บท
ตั้งค่า

ตอนที่2 กุ้งเผาแสนอร่อย

เหมยจิงมีความทรงจำจากร่างเดิม​ เธอย่อมรู้ว่าอาหารที่ดีที่สุดของบรรดาลูกๆของเธอก็คือแป้งจี่ที่มาจากธัญพืชหยาบๆ บางทีก็มีก้อนหินก้อนกรวดติดมาด้วย ทั้งที่คนอื่นในครอบครัวไม่มีใครที่สภาพการกินจะเลวร้ายเท่าครอบครัวของเธอ นอกจากไม่ยุติธรรมแล้วมันค่อนข้างไร้เหตุผลสุดๆ

เหมยจิงไม่อยากคิดถึงเรื่องนั้นอีก เธอจะแคร์ไปทำไมในเมื่อตอนนี้เธอมีแหล่งอาหารชั้นดีที่มีแต่เธอเองที่รู้ เหมยจิงให้ลูกชายทั้งสองออกไปหาฟืนเพื่อจะก่อกองไฟ นางคงไม่โง่พากลับบ้านไปเพื่อถูกช่วงชิงอาหารเป็นแน่ คนพวกนั้นไม่รู้ว่าเป็นคนประเภทไหนกัน​ คนหาไม่ได้กินคนกินกลับไม่ได้หามันช่างเป็นเรื่องที่ย้อนแย้งสิ้นดี เธอจับกุ้งก้ามกรามใส่กระเป๋าใบเก่าที่นำติดมือมาด้วย กระเป๋าใบนี้เป็นสินเดิมของนางที่มารดาให้ตอนวันแต่งงานแม้มันจะเก่ามากแล้วแต่ยังสะอาดและใช้งานได้ดี หากเป็นเหมยจิงคนเก่าคงรู้สึกเสียดายและเลือกที่จะกลับไปเอาถังไม้จากที่บ้าน และคงไม่พ้นสายตาสอดรู้สอดเห็นของพี่สะใภ้ปากกรรไกร แล้วอาหารมื้อนี้คงหลุดมทอเธอไปเป็นแน่​ คนเห็นแก่ตัวแบบนั้นคงไม่มีวันยอมให้เธอและลูกชายได้กินได้ใช้อะไรดีๆ​

เด็กน้อยทั้งสองกลับมาพร้อมไม้ฟืนในมือ เฟยเทียนแม้ตัวเล็กมากแต่ก็ยังช่วยพี่ใหญ่ของตนแบกไม้ฟืนเล็กๆ มา เหมยจิงอดยิ้มเอ็นดูในความน่ารักของลูกชายคนเล็กไม่ได้ ยามนี้กุ้งก้ามกรามในกระเป๋าผ้าใบเก่ามีมากถึงครึ่งของกระเป๋ามันมากเกินพอที่พวกเธอสามคนแม่ลูกจะกินหมดในครั้งเดียวด้วยซ้ำ แต่รับรองถึงมันไม่หมดแต่จะไม่มีทางเหลือถึงบ้านใหญ่จอมเห็นแก่ตัวพวกนั้นแน่นอน

เหมยจิงให้ลูกชายทั้งสองใช้ไม้เสียบตัวกุ้ง ส่วนตัวเธอแล้วเธอก่อกองไฟ​ ในยุคนี้เธอก่อไฟไม่เป็นแต่เพราะอาศัยความทรงจำของร่างเดิมจึงพอทำได้​ ที่สำคัญ​สมัยนี้เริ่มมีการผลิตไม้ขีดไฟแล้วนิยมใช้กันในเมือง ส่วนชนบทแบบนี้ส่วนมากจะใช้ถ่านไฟจุดเสียมากกว่านับว่าประหยัดได้มากโข

เหมยจิงพาลคิดไปถึงกุ้งแม่น้ำเผาเธอเคยกินครั้งหนึ่งตอนที่บินไปไทยยอมรับเลยว่าน้ำจิ้มซีฟู้ดที่นั่นเด็ดจริงๆ แต่เธอทำมันไม่เป็นหรอกทำได้แค่นึกถึงรสชาติจัดจ้านของมันได้เพียงแค่นั้น

เหมยจิงทำได้แค่ใจเย็นรอให้ไม้ฟืนมอดไหม้กลายเป็นถ่านสีแดงก่อนจะค่อยๆ ปักกุ้งเสียบไม้ใกล้ๆ กองไฟ กุ้งก้ามกรามเป็นสัตว์ที่ปรุงสุกรวดเร็ว​ เพียงเวลาไม่นาน กลิ่นหอมๆ ก็ทำให้เด็กๆ ลอบกลืนน้ำลายกัน เมื่อเห็นว่าสุกได้ที่จึงดึงออกมาให้เด็กๆ คนละหนึ่งไม้

ในหนึ่งไม้มีกุ้งทั้งหมดสามตัว กุ้งแต่ละตัวสมบูรณ์มากคงเพราะไม่มีใครสังเกตเห็นพวกมัน สัตว์พวกนี้จึงสามารถอยู่รอดได้มาเป็นเวลานาน เด็กๆ กล้าๆ กลัวๆ ยามยื่นมือมารับกุ้งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายตรงหน้า ดวงตาพร่ามัวไปด้วยน้ำตา เมื่อเห็นกุ้งเผาจำนวนมาก เป็นไปได้หรือที่วันนี้พวกเขาจะสามารถกินได้จนอิ่ม แถมยังเป็นกุ้งที่แม้แต่ท่านย่ายังไม่มีเงินซื้อ แม่ของพวกเขาแกะเนื้อกุ้งลองป้อนพวกเขาดู ก่อนจะให้พวกเขาลองแกะเปลือกกุ้งกันเองบ้าง รสชาติเนื้อกุ้งมันอร่อยจนบรรยายออกมาไม่ไม่ถูก พวกเขากินไปร้องไห้ไป แต่ยังมีรอยยิ้มแห่งความสุขแต่งแต้มเป็นระยะ 

"แม่ฮะ  จุ้งอร่อยจังเลยเฟยเทียนจะได้กินมันทุกวันมั้ยฮะ" เด็กน้องเอ่ยถามแม่ไปทว่าในปากยังเคี้ยวกุ้งอย่าน่าเอ็นดู

"เฟยเทียนตอนกินห้ามพูดนะ มันจะทำให้เอาหารติดคอได้"

"ครับเฟยเทียนเข้าใจแล้ว"

"เฟยหยางก็เหมือนกัน" เหมยจิงหันไปบอกลูกชายอีกคน

"ครับแม่"

"แม่สัญญาว่าลูกจะได้กินอิ่มทั้งยังต้องได้เข้าเรียนชั้นประถมเร็วๆนี้ ไว้พ่อของลูกกลับมาครั้งหน้า แม่จะลองพูดกับเขาให้" เหมยจิงคิดในใจหากเขาไม่เห็นด้วย เธอก็ไม่ลังเลที่จะหย่าขาดกับเขาเพราะอย่างไรเสียต่อให้มีเขาอยู่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ลูกชายที่น่าสงสารทั้งสองมีสภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ได้อีกแล้ว 

เหมยจิงย่างกุ้งทั้งหมดจนสุกก่อนจะหาที่ซ่อนให้ไกลตาผู้คนมากที่สุดทั้งยังบอกที่ซ่อนให้ลูกๆ รู้เผื่อใครหิวขึ้นมาจะได้มากิน เธอกำชับลูกว่าให้ล้างกลิ่นให้หมดอย่าให้ที่บ้านท่านย่าของลูกๆ จับได้ว่าพวกเธอแอบกินเนื้อไม่เช่นนั้นแล้วเกรงว่าบ้านตระกูลหรงคงจะต้องพังพินาศ 

ก่อนกลับเหมยจิงไม่ลืมที่จะไปเก็บฟืนกลับบ้านเพื่อที่ไม่ให้เป็นที่สงสัยมากนัก เพราะนางออกจากบ้านมานานพอสมควรหากกลับไปมือเปล่าคงต้องถูกแม่สามีบ่นจนควันออกหูเป็นแน่​ ดีไม่ดีวันนี้จะพาลอดอาหารที่แต่เดิมก็ไม่ค่อยมีคุณค่าทางโภชนาการณ์อยู่แล้ว อย่าว่าแต่ข้าวเลยแม้แต่น้ำข้าวยังไม่รู้ว่าจะได้กินหรือเปล่า

สามคนแม่ลูกแบกฟืนที่มากพอสมควรกลับบ้าน พอดีกับที่ท่านย่าที่มีป้าสะใภ้ของพวกเด็กๆ ยืนรออยู่หน้าบ้าน ใบหน้าของย่าพวกตนบิดเบี้ยวไม่น่ามองยิ่ง 

"พวกตัวไร้ค่าหายไปครึ่งค่อนวันได้กลับมาเพียงฟืนไม่กี่มัด หญิงชราอย่าฉันช่างมีเวรมีกรรมยิ่งนัก"

เหมยจิงหัวคิ้วชนกันอย่างมึนงง แม่สามีของตนไร้เหตุผลกว่าที่คิดไว้มากทั้งยังไร้สมองอีกด้วย เหมยจิงพยายามอดทนไม่เปิดปากกล่าวอะไร ไม่เช่นนั้นเธอไม่กล้ารับรองว่าจะปล่อยระเบิดอะไรออกไปบ้าง ปกตินิสัยเดิมของเธอไม่ใช่คนที่อดรนทนต่ออะไรเก่งอยู่แล้วเกรงว่าหากทนอยู่แม้แต่นาทีเดียวมันต้องเป็นเรื่องราวใหญ่โตแน่นอน

"จองหองมากนักเช่นนั้นเย็นนี้ก็หากินกันเอง อย่าแม้แต่จะคิดเตะต้องอาหารในบ้านของฉันแม้เพียงนิด"

เหมยจิงหยุดฟังแม่สามีพูดจนจบก่อนจะเดินจากไปมิแคล้วเอ่ยบางสิ่งที่หญิงชราถึงกับเต้นร่า

"เช่นนั้นงานในบ้านฉันก็จะไม่เตะเช่นกัน ฉันคิดว่ามันค่อนข้างยุติธรรมนะคะแม่"

"หยาบคาย​สตรีไร้ค่าเช่นเธอ ฉันจะให้ลูกสองหย่ากับเธอรอดูเอาเถอะเธอจะเสียใจจนหายใจไม่ออก"

"ก็ขอให้เขายอมหย่าเถอะค่ะ"  เหมยจิงแสยะยิ้มเบาๆ​ ก่อนจะรีบเดินเข้าห้องไปอย่างเงียบๆ​ 

แต่พี่สะใภ้ใหญ่และแม่สามีกลับดิ้นเร่าดั่งหนูติดจั่น

" แม่อย่ากังวลใจ​ไปเถอะค่ะ​ อย่างไรเสียสะใภ้รองก็อวดดีกับแม่ไม่ได้นานค่ะ​ อย่าลืมสิคะว่าน้องรองส่งเงินมาให้แม่ทุกเดือน​ คนพวกนั้นมันจองหองได้ไม่นานหรอกค่ะ" 

หรงเจียงซู​คิดตามที่ลูกสะใภ้คนโตกล่าวก็เอนเอียงความคิดตามไป​ จริงด้วยในเมื่อพ่อและสามีของคนพวกนั้นยังส่งเงินให้นางทุกเดือน​ คนพวกนั้นก็จะต้องง้อนาง​ จากนั้นครั้งต่อไปนางสัญญา​ว่าจะใช้แรงงานคนพวกนั้นหนักขึ้นให้สาสมที่มาอวดดีกับนาง​ 

หลังจากพวก​เด็กๆ​ เข้ามาในห้องนอนถึงกับมองหน้าแม่ของพวกเขาดีๆ​ อีกครั้งแม้พวกเขาจะเป็นเด็กแต่พอจะรู้ว่าวันนี้แม่ของเขาแตกต่างกันออกไป​ พวกเขาไม่อดแถมแม่ยังทำให้ย่าและป้าสะใภ้เต้นร่าเหมือนหมูถูกน้ำร้อนได้​  ซ้ำท่านแม่ยังเอ่ยถึงการเข้าเรียนชั้นประถมแต่นั่นยังอีกตั้งหลายปี  พวกเขาเห็นลูกบ้านซ่งกว่าจะได้เข้าเรียนก็ตัวสูงมากแล้ว​ จริงสิสูงเกือบเท่าแม่ด้วยซ้ำ

"ทำไมลูกๆ​ จ้องแม่กันแบบนั้น​" 

"เฟยหยางแค่คิดว่าแม่เก่งขึ้นฮะ" 

"เฟยเทียนด้วย" 

เหมยจิงยิ้มอ่อนให้เด็กๆ​ ก่อนจะรวบตัวเด็กสองคนเข้ามากอด​ 

"แม่จำเป็นต้องเก่งขึ้นเพื่อลูกสองคนไง​ และแม่จะเก่งกว่านี้เพื่อลูกนะ"  

เด็กสองคน​รู้แค่ว่าหากแม่เก่งกว่านี้พวกตนจะได้กินอิ่ม​ และได้เข้าโรงเรียนเหมือนลูกบ้านซ่งที่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนตำบลที่มีเด็กนักเรียนแสนน้อยนิด​ แต่แค่นั้นก็ดีเกินไปแล้ว

เหมยจิงลอบมองรอบๆ​ ห้อง​นอนไม่มีสิ่งใดที่เรียกว่าใช้งานได้เลย​ ยิ่งมองฟูกนอนที่ปูด้วยฟางและนำผ้าบางๆมาปูทับอีกครั้งก็ได้แต่ทอดถอนใจ​  สภาพการเป็นอยู่ของพวกเธอมันแย่กว่าขอทานเอาเสียอีก​  เธอปัดฝุ่นออกก่อนจะให้ลูกชายของเธอทั้งสองคนได้นอนกลางวันหลังจากพึ่งกินอิ่มไป​ ส่วนตัวเธอเองก็กะว่าจะพักสักงีบหนึ่งเหมือนกันอย่างไรเสียต่อไปนี้เธอก็ไม่ออกไปทำงานบ้านแล้ว

เหมยจิงหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้​ แต่จู่ๆ​ ได้เห็นแสงสีขาววูบมา​ พร้อมกับเสียงปริศนา

เธอรู้แค่ว่าเธอได้รับสิทธิ์​กลับมาโลกเดิมได้สามวันพร้อมกับช่องว่างรูปปานแดงที่ข้อมือด้านซ้าย​  

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel