บท
ตั้งค่า

ทะลุมิติ

หลังจากนั้นภาพๆ หนึ่งก็ไหลเข้ามาในสมองของอลิษา คล้ายกับว่าเป็นกระแสความทรงจำของใครสักคน

ภาพที่เห็นเบื้องหน้านั้นเป็นเงาของหญิงสาวไม่ผิดแน่...

ดรุณีน้อยรูปงามนางหนึ่ง กำลังย่างเท้าออกมานอกจวนในยามวิกาล พร้อมกับควันจางๆ ที่พรั่งพรูออกมาพร้อมกับลมหายใจ

 นางมองไปยังสระน้ำเบื้องหน้า แววตาสีออกเทาคู่งามแลดูมีความเหนื่อยล้าอยู่ในนั้น

“ข้าจะทำอย่างไรดี ท่านโหวกำลังจะกลับมาแล้ว...”

แม้จะบอกว่าให้ตัดใจจากบุรุษผู้นั้น แต่แววตาของนางช่างตรงข้ามกับสิ่งที่คิดเสียเหลือเกิน นางไม่อาจปล่อยวาง ไม่ว่าอย่างไร เขาก็คงไม่อนุญาตให้นางกลับไปอยู่เคียงข้างเขาในฐานะภรรยาอีกแล้ว

“ตู้ม!”

ดรุณีน้อยนางนั้นหายวับไปท่ามกลางความมืดที่หนาวเย็น เหลือไว้แค่เพียงผิวน้ำที่แตกกระจายใต้เงาจันทร์ที่เลือนลาง

อย่าบอกนะว่าสาวน้อยแสนสวยคนนี้กำลังจะฆ่าตัวตาย!

“ฮูหยิน ท่านฟื้นแล้ว!” เสียงที่ดังกังวานของใครคนหนึ่งเข้ามายังโสตประสาทของหญิงสาว ทำให้อลิษาหลุดออกมาจากกระแสความทรงจำของดรุณีน้อยที่มีนามว่า “ไป๋ลู่” ทันที

เมื่ออลิษาปรายตามองไปยังทิศทางของเสียง สาวใช้คนหนึ่งก็วิ่งปรี่เข้ามาในห้องด้วยความเร่งรีบ

“เจ้า ผิงผิง?”

ในความทรงจำที่แวบเข้ามา ทำให้อลิษาได้รู้ว่าเด็กสาวตรงหน้ามีชื่อว่าผิงผิง ซึ่งเป็นสาวใช้ผู้ซื่อสัตย์ที่ติดตามร่างเดิมมาจากเมืองหลวง

ด้านหลังของผิงผิงนั้น ยังมีอีกชายสูงวัยคนหนึ่ง ดูจากท่าทางและย่ามใบใหญ่ที่สะพายแล้วน่าจะเป็นหมอ ทั้งสองคนนั้นสวมชุดประหลาดอย่างกับในซีรี่ย์จีนที่เคยดู อย่างกับทะลุมิติมาอย่างไรอย่างนั้น...

เดี๋ยวนะ ฉันทะลุมิติมาอย่างนั้นหรือ!!

“ผิงผิง เจ้าช่วยบอกข้าฟังอีกทีสิ ว่าที่นี่คือที่ไหน?”

ก่อนที่สมองจะทันคิด อลิษาต้องชะงักไปทันที…หัลงจากที่เสียงของหญิงสาวถูกเปล่งออกมา

เดี๋ยวสิ เสียงนั้นมัน…จีน? เธอพูดภาษาจีนได้ตั้งแต่เมื่อไหร่!

“ฮูหยิน เกิดอะไรขึ้นกับท่านหรือเจ้าคะ?”

“ข้า... เอ่อ... ข้า...”

เสียงของอลิษาสั่นเล็กน้อย ขณะที่พยายามรวบรวมสติ แต่คำพูดของบ่าวสาวที่อยู่ตรงหน้ากลับทำให้เธอยิ่งประหลาดใจ

“ท่านหมอบอกว่าอาการป่วยของท่านกำเริบเพราะจมน้ำเจ้าค่ะ ตัวท่านนั้นสลบไปร่วมเจ็ดวันแล้ว”

“จมน้ำ? สลบไปเจ็ดวัน?” อลิษาทวนคำ ราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน หญิงสาวอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ สมองเต็มไปด้วยคำถามมากมายที่แล่นวูบวาบเข้ามา แต่เหมือนคำพูดเหล่านั้นถูกพันธนาการไว้ในลำคอ

นี่มันเรื่องจริง... หรือว่าเรากำลังฝันไป?

เธอได้แต่คิดในใจ เพราะความจริงตรงหน้านั้นดูเลือนรางและยากจะยอมรับ

แม้จะอยากโวยวายกรีดร้องเหมือนในละครมากเพียงใด แต่อลิษาก็เลือกที่จะไม่ทำ เพราะแต่เดิมเวลาที่เธอต้องเผชิญปัญหา ไม่ว่าจะหนักเบาเพียงใด ก็ไม่มีใครสักคนที่คอยรับฟัง นานวันเข้าเธอจึงกลายเป็นคนนิ่งเงียบไปในที่สุด

ครั้งนี้ก็เช่นกัน เธอได้แต่เก็บปัญหาที่แก้ไม่ตกไว้ในใจแต่เพียงผู้เดียวเหมือนกับทุกครั้ง

“ฮูหยินเจ้าคะ ได้เวลาไปชำระกายแล้วเจ้าค่ะ หากปล่อยให้ท่านโหวรอนานเกินไป เกรงว่าเขาอาจจะพาลโกรธเอาได้”

“ท่านโหว?” อลิษาในร่างของไป๋ลู่ทวนคำด้วยความงุนงง ดวงตาสีเทาคู่งามนั้นกำลังฉายแววประหลาดใจ

“เจ้าค่ะ ท่านโหว...สามีของท่านกลับมาแล้ว” ผิงผิง บ่าวผู้ซื่อสัตย์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเบาเจื่อน ใบหน้าพยายามฝืนยิ้มอย่างระมัดระวัง

เดิมเจ้าของร่างนี้มีนามว่าไป๋ลู่ เป็นบุตรสาวสุดที่รักของเสนาบดีกรมคลังไป๋เซียง และยังมีศักดิ์เป็นถึงหลานสาวของไทเฮา นางถูกมอบสมรสพระราชทานมาให้กับท่านโหวแห่งดินแดนเหนือ นามว่า “หวังจิ่นหรง”

เนื่องจากเขาได้สร้างคุณงามความดี ปกป้องหัวเมืองเหนือได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาจึงต้องจำใจรับนางมายังดินแดนเหนือเพื่อมาเป็นฮูหยินแห่งจวนโหวนี้

ในความทรงจำของร่างนี้ เหมือนว่าไป๋ลู่นั้นจะทั้งเคารพรักและกลัวท่านโหวคนนี้ เพราะเขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงเรื่องความเผด็จการและโหดร้ายเป็นอย่างมาก

ตั้งแต่แต่งงานกันมาสามปี หวังจิ่นหรงไม่เคยพำนักอยู่ในจวนแห่งนี้แม้แต่คืนเดียว เพราะเขามีเหตุด่วน...ทำให้ต้องไปออกรบอย่างเร่งด่วนตั้งแต่คืนแรกที่เข้าหอ จึงทิ้งฮูหยินน้อยเช่นนางให้อยู่โดดเดี่ยวลำพังภายในจวนกว้างใหญ่แห่งนี้

เห็นว่าในวันมงคลสมรสนั้น กลับมีชนเผ่าที่ชื่อว่า “เซวียนหยา” ซึ่งเป็นชนเผ่าที่ขึ้นชื่อว่าป่าเถื่อนบุกมาประชิดเมือง เพราะพวกเขาต้องทนกับสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีและความแห้งแล้ง ทำให้พวกชนเผ่าเซวียนหยานั้นมุ่งมั่นที่จะยึดครองเมือง “หลิงเสวี่ย” ดินแดนสำคัญทางตอนเหนือ ซึ่งเป็นที่พำนักของท่านโหวและมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง

หลังจากที่นั่งและนอนทำใจอยู่หลายชั่วนาที อลิษาจึงตัดสินใจที่จะสวมรอยเป็นไป๋ลู่และใช้ชีวิตที่นี่ไปก่อน หากในวันหน้าสามารถหาหนทางไปได้ ค่อยว่ากันอีกที

สักวันเธออาจจะได้กลับไปยังโลกเดิมที่จากมาก็เป็นได้...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel