บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 เผชิญหน้า

บทที่ 2 เผชิญหน้า

พิธีการเสร็จสิ้นสาวใช้ได้พาหลี่มี่ไปที่ห้องหอส่วนท่านแม่ทัพนั้นออกตอนรับแขกที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ประตูห้องถูกปิดจากด้านนอกหลี่มี่นั่งลงบนเตียงหนานุ่มใช้มือตบลงที่นอนอย่าน่าพอใจ เมื่อได้ยินเสียงประตูปิดลงนางได้เปิดผ้าคุมหน้ากวาดตามองไปรอบ ๆ เพื่อสำรวจดูภายในห้องที่นางต้องอยู่ต่อจากนี้

“ห้องกว้างใหญ่มากนี่น่า ในนิยายฉันจำได้ว่าฉันแต่งออกมาให้ห้องหอเป็นเพียงห้องเล็กเท่านั้น หรือนี่คือห้องที่เล็กที่สุดแล้วนะ เฮ้อ! ผ้าคุมหน้านี่ก็น่ารำคาญเสียจริง อากาศก็ออกจะร้อนขอถอดออกหน่อยละกันอย่างไรเจ้าบ่าวก็ไม่เข้ามาเปิดมันหรอก เพราะฉันจำได้ว่าคืนวันงานเขาไม่แยแสไม่สนใจปล่อยให้เยิ่นเม่ยเม่ยรอคอยจนฟ้าสว่าง ดีเลยอย่างนี้ฉันค่อยสบายใจหน่อยแต่ก็น่าแปลกฉันเข้ามาอยู่ในนิยายได้ยังไงนะ แถมยังมาอยู่ในร่างตัวเอกอีก” หลี่มี่เปิดผ้าขยับอาภรณ์ที่แน่นหนาออกให้สบายตัว พลางคิดเรื่องที่เธอมาอยู่ในนิยายช่างเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมาก ๆ นางลุกขึ้นเดินทั่วห้องมองดูของใช้ต่าง ๆ

“ฉันว่าในห้องนี้ดีจริง ๆ มีทุกสิ่งทุกอย่างราวกับว่าจัดเตรียมไว้ต้อนรับเยิ่นเม่ยเม่ยเป็นอย่างดี แต่ยังไงฉันก็ยังไม่สบายใจหรอกนะจริงสิวันนี้ฉันยังไม่ได้เจอเจ้าซาลาเปาลูกชายของท่านแม่ทัพเลยนี่น่า ต้องทำอย่างไรดีนะที่จะถูกใจเด็กชายคนนั้น จำได้ว่าเด็กชายคนนั้นกลัวว่าเยิ่นเม่ยเม่ยจะเข้ามาแย่งความรักของท่านพ่อ จึงไม่ชอบขี้หน้านางคอยกลั่นแกล้งนางตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ ท่านแม่ทัพเองก็ไม่ได้สนใจปล่อยให้ลูกชายของเขารังแกอยู่เรื่อยมา ไม่นานเขาก็แต่งฮูหยินรองคนที่เขามีใจให้ก่อนที่จะแต่งเยิ่นเม่ยเม่ยเข้ามา และนางเองก็เป็นคนที่ทำให้เยิ่นเม่ยเม่ยตาย เฮอะ! ทำไมฉันแต่งนิยายออกมาได้โหดร้ายกับนางเอกแบบนี้นะ หรือนี่จะเป็นบทลงโทษเลยให้ฉันทะลุมิติมาอยู่ในนิยายตัวเอง อย่างนั้นฉันจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเอง จากนี้ฉันจะใช้ชีวิตเป็นเยิ่นเม่ยเม่ยที่ไม่อ่อนแอให้ใครมารังแกได้อีกและฉันจะเอาชนะใจเจ้าซาลาเปานั้นให้ได้ หากทำให้เรื่องนี้จบลงด้วยดีฉันคงได้กลับไปที่โลกของตัวเอง นิยายเรื่องนี้จะได้จบอย่างบริบูรณ์ ฉันนี่มันเก่งจริง ๆ” หลี่มี่เอ่ยชมตัวเองอย่างภาคภูมิใจ หลังจากที่ทำพิธีและทะลุมิติมานานน้ำสักหยดนางยังไม่ได้กิน นางเห็นสุราที่วางอยู่บนโต๊ะเป็นสุรามงคลที่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวต้องดื่มก่อนจะร่วมหอเมื่อนางเห็นจึงเดินมานั่งที่โต๊ะก่อนจะรินสุราลงจอกกระดกเข้าปากอย่างกระหายน้ำ

“ฮื้ม! เหล้าที่นี่รสชาติดีจริง ๆ หิวน้ำแต่มีเหล้าแทนน้ำก็ดีสำหรับฉันจริง ๆ ” หลี่มี่รินสุราลงจอกอีกครั้งเพื่อดื่มด่ำกับรสชาติ ในโลกเดิมเธอเป็นนักดื่มตัวยง ต่อให้หมดไหนี่ก็ไม่สามารถทำให้นางเมาได้เลยแม้แต่น้อย

“อะไรกันหมดแล้วเหรอเนี้ยะ กำลังอร่อยเลย” หลี่มี่จับไหคว่ำไม่มีสุราไหลรินออกมาสักหยด เธอวางลงก่อนจะเดินไปที่เตียงเพื่อพักผ่อน

“ไม่เป็นไรฉันยังอยู่ที่นี่อีกนานค่อยกินอีกวันหลังก็ได้ ขอนอนพักสายตาสักงีบค่อยคิดหาวิธีดีกว่า” แต่แล้วเมื่อนางกำลังลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงประตูก็ถูกเปิดจากข้างนอก

“แอ๊ดด!!”

‘ใครมาในเวลานี่กันนะ’ หลี่มี่มองไปยังประตูเห็นบุรุษรูปงามกำลังย่างเท้ามาอย่างสง่างาม ใบหน้าเข้มขรึมหุ่นบึกบึนสมกับเป็นท่านแม่ทัพใหญ่ ทำเอานางตาค้างหยุดเคลื่อนไหว

‘ไม่คิดเลยว่าพระเอกของฉันจะหล่อขนาดนี้ เดี๋ยวสิหลี่มี่เธอต้องตั้งสติตอนนี้เธอไม่ใช่หลี่มี่แต่เธอเป็นเยิ่นเม่ยเม่ยนะเว้ย!’ หลี่มี่รีบดึงสติของตนเองเพื่อเตือนว่าตอนนี้จะมาหลงใหลในรูปร่างหน้าตาของท่านแม่ทัพใจร้ายผู้นี้ไม่ได้ สายตาคมกริบมองไปยังสุรามงคลแต่ทว่าตอนนี้ไหนอนอยู่บนโต๊ะไร้น้ำสุราเขาเดินเข้ามาใกล้นางมากกว่าเดิมจ้องมองไปยังใบหน้าที่แดงก่ำของหลี่มี่ก่อนจะขยับปากเอ่ยวาจาออกมา

“เจ้าดื่มสุรามงคลเพียงผู้เดียวได้อย่างไรเหตุใดถึงไม่รอข้า ไหนจะผ้าคุมที่ข้าต้องเป็นผู้เปิดแต่ทว่าเจ้ากลับเปิดมันเอง”

“แฮะ ๆ ตอนนี้สุราหมดแล้ว ไม่ว่าท่านดื่มหรือข้าดื่มก็คล้าย ๆ กัน เป็นอันว่าพิธีเสร็จสิ้นแล้วท่านแม่ทัพกลับไปพักผ่อนเถอะเจ้าคะ คงเหนื่อยมาทั้งวัน” หลี่มี่ยิ้มกลบเกลื่อนความกลัว ใครจะคิดว่าเขาจะเข้ามาในห้องหอทั้ง ๆ ที่นิยายเขาไม่เคยเข้ามาเหยียบห้องนี้เลยด้วยซ้ำ นางจึงรีบหาทางให้ท่านแม่ทัพออกไปจากห้องนี่โดยเร็ว แต่เหมือนคำพูดของนางมิอาจไล่เขากลับไปได้ เขาเดินเข้ามาใกล้มากกว่าเดิมหลี่มี่รีบลุกขึ้นเดินถอยหลังด้วยความกลัว

“ยังไม่เสร็จพิธีเสียหน่อยเหลืออีกหนึ่งพิธี ก็คือร่วมหอกับเจ้าอย่างไรล่ะ ดีเช่นกันในเมื่อเจ้าดื่มสุราหมดแล้วเราก็ร่วมหอกันเถอะ” ท่านแม่ทัพแสยะยิ้มมุมปากมองหลี่มี่ตั้งแต่หัวจรดเท้า สีหน้าของนางเริ่มซีดเผือก ต้องทำอย่างไรถึงจะผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปได้ นางหลบสายตาเขาจังหวะนั้นนางมองไปเห็นไหสุราจึงคิดบางอย่างออก รีบใช้มือดันอกแกร่งของเขาไม่ให้เข้าใกล้พร้อมยิ้มกว้าง

“จะทำอย่างนั้นได้อย่างไรเจ้าคะ เราจะต้องดื่มสุรามงคลก่อนสิเจ้าคะถึงจะทำพิธีครบทุกอย่าง”

“อะไรของเจ้า เมื่อครู่เจ้าบอกไม่ว่าข้าดื่มหรือเจ้าดื่มก็เช่นกันนี่น่า”

“โธ่! ท่านแม่ทัพอย่างไรเสียตอนนี้ข้าก็ขึ้นชื่อว่าเป็นฮูหยินของท่าน มิอาจจะหนีไปทางใดได้ เรามาร่วมดื่มสุรามงคลก่อนนะเจ้าคะ” เขาถอนหายใจก่อนจะเดินไปที่เก้าอี้นั่งลงพร้อมตะโกนออกไปด้านนอก

“ผู้ใดอยู่ข้างนอกจงไปนำเอาสุรามาให้ข้าที” หลี่มี่เบาใจเอามือทาบอกนางจะไม่ยอมร่วมหอกับชายผู้นี้เด็ดขาดต่อให้หล่อเหลาขนาดไหนก็ช่าง คืนนี้นางจะมอมสุราเขาเอง

“ขอรับท่านแม่ทัพ” เสียงของทหารที่อยู่ด้านนอกตอบกลับมา เขาหันมามองหลี่มี่พร้อมยกมือขึ้นกวักให้นางมานั่งใกล้ ๆ เขา

“เจ้ารีบมานี่สิ จะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานไม่หรือเจ้าเปลี่ยนใจ? ”

“ข้ามาแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพช่างใจร้อนเหลือเกินนะเจ้าคะ” หลี่มี่เดินมานั่งเก้าอี้ตังวข้าง ๆ ท่านแม่ทัพ นางคอยสังเกตมองเขาอยู่บ่อยครั้งกลัวว่าเขาจะทำในสิ่งที่นางไม่คาดคิด ไม่นานประตูก็ถูกเปิดจากด้านนอก ทหารได้ยกไหสุราเข้ามาให้ตามคำสั่งของท่านแม่ทัพ

“สุราที่ท่านแม่ทัพต้องการมาแล้วขอรับ”

“วางไว้ที่โต๊ะ ออกไปปิดประตูให้ข้าเช่นเดิมและห้ามมารบกวน”

“ขอรับท่านแม่ทัพ” ใจหลี่มี่สั่นสะท้านเมื่อได้ยินคำสั่งของเขา นางฝืนยิ้มยื่นมือไปหยิบไหรินน้ำสุราใส่จอกก่อนจะยกจอกสุราให้แก่เขาพร้อมยกจอกสุราของตนเองขึ้น

“สุราจอกนี้ข้าขอดื่มให้ท่านนะเจ้าคะ” เขาจ้องมองนางไม่ละสายตา ก่อนจะยกสุราที่นางรินให้หมดจอกภายในรวดเดียว

“สุราก็ได้ดื่มแล้ว เช่นนั้นตอนนี้เราไปที่เตียงกันเถอะ” แม่ทัพวางจอกสุราลงพลางลุกขึ้นแต่ก็ต้องถูกหลี่มี่ดึงแขนของเขาให้นั่งที่เก้าอี้เช่นเดิม

“เอ่อ...ท่านแม่ทัพเจ้าคะสุราที่นี่ช่างอร่อย ข้าอยากดื่มด่ำรสชาติอีกสักหน่อยแล้วเราค่อยขึ้นเตียงกันนะเจ้าคะ” หลี่มี่เอ่ยเหงื่อเริ่มไหลอกมาตามรูขุมขนทีละนิด หากนางยื้อเขาไม่ได้นางคงต้องตกเป็นของท่านแม่ทัพแน่ ๆ แต่ทว่าเขากลับยอมนั่งลงเช่นเดิมพร้อมรอยยิ้มที่ส่งผ่านสายตามามองหลี่มี่อย่างเร้าร้อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel