นิตยาชี้มือไปทางแม่น้ำ “พุ่นเดะ หาบมาเอา” (โน่นไง ใช้ไม้คานหาบมา)
อำนาจมองตาม ระยะทางหลายเมตรจากแม่น้ำมายังแปลงปลูก มันก็ไกลพอสมควร แสดงว่าที่เธอทำเกษตรคนเดียวมาหลายปีเธอใช้วิธีหาบน้ำอย่างเดียว
“ขึ้นไปกินข้าวงายก่อนจั่งมาเฮ็ด” (ขึ้นไปกินข้าวเช้าก่อนค่อยมาทำ)
อำนาจบอกภรรยา
“จั่งซั่นกะได้ ข่อยบ่อฮู่ว่าเจ้าสิตื่นต๊ะเซ่ากะเลยมาเฮ็ดถ่า” (อย่างนั้นก็ได้ ฉันไม่คิดว่าพี่จะตื่นเร็วก็เลยมาทำรอ)
ทั้งสองวางจอบไว้หน้างานแล้วเดินขึ้นมาบนบ้าน เหงื่อของอำนาจไหลพลั่กออกมาเป็นทางทั้งที่ยังไม่ได้ลงมือทำอะไร
นิตยามองความเป็นระเบียบของที่นอนหมอนมุ้งด้วยความประหลาดใจ หรือเขาอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจริง ๆ
อำนาจเดินเลยไปยังฝั่งครัวแล้วเปิดดูอาหารที่ภรรยาทำไว้ ไข่ต้ม ยอดตำลึงลวก และปลาร้าสับ เขาไม่พูดอะไรทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ และวันนี้เขาจะลองกินปลาร้าสับลองดู หน้าตาของมันสีแดงจัด เขาใช้ข้าวเหนียวที่ยังอุ่น ๆ จิ้มปลาร้าส่งเข้าปาก แล้วม้วนยอดตำลึงตาม
“อา! เผ็ด มื่อลุนใส่บักพริกหน่อยก่อนี่เด้อ” (อา! เผ็ด วันหลังใส่พริกน้อยกว่านี้นะ)
รสชาติก็อร่อยดี ไม่คาวอย่างที่เขาคิด อาจเป็นเพราะเธอใส่เครื่องเคียงจำพวก ข่า ตะไคร้ใบมะกรูดเยอะจึงทำให้มีกลิ่นหอม แต่มันเผ็ดมากไปหน่อยสำหรับเขา
“จักแล้ว ต๊ะกี้อ้ายทิดมักแบบนี่เนาะ” (ไม่รู้สิ ก็เมื่อก่อนพี่นาจชอบแบบนี้นี่นา)
บางครั้งเขากินเผ็ดยิ่งกว่านี้อีก กัดพริกสดแกล้มเป็นผักก็ยังเคยทำ
“นั่นล่ะ ลดลงอีก แล่วกะขั่วให่อ้ายแหน่” (นั่นแหละ ลดลงอีก แล้วก็คั่วให้พี่หน่อย)
เขาไม่อยากทานยาถ่ายพยาธิบ่อย ๆ
“อื้อ สิเฮ็ดให่ใหม่ดอก” (อือ เดี๋ยวจะทำให้ใหม่)
เกิดคำถามขึ้นมาในใจของนิตยาหลายข้อ แต่เธอก็ได้แต่เก็บมันไว้ ก่อนหน้าของหมักของดองของดิบเขาชอบเป็นที่สุด บางครั้งปลาซิว กุ้ง หรือแม้แต่ปูนาเขาก็ทานแบบดิบ ๆ จนเธอได้ตักเตือนอยู่หลายครั้งแต่เขาก็ไม่เคยฟัง แต่ตอนนี้เขาอยากกินปลาร้าสุก
รับประทานอาหารเสร็จ ทั้งสองจึงลงไปทำงานตามเดิม
“นิด!” นิตยาได้ยินเสียงเรียกมาแต่ไกลจึงเงยหน้าขึ้นมอง เธอรู้แล้วว่าใครมาหา อำนาจก็มองตามเขาจึงรู้ว่าเป็นเพื่อนของเธอที่มักเอาหนังสือมาให้ตลอด นิตยาเรียนจบแค่ชั้นปอหก สุรเดชเป็นเพื่อนคนเดียวที่เธอมี เพราะเพื่อนคนอื่นต่างกลัวเธอกันหมด นิตยาเคยขอให้สุรเดชเอาหนังสือมาให้อ่าน ไม่ว่าจะเป็นหนังสืออะไรก็ตาม เขาจึงเอามาให้อยู่เรื่อย ๆ
“เฮาเอาหนังสือมาให่” (เราเอาหนังสือมาให้)
“เอาไว่ทางคันไดนั่นล่ะ” (เอาไว้ทางบันได้นั่นแหละ)
นิตยาตะโกนตอบไป
“เอ้อ” (ครับ)
วางหนังสือไว้ตามที่เพื่อนบอกแล้วจึงเดินลงไปหาเพื่อนที่กำลังขุดดินอยู่กับสามี นิตยาก็วางจอบแล้วเดินมาหาเขาเช่นกัน
“รอบนี่ได้มาหลาย เอาไข่เป็ดมาให้นำสิบหน่วย” (รอบนี้ได้มาเยอะ เอาไข่เป็ดมาให้ด้วยสิบฟอง)
“ขอบใจหลาย คือเอามาให่หลายแท่” (ขอบใจมาก ทำไมเอามาให้เยอะจัง)
ทุกครั้งที่สุรเดชมาหาเขามักจะมีอะไรติดไม้ติดมือมาฝากเพื่อนเสมอ บางครั้งนิตยาก็คิดว่ามันมากเกินไป เพราะไข่เป็ดที่เอามาฝากก็คงขโมยของแม่มา
“บ่อเป็นหยังดอก อ้ายทิดนาจตื่นมาเฮ็ดเวียกแล่วเบาะ” (ไม่เป็นไรหรอก พี่นาจตื่นมาทำงานแล้วเหรอ)
ปกติที่มาหาเธอทุกครั้งสุรเดชเห็นเพื่อนทำงานคนเดียวตลอด เขายังได้มาช่วยขุดดินอยู่บ่อยครั้ง และยังแอบคิดตำหนิสามีเธอตลอดว่าเขาทนดูภรรยาตัวเล็กคนนี้ทำงานคนเดียวได้อย่างไร
“อื้อ” (จ้า)
“เบิ่งเจ้าของดี ๆ เด้อ ถ้าอ้ายนาจบ่ออยากอยู่นำกะบอกเฮา เฮาสิบอกแม่มาขอโต” (ดูแลตัวเองดี ๆ นะ ถ้าพี่นาจไม่อยากอยู่ด้วยก็บอก เราจะให้แม่มาสู่ขอเธอ)