ตอนที่ 5 เห็นเกวียนครั้งแรก
มีเสียงคนคุยกันอยู่ด้านล่างของตัวเรือนแม่อวนบอกว่าพวกผู้ชายจะมาก่อไฟผิงอยู่ด้านล่างกับพ่อส่วนน้องชายอยู่ในวัยสิบหกกำลังโตเป็นหนุ่มทุกคืนจะต้องไปนั่งจีบสาวตามบ้านที่มีลูกสาวหรือไม่ก็ไปเที่ยวงานวัด
ก่อนนอนแม่เอาผ้าห่มมาให้เพิ่มเพราะแม่บอกว่าอากาศเริ่มหนาวกว่าวันอื่น ๆ ที่ผ่านมา เอมอรนอนน้ำตาไหลคิดถึงบ้านและทุกคนที่เธอจากมาจนหลับไปในที่สุด
“เฒ่า เจ้าว่าลูกเฮามันแปลก ๆ ไปบ่อ ตั้งแต่มันฟื้นขึ้นมามันบ่อคือเก่า” (เฒ่า คุณว่าลูกเรามันแปลกไปไหม ตั้งแต่มันฟื้นขึ้นมามันไม่เหมือนเดิม)
“บ่อคือเก่าจั่งได๋” (ไม่เหมือนเดิมยังไง)
“เจ้าบ่อได้ยินมันเว้าติ ภาษามันบ่อคือภาษาเฮาถ้ามันบ่อเป็นบ้าข่อยว่ากะผีเข้า แล้วกะมันบ่อเว้าดู๋คือเก่า จั่งซี่ต้องฟ่าวไปบอกให้พ่อใหญ่ศิลากับแม่ใหญ่ปุ่นมาสู่ขอมันไว ๆ เด้นิ่ จั่งได๋บักกันมันกะได้อุ้มอีนางแล้ว จั่งซั่นมันกะต้องแต่งงานกับอีนางคือเก่า” (คุณไม่ได้ยินที่มันพูดเหรอ ภาษามันไม่เหมือนภาษาเราถ้ามันไม่เป็นบ้าฉันก็ว่าผีเข้า แล้วก็มันไม่พูดมากเหมือนเดิม แบบนี้ต้องรีบไปบอกให้พ่อใหญ่ศิลากับแม่ใหญ่ปุ่นมาสู่ขอเร็ว ๆ นะเนี่ย ไอ้กันมันก็ได้อุ้มหนูอรแล้ว ยังไงมันก็ต้องแต่งงานกับหนูอรเหมือนเดิม)
ทั้งสองปรึกษาหารือกันเพื่อเร่งให้ทางพ่อแม่ของกันมาสู่ขอเร็วขึ้นเพราะถ้าคนรู้ไปทั่วหมู่บ้านว่าลูกสาวมีอาการพูดจาภาษาแปลก ๆ จากที่เธอไม่เคยพูดมาก่อนกลัวว่าจะขายไม่ออก อีกทั้งกันได้อุ้มเอมอรขึ้นจากน้ำแล้วอย่างไรก็ถือว่าได้แตะเนื้อต้องตัวลูกสาวของเธอ
ตื่นเช้ามาอากาศเย็นแม่อวนเอาเสื้อแขนยาวมาไว้ให้ลูกสาวตรงปลายที่นอน เธอสวมมันแล้วเดินออกมาล้างหน้าแปรงฟัน
แม่เดินตามแล้วบอกทุกอย่างที่อยู่ภายในบ้าน เธอคงเห็นว่าเอมอรดูเงอะ ๆ งะ ๆ เหมือนคนความจำเสื่อม
“กูไปเฮียนพ่อใหญ่ศิลาก่อนเด้อ จั่งสิกลับมาหาพาข้าว” (กูไปบ้านพ่อใหญ่ศิลาก่อนนะ ค่อยจะกับมาเตรียมมื้ออาหาร) แม่คงหมายถึงให้รอกินข้าวพร้อมกัน แต่บ้านพ่อใหญ่ศิลาเธอไม่รู้จัก
‘ทำไมแม่ต้องไปหาแต่เช้า’
เอมอรเดินลงจากเรือนมาเห็นยายแพงกับพ่อกำลังนั่งผิงไฟ เธอยกมือไหว้ทั้งสอง
“มึงไหว้แม่ใหญ่เฮ็ดหยังอีหล้า แต่ก่อนปานม้าดีดกะโหลก มื้อนี้คือสิมาเรียบร้อยแท้” (มึงไหว้ยายทำไมอีหนู แต่ก่อนปานม้าดีดกะโหลก วันนี้ทำไมเรียบร้อยจัง)
หรือปกติเจอหน้ากันครั้งแรกเขาไม่ต้องไหว้ พ่อกับยายมองเธอแปลก ๆ เอมอรยิ้มให้แบบแห้ง ๆ แล้วนั่งลงผิงไฟด้านข้างยาย
วันนี้พ่อบอกว่าต้องไปเกี่ยวข้าว มีชาวบ้านมาช่วยกันเกี่ยวหลายคนโดยไม่มีค่าจ้างแต่เราก็ต้องไปช่วยเขาด้วย คงจะเหมือนการลงแขกที่ลุงกับป้าเธอเคยเล่าให้ฟัง หญิงสาวนั่งมองบริเวณบ้านไปรอบ ๆ ใต้ถุนมีควายผูกอยู่กับเสาเรือนเป็นสิบตัว ยกเว้นตัวที่ยังไม่สนตะพายเพราะยังเล็กมาก มีกระดิ่งห้อยอยู่ที่คอของมันทุกตัวทั้งเล็กใหญ่ นั่นคือเสียงที่เธอได้ยินเมื่อคืน เธอเพิ่งเคยเห็นควายตัวเป็น ๆ ก็คราวนี้
“พ่อคะ นั่นเขาเรียกว่าอะไรคะ” อาคมได้ยินสำเนียงและภาษาของลูกสาวแล้วก็คงเห็นพ้องไปกับภรรยาด้วย ว่าหญิงสาวแปลกไปจริง ๆ เอมอรมองไปที่ล้อของมันที่มีขนาดใหญ่ซึ่งทำด้วยไม้ทั้งหมดลักษณะคล้ายกับรถม้าในหนังจีนโบราณ แต่ดูไม่หรูหราเท่า
“ล้อเกวียน เอาไว้เทียมควาย” เอมอรเพิ่งถึงบางอ้อ นี่เหรอเขาเรียกว่าเกวียนที่สมัยก่อนเขาใช้บรรทุกของกัน เธอจึงถามว่าปีนี้ปีพอศออะไร พ่อของเธอบอกว่าปี พ.ศ. 2525 และเพิ่งจะมีไฟฟ้าใช้ไม่กี่เดือนมานี้เอง