3 ท่านมีแผนอันใด
3
ท่านมีแผนอันใด
จิวฉิงหันมามองอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะมากมาย เธอรีบเดินมานั่งลงบนเก้าอี้พร้อมจับตะเกียบมาคีบอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย การที่ทะลุมิติในครั้งนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไปสำหรับเธอ เพราะต่อจากนี้เธอไม่ต้องตื่นเช้าหลับดึกและไม่ต้องอดมื้อกินมื้อ จิวฉิงยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
เมื่อกินอาหารเสร็จแล้วเธอก็ได้เดินดูรอบ ๆ บริเวณเรือนของคุณชายเหิงเยว์เข่อซิงก็ได้บอกรายละเอียดว่าวัน ๆ เธอต้องทำอะไรบ้าง เธอต้องดูแลทุกอย่างในเรือนเพราะเป็นฮูหยินของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นข้ารับใช้หรือว่าเรื่องเบี้ยอัฐค่าใช้จ่ายทั้งหมดรายงานต่อคุณชายเหิงเยว์ได้รับรู้ในแต่ละรอบ จิวฉิงได้เรียนรู้โดยเร็วโชคดีที่เธออ่านตัวหนังสือในโลกนี้ออก จึงได้เปิดอ่านรายรับรายจ่ายของเรือนแห่งนี้ ตาเธอลุกวาวเมื่อเห็นยอดเงินมากมายหากนับว่าเป็นโลกปัจจุบันบ้านของคุณชายผู้นี้อยู่ในระดับร่ำรวยทีเดียว จิวฉิงจึงได้รีบหันไปถามเข่อซิงโดยเร็วด้วยความอยากรู้
“เข่อซิง หากนี่เป็นรายรับรายจ่ายของคุณชายเหิงเยว์เช่นนี้เท่ากับว่าตระกูลของข้าต้องมีมากกว่านี้ใช่มั้ย?”
“ก็ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้วเจ้าค่ะ ตระกูลของคุณหนูเป็นตระกูลที่ร่ำรวยแถมท่านใต้เท้ายังมีสมบัติมากมายอักทั้งยังมากกว่าของคุณชายเหิงเยว์มากมายเท่าตัวเลยเจ้าค่ะ”
“ว๊าววว! ที่มันสวรรค์ชัด ๆ” จิวฉิงนำมือทาบอกยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น ในโลกปัจจุบันเธอต้องเหน็ดเหนื่อยหาเงินแสนยาก แต่ตอนนี้เธอดันทะลุมิติมาเป็นลูกสาวของใต้เท้าผู้ร่ำรวยช่างโชคดียิ่งนัก
“ออกไปเดินดูข้างนอกอีกสักหน่อยเถิด ข้ายังไม่อยากกลับห้อง” จิวฉิงได้บอกเข่อซิงและเดินนำหน้านางออกมา ตอนนี้ตะวันก็เริ่มคล้อยลงแสงแดดเริ่มเบาบางลง จิวฉิงเดินไปเรื่อย ๆ จนได้ยินเสียงเด็ก ๆ กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน เธอก็ได้เดินเข้าไปดูก็พบว่าเด็กแฝดสองพี่น้องกำลังเล่นกันอยู่ จิวฉิงก็ได้เดินเข้าไปหาทั้งคู่
“พวกเจ้าทำอันใดกันอยู่ให้ข้าเล่นด้วยได้หรือไม่” เลี่ยงเฟิงกับลู่เอ๋อร์เมื่อได้ยินเสียงของหานเสี่ยว์ทั้งคู่ก็รีบยืนก้มหน้าตัวสั่น รอยยิ้มเสียงหัวเราะเมื่อครู่ก็ได้เงียบลงทันที
“ท่านแม่ ท่านหายดีแล้วหรือ” เลี่ยงเฟิงได้เอ่ยถามเสียงสั่น ลู่เอ๋อร์จับชายเสื้อของเขาแน่น
“ข้าไม่ได้เป็นอันใดแล้ว พวกเจ้าไม่ต้องกลัวข้าหรอกและไม่ต้องกังวลว่าข้าจะต่อว่าและทุบตีพวกเจ้าอีก ลู่เอ๋อร์เจ้ามานี่สิมาหาข้าผมเผ้าของเจ้ายุ่งเหยิงข้าจะจัดแปรงผมให้เจ้าเอง .” จิวฉิงอยากให้เด็ก ๆ ทั้งสองเลิกกลัวตัวเองและเป็นเพื่อนคุยเวลาที่เธออยู่ในร่างนี้ เพราะหากเด็กสองคนนี้เป็นมิตรเธอก็จะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างสบายใจและรอวันกลับโลกปัจจุบันของเธอ
“ท่านพี่ข้ากลัว” เสียงเล็กแหลมได้เอ่ยบอกพี่ชายตนเองพร้อมจับมือของเลี่ยงเฟิงแน่น จิวฉิงจึงได้เดินเข้าไปหาและจับแขนของลู่เอ๋อร์มานั่งตักของตนที่เก้าอี้ในสวน
“มาเถอะข้าไม่ทำอันใดเจ้าหรอกนะเด็กน้อย” ลู่เอ๋อร์สั่นกลัวนั่งตัวเกร็งอยู่บนตักของหานเสี่ยว์
“เข่อซิงเจ้าไปนำหวีมาให้ข้าที” จิวฉิงได้สั่งสาวใช้ไปนำของมาให้นาง
“ท่านแม่ ข้ารู้ว่าท่านโมโหที่ข้ากับลู่เอ๋อร์ทำเช่นนั้น แต่ท่านอย่าได้ทำอันใดลู่เอ๋อร์เลยหากจะลงโทษให้ลงโทษข้าเพียงผู้เดียว” เลี่ยงเฟิงเห็นว่าน้องสาวของตนเองนั่งสั่นกลัวและคิดว่านางต้องลงโทษลู่เอ๋อร์เป็นแน่ จึงได้เอ่ยให้ลงโทษตนเอง
“เจ้าคงเห็นว่าข้าเป็นนางมารร้ายสินะ หรือว่าเห็นข้าเป็นปีศาจต่อจากนี้ข้าไม่มีวันทำเช่นนั้นกับพวกเจ้าแน่ ๆ เจ้าวางใจเถิดเจ้าเองก็มานั่งลงที่เก้าอี้และเลิกก้มหน้าเสียที ข้าไม่จับเจ้ากินหรอก” เธอพยายามให้เด็กทั้งสองเปิดใจให้เธอได้แสดงความดีกับทั้งสองแต่ไม่รู้เลยว่าอดีตทั้งคู่พบเจออะไรมาบ้าง หานเสี่ยว์คงจะโหดร้ายกับทั้งสองมาก ๆ ถึงได้กลัวจนไม่กล้าเงยหน้ามองเลยแม้แต่น้อย
แต่แล้วเสี่ยงเฟิงก็ยอมไปนั่งที่เก้าตามที่จิวฉิงบอก ไม่นานเข่อซิงก็ได้กลับมาพร้อมกับหวีไม้แกะสลักอย่างสวยงาม จิวฉิงได้จัดการสางผมของลู่เอ๋อร์ออกจากกันและหวีอย่างบรรจงเบามือกลัวว่าลู่เอ๋อร์นั้นจะเจ็บเอาได้ เลี่ยงเฟิงกลั้นใจตัดสินใจมองดูว่าแม่เลี้ยงใจร้ายจะทำร้ายร่างกายลู่เอ๋อร์หรือไม่ แต่ทว่าเขากลับพบว่าตอนนี้หานเสี่ยว์ได้เปลี่ยนไปแววตาที่เคยแข็งกระด่างได้อ่อนโยนมองลู่เอ๋อร์ด้วยความเอ็นดู ทำให้เลี่ยงเฟิงแปลกใจเป็นอย่างมากแต่ก็ยังไม่ไว้ใจนางอยู่ดีไม่แน่นางอาจจะมีแผนอันใดอีกก็ได้
“ฮื้ม เสร็จแล้วช่างเข้ากับใบของเจ้ายิ่งนัก ไหนยืนให้ข้าดูสิ” จิวฉิงได้เชยชม ลู่เอ๋อร์ยังกล้า ๆ กลัว ๆ ก็ได้ลุกขึ้นยืนให้จิวฉิงได้ดู
“โตขึ้นเจ้าคงจะงดงามมากแน่ ๆ ขนาดเจ้าตัวเท่านี้ยังส่องประกายได้ขนาดนี้ เอาล่ะตอนนี้ก็เย็นแล้วพวกเจ้าไปล้างไม้ล้างมือเถิดจะได้ไปกินอาหารเย็นกับข้า” จิวฉิงลุกขึ้นยืนจะพาเด็กไปที่ห้องโถงแต่ทว่าเลี่ยงเฟิงก็ต้องดึงน้องสาวตนเองมาไว้ด้านหลัง
“นี่ท่านแม่ ท่านแม่แผนอันใดมาทำดีกับข้าทั้งสองคนแล้วจะให้ข้าไปกินยาพิษที่ท่านผสมไว้ในอาหารใช่หรือไม่?” จิวฉิงถึงกับหัวเราะเมื่อเลี่ยงเฟิงคิดอะไรไปไกลขนาดนั้น
“ฮ่า ฮ่า เจ้านี่ตลกเสียจริงข้าบอกแล้วไงว่าข้าจะไม่ทำร้ายพวกเจ้าอีก หากเจ้ากลัวว่าข้าจะใส่ยาพิษงั้นข้าจะเป็นผู้กินอาหารบนโต๊ะทั้งหมดก่อนพวกเจ้าแล้วค่อยกิน มาเถิดหากเลยเวลาไปกว่านี้จะเจ็บท้องได้” เธอได้จับมือเด็กทั้งสองให้เดินตามเธอไป เข่อซิงสับสนงงงวยที่เห็นนายหญิงของตนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนหรือว่านี่มิใช่นายหญิงของตน แต่นางเองก็ชอบที่นายหญิงของนางเปลี่ยนไปเช่นนี้เหมือนกัน หากเป็นเช่นแต่ก่อนวัน ๆ นางคงถูกต่อว่าทุบตีเช่นเดียวกัน แต่เพราะตระกูลของหานเสี่ยว์เป็นผู้มีพระคุณนางจึงยอมอยู่รับใช้จนอยู่ถึงทุกวันนี้ด้วยใจที่จงรักภักดี