บทที่3 สังหารดอกบัวขาว
รถม้าขับออกมานอกเมืองได้ไม่นาน หลินฮวาก็รู้สึกถึงไอสังหาร นางกำชับกริชในมือแน่นหลินฮวาบังคับรถม้าให้มาจอดใต้ต้นไม้ใหญ่
หลินฮวามองไปข้างในรถม้าเห็นจางซูเม่ยหลับอยู่ นางจึงกระโดดลงจากรถม้า เดินออกห่างจากรถม้านิดหน่อยนางพูดขึ้นว่า
“ออกมาเถิด ”
นักฆ่าสองคนออกมาจากที่ซ่อนส่งเสียงหัวเราะ
“ ถูกพบเสียแล้วฮ่าฮ่าฮ่า “
นักฆ่าหนึ่ง “เห็นแก่ที่เจ้ายังสาว พวกข้าจะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเจ้าสักวันสองวันก่อนส่งเจ้าไปนรก ”
นักฆ่าสอง”ฮ่าฮ่าฮ่า ”
“ ฉับ ! ” “ อ๊าก!” เลือดจากลำคอของนักฆ่าคนที่หนึ่งกระเด็นถูกหน้าของนักฆ่าอีกคน “ ฉับ ! ” เลือดพุ่งออกจากลำคอนักฆ่าคนที่สองโดยที่ดวงตาเขาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ
หลินฮวาลากศพของทั้งสองคนไปไว้ในพงหญ้าข้างทาง นางล้างมือแล้วขับรถม้าไปโรงเตี้ยมนอกเมืองที่ใกล้ที่สุดเมื่อถึงโรงเตี้ยมนางปลุกจางซูเม่ย
นางเปิดห้องพักในโรงเตี้ยม 1ห้องสั่งอาหารมากินกับจางซูเม่ย
จางซูเม่ย“ ทำไมถึงค้างที่นี่เราพึ่งออกนอกเมืองมาไม่นานนี่ ”
หลินฮวา “ ข้าลืมซื้อของสำคัญน่ะพรุ่งนี้เช้าเราค่อยออกเดินทาง “
จางซูเม่ย“ เจ้าดูเปลี่ยนไป ”
หลินฮวามองเข้าไปในดวงตาของจางซูเม่ยแล้วพูดว่า
“ ไม่ดีหรือ “
จางซูเม่ยก้มหน้าลงกล่าวเสียงเบา
“ ดีมากเลย “
หลินฮวายิ้มแล้วลูบผมนาง จางซูเม่ยตกใจในความใกล้ชิดที่หลินฮวามอบให้ นางคิดจะนำศรีษะหลบออกจากมือของหลินฮวา
แต่แล้วเมื่อนางมองตาของหลินฮวาพบแววตาอ่อนโยนที่มองนาง จางซูเม่ยจึงอยู่นิ่งๆปล่อยให้หลินฮวาลูบศรีษะนางเบาๆ
หลินฮวาคิดในใจถ้านางไม่ทะลุมิติมาชีวิตบัดซบของจางซูเม่ยจะเป็นยังไง ป่านนี้คงตายทั้งแม่และลูกไปแล้ว
จางซูเม่ยอายุเพียงสิบเจ็ดปีถ้าเป็นศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดเด็กคนนี้ยังเรียนอยู่มัธยมปลายด้วยซ้ำ เด็กคนนี้ไม่เหมือนนางที่เป็นเด็กกำพร้าถูกรับเลี้ยงโดยองค์กรนักฆ่าตั้งแต่อายุสองขวบ
นางฆ่าคนตั้งแต่อายุแปดปีแต่จางซูเม่ยถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีดังไข่ในหิน เมื่อมาเจอมรสุมชีวิตไม่แปลกเลยที่จะทำอะไรไม่ถูก
หลินฮวา ”อีกสักพักเสี่ยวเอ้อร์จะยกน้ำร้อนมาให้เจ้าอาบน้ำแล้วพักผ่อนซะ ถ้าไม่ใช่ข้าห้ามเปิดประตูเด็ดขาด“
จางซูเม่ยรู้สึกกลัวจึงจับมือหลินฮวาแน่น
”เจ้าจะไม่ทิ้งข้าใช่ไหม”
หลินฮวา“อืมข้าจะไปหาซื้อเสบียงมาเพิ่มน่ะไปไม่นานเดี๋ยวก็กลับ”
จางซูเม่ย ”อืม“
ยามเซิน(15.00-17.00)
หลินฮวาซื้อเสื้อผ้าบรุษแล้วปลอมตัวเป็นบรุษย้อนกลับเข้าไปในเมือง ลอบเข้าจวนแม่ทัพนางมุ่งตรงไปยังเรือนของฉู่ลู่อิน ถ้าทบทวนจากความทรงจำของเจ้าของร่างเวลานี้แม่ทัพลู่ยังอยู่ในห้องหนังสือ ประมาณยามซวี(19.00-21.00น)แม่ทัพลู่ถึงจะมาเรือนของฉู่ลี่อิน
หลินฮวามีเวลาไม่มากก่อนที่ประตูเมืองจะปิด นางต้องสังหารแม่ดอกบัวขาว(ผู้หญิงที่ภายนอกใสซื่อแต่ภายในคิดไม่ซื่อ)ให้สำเร็จ
หลินฮวาฟาดท้ายทอยสาวใช้ที่เฝ้าหน้าห้องของฉู่ลี่อินจนสลบแล้วลากไปไว้ตรงมุมลับตาคน
ฉู่ลี่อินกำลังชื่นชมเครื่องประดับที่แม่ทัพลู่นำมามอบให้นาง ตอนนี้นางได้ขึ้นเป็นฮูหยินเอกจวนแม่ทัพได้ทำหน้าที่ดูแลจวนแม่ทัพ
ฉู่ลี่อินยกยิ้มมุมปากโชคดียิ่งนักที่จางซูเม่ยโง่เขลาถึงได้ถูกกำจัดได้ง่ายดายป่านนี้จางซูเม่ยและหลินฮวาคงตายไปแล้ว
ฉู่ลู่อินพูดขึ้นว่า
“ จางซูเม่ย,หลินฮวาอย่าโทษที่ข้าโหดร้ายเลยโลกใบนี้คนที่แข็งแกร่งเท่านั้นจะเป็นผู้ที่อยู่รอด ”
หลินฮวา “ เจ้าพูดถูกแล้วคนที่แข็งแกร่งเท่านั้นจะเป็นผู้ที่อยู่รอด “
ฉู่ลี่อิน ”เจ้าเข้ามาได้ไง ใครก็ได้เข้ามาทีมีมีคนร้าย “
หมับ หลินฮวาเข้าประชิดตัวฉู่ลี่อินจับแขนทั้งสองข้างมัดไว้ด้านหลังด้วยสายคาดเอวของฉู่ลี่อิน ทุกกอย่างเกิดขึ้นไวมากเพียงแค่สามลมหายใจ
หลินฮวาใช้ผ้าอุดปากฉู่ลี่อิน
หลินฮวา”ชู่ว์! ฉู่ลี่อินข้าปล่อยเจ้าไปแล้วนะแต่เจ้ายังรนหาที่ตาย ส่งคนไปลอบสังหารข้า
ฉู่ลี่อินส่ายหน้าน้ำตาไหลลงอาบแก้มเพราะความกลัว
กึก หลินฮวาหักคอฉู่ลี่อินแล้วกวาดเอาตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงเงินที่วางอยู่ในกล่องเครื่องประดับใส่อกเสื้อ
นางไม่กล้าหยิบเครื่องประดับไปขายนางกลัวแม่ทัพลู่แกะรอยจนเจอ แล้วรู้ว่านางเป็นผู้สังหารสตรีในดวงใจของเขา นั่นมันจะนำปัญหามาให้นางและจางซูเม่ย
หลินฮวาเร้นกายออกจากจวนแม่ทัพแล้วเร่งรีบเดินทางไปที่ประตูเมืองโชคดีที่ประตูเมืองยังไม่ปิด เมื่อเดินพ้นจากประตูเมืองได้ไม่นาน
หลินฮวาเดินไปที่พงหญ้าที่นางซ่อนชุดของนางไว้หลินฮวาจุดไฟเผาชุดบรุษ นางมาถึงโรงเตี้ยมในยามซวีนางเคาะประตูแล้วส่งเสียงเรียกจางซูเม่ยเบาๆ
แก๊ก จางซูเม่ยรีบเปิดประตู “ เจ้ากลับมาแล้ว ”
หลินฮวา”อืม”
จางซูเม่ย”ข้านึกว่าเจ้าจะทิ้งข้าไปเสียแล้ว“
หลินฮวา ”คนโง่รีบไปนอนได้แล้วพรุ่งนี้ยามอิ๋น(03.00-05.00น)เราจะออกเดินทาง”
จางซูเม่ยยิ้มแล้วพยักหน้า นางรู้สึกว่าหลินฮวาเป็นเช่นนี้มันดีมากเลย ถึงจะดูเย็นชาพูดจาห้วนๆแต่หลินฮวาดีกับนางมากเลยสายตาที่มองนางมีแต่ความอ่อนโยน
แต่เมื่อคิดถึงสายตาของแม่ทัพลู่ตงหยางที่มองนางด้วยความรังเกียจ จางซูเม่ยกลืนก้อนสะอื้นในลำคอลงไปนางเช็ดน้ำตา นำมือลูบที่ท้องเบาๆนางพูดเสียงเบา
”ลูกแม่ต่อไปนี้แม่จะดูแลเจ้าให้ดีที่สุด“
หลินฮวาที่กำลังอาบน้ำอยู่ถึงแม้จางซูเม่ยจะพูดเสียงเบาแต่หลินฮวาก็สามารถได้ยินสิ่งที่จางซูเม่ยพูดกับเด็กในท้อง หลินฮวายกยิ้มแล้วพูดขึ้นเสียงดัง
”นอนได้แล้ว”
จางซูเม่ยรีบล้มตัวลงนอนเมื่อหัวถึงหมอนนางผลอยหลับไปทันที หลินฮวาอาบน้ำเสร็จดึงผ้าห่มมาห่มให้จางซูเหม่ยแล้วจึงดับตะเกียง
นางนอนลงข้างๆจางซูเม่ยแล้วหลับตาลงโดยไม่รู้เลยว่าตนเองทำให้จวนแม่ทัพวุ่นวายแค่ไหน
ณ. จวนแม่ทัพเมื่อแม่ทัพลู่มาเรือนของสตรีผู้เป็นที่รัก เขาเห็นสตรีในดวงใจกระดูกคอแหลกละเอียดดวงตาเบิกกว้าง แม่ทัพลู่กรีดร้องดังลั่นเมื่อสูญเสียยอดดวงใจ
” อ๊าก อินเอ๋อร์ฟื้นขึ้นมาคุยกับข้า อินเอ๋อร์ฟื้นสิ ”
ทหารและบ่าวรับใช้จวนแม่ทัพต่างก้มหน้านิ่งไม่กล้ารบกวนผู้เป็นเจ้านาย เมื่อสงบสติอารมณ์ได้แม่ทัพลู่จึงสั่งทหารไล่ล่าคนร้าย
ทหาร”ประตูเมืองปิดแล้วคนร้ายน่าจะยังอยู่ในเมืองขอรับ“
แม่ทัพลู่”จางซูเม่ย,หลินฮวายังอยู่ในเมืองไหม”
ทหาร ” ทหารเฝ้าประตูเมืองรายงานว่าพวกนางเดินทางออกนอกเมืองตั้งแต่ปลายยามซื่อ(09.00-11.00น)แล้วขอรับ“
แม่ทัพลู่ตงหยางคิดว่าสตรีสองนางที่ไม่มีแม้แรงจะฆ่าไก่ เป็นไปไม่ได้ที่จะลอบเข้าจวนแม่ทัพที่มีทหารคุ้มกันแน่นหนา
และสตรีสองนางก็ไม่มีเงินพอที่จะจ้างนักฆ่าเพราะค่าจ้างนักฆ่านั้นแพงมาก แม่ทัพลู่จึงไม่คิดว่าอดีตภรรยาและอดีตอนุของเขาเป็นคนร้าย
แม่ทัพลู่ “หาคนร้ายให้เจอใครมีพิรุธจับมาสอบสวนให้หมด“
ทหาร “ขอรับ”