บทที่2 หย่า
รุ่งเช้าจางซูเม่ยถูกนำตัวมาที่โถงรับแขก ในห้องโถงมีพ่อแม่สามีของจางซูเม่ย ลู่ซีซวนน้องชายของลู่ตงหยาง ฮูหยินรองฉู่ลี่อิน,แม่ทัพลู่ตงหยาง,และอนุหลิน
จางซูเม่ยถูกสาวใช้ร่างใหญ่กดให้นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น โดยมีสายตาดูถูกเหยียดหยามของพ่อแม่สามีมองมายังร่างของจางซูเม่ย
ฮูหยินผู้เฒ่าลู่“ ลูกกบฏยังไงก็เลี้ยงไม่เชื่อง ข้าบอกให้เจ้าหย่ากับนางตั้งแต่ตอนเกิดเรื่องที่บ้านนาง เจ้าก็ไม่ฟังทีนี้เป็นไงล่ะนางถึงกับสวมหมวกเขียวให้เจ้า “
จางซูเม่ย”ท่านแม่ข้าไม่ได้ทำ ข้าไม่รู้ว่าข้าไปอยู่ที่นั่นได้ยังไงท่านแม่ต้องเชื่อข้านะเจ้าคะ ฮือๆ“
ฮูหยินผู้เฒ่าลู่ ”เจ้าไม่ต้องมาแก้ตัวหลักฐานชัดเจน เจ้าใหญ่เขียนหนังสือหย่าให้นางเดี๋ยวนี้”
จางซูเม่ยคลานไปหาแม่ทัพลู่แล้วกอดขาเขา
”ฮือๆท่านพี่ข้าไม่หย่านะเจ้าคะข้าไม่ได้ทำ“
แม่ทัพลู่ให้บ่าวมาดึงจางซูเม่ยออกไปด้วยความรังเกียจ ในห้องโถงมีเสียงด่าของฮูหยินผู้เฒ่าลู่ เสียงร้องไห้ของจางซูเม่ย เสียงสั่งบ่าวไพร่ให้มาดึงจางซูเม่ยให้ออกจากการกอดขาตนเองของแม่ทัพลู่ ผู้เฒ่าลู่จึงตวาดขึ้นเสียงดัง
ผู้เฒ่าลู่ ”จางซูเม่ยเจ้ารับหนังสือหย่าแล้วไปซะเถิดเพราะข้าไม่อยากทำบาปจึงไม่สั่งโบยเจ้าจนตาย แต่ถ้าเจ้ายังดื้อดึงข้าจะสั่งโบยเจ้าให้ตายไปพร้อมลูกในท้องของเจ้า “
แม่ทัพลู่ตงหยางได้ยินบิดาพูดถึงลูกชู้จึงรู้สึกโกธรแค้นมือใหญ่บีบลำคอระหงของจางซูเม่ยแน่น
แม่ทัพลู่ ”ตายซะเถิดนางแพศยา”
หลินฮวาเห็นดังนั้นจึงรีบไปช่วยคลายมือแม่ทัพลู่ออกจากลำคอของจางซูเม่ย เพราะอารมณ์โมโหแม่ทัพลู่จึงลืมคิดไปว่าหลินฮวาคลายมือตนออกจากลำคอของจางซูเม่ยได้ยังไร
เขาจะเข้าไปทำร้ายจางซูเม่ยอีก ลู่ซีซวนจึงขวางทางเขาไว้แล้วหันมาพูดกับจางซูเม่ย
”พี่สะใภ้ท่านหลบไปก่อน“
พูดยังไม่ทันจบฮูหยินผู้เฒ่าลู่ก็ตวาดลั่น
”ใครเป็นพี่สะใภ้เจ้าลูกกบฏคบชู้จนตั้งครรภ์ไม่สมควรเป็นสะใภ้ตระกูลลู่”
แม่ทัพลู่ยิ่งโกธรแค้นกว่าเดิมเมื่อโดนตอกย้ำว่าถูกสวมหมวกเขียว ฉู่ลี่อินแสยะยิ้มมุมปาก นางลูบหลังแม่ทัพลู่เบาๆ
ฉู่ลี่อิน “ท่านพี่ใจเย็นๆนะเจ้าคะ“
แม่ทัพหนุ่มวัยยี่สิบห้าปีมองนางด้วยสายตาอ่อนโยน ปีนี้ฉู่ลี่อินอายุสิบแปดปีความงดงามอ่อนหวานของนางกำลังเปร่งประกายเต็มที่ เมื่อได้สาวงามปลอบโยน แม่ทัพหนุ่มจึงสงบลงได้
ฉู่ลี่อิน “ เด็กๆไปเอากระดาษกับหมึกมาให้ท่านแม่ทัพ ”
พ่อบ้านรีบไปนำกระดาษกับหมึกมาให้ แม่ทัพลู่เขียนหนังสือหย่า แม่ทัพลู่เขียนเสร็จจึงโยนหนังสือหย่าให้จางซูเม่ย
“ ไปซะอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีกมิฉะนั้นข้าจะฆ่าเจ้า ”
จางซูเม่ยเก็บหนังสือหย่าไว้ในแขนเสื้อ หลินฮวาพยุงนางลุกขึ้นแล้วจึงหันไปพูดกับแม่ทัพลู่
หลินฮวา “ ข้าก็จะไปกับคุณหนูด้วย “
แม่ทัพลู่ ” เจ้าไปไม่ได้ “
ฉู่ลี่อินได้ยินแม่ทัพรั้งหลินฮวาไว้จึงเม้มปากแน่น
หลินฮวา” คุณหนูมีสัญญาขายตัวของข้ารึท่านจะปล้นชิง ? “
โชคยังดีที่เจ้าของร่างไม่ได้บอกใครว่าจางซูเม่ยคืนสัญญาขายตัวให้นางแล้ว ไม่งั้นนางคงต้องหนีออกไป
แม่ทัพลู่ ” เจ้า “
หลินฮวาปลายตามองทุกคนในห้องโถงแล้วจึงพูดว่า
” ต่อไปนี้ข้าหลินฮวาไม่ใช่อนุของแม่ทัพลู่ตงหยางอีกต่อไป “
แม่ทัพลู่ตะโกนขึ้นด้วยความโมโห “ ดีข้าก็ไม่ต้องการให้สาวใช้ต้อยต่ำอย่างเจ้ามาเป็นอนุ เจ้าจะไปไหนก็ไปอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก “
หลินฮวาแสยะยิ้มตอบว่า
“ ข้าขอเวลาสองเค่อพาคุณหนูไปเก็บสินเดิมก่อนแล้วจะไปทันทีเจ้าค่ะ ”
ฮูหยินผู้เฒ่าลู่“ สินเดิมแค่หยิบมือเดียวข้าให้เวลาหนึ่งเค่อ ”
หลินฮวาพยักหน้าตกลง เพราะจางซูเม่ยนำสินเดิมทั้งหมดไปติดสินบนและสืบข่าวของบ้านเดิมจนหมด แต่ก็ไม่มีใครช่วยได้ทั้งๆที่บิดานางถูกใส่ร้าย แต่จนใจที่หลักฐานแน่นหนาจนยากจะพ้นผิด ฝ่ายตรงข้ามวางแผนมาดีบิดานางจึงตกหลุมพราง
ตอนนี้สินเดิมมีเพียงหีบเดียว ในหีบเหลือผ้าไหมอยู่สามพับแค่นั้น จางซูเม่ยยังมีเงินอยู่ยี่สิบตำลึงเงินกับปิ่นปักผมเงินหนึ่งอัน นางนั่งเหม่อลอยมองหลินฮวาเก็บของให้
ลู่ซีซวนรู้สึกสงสารจึงเรียกรถม้าให้พวกนาง เขารู้ว่าจางซูเม่ยยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เมื่อวาน จึงแอบเอาซาลาเปาหมูสับในครัวมาให้ เขายื่นตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึงเงินให้จางซูเม่ยแต่นางไม่รับตั๋วเงิน
จางซูเม่ย“ ขอบคุณท่านมากน้ำใจของท่านในครั้งนี้ข้าจะจดจำไว้ ”
หลินฮวาบอกให้คนขับรถม้าขับไปในตลาดระหว่างทางนางบอกให้จางซูเม่ยกินซาลาเปา
หลินฮวา“ เจ้ากินเถิดไม่ห่วงตนเองก็ห่วงเจ้าก้อนแป้งในท้องบ้าง “
จางซูเม่ยพยายามกลั้นน้ำตา นางเป็นแม่คนแล้วนางต้องเข้มแข็งนางถามหลินฮวาในสิ่งที่นางสงสัย
จางซูเม่ย“ ทำไมถึงยอมมากับข้า ”
หลินฮวา“ เพราะเจ้าโง่ดี ”
จางซูเม่ย“…”
หลินฮวาให้คนขับรถม้าพามาที่โรงรับจำนำนางนำเครื่องประดับที่แม่ทัพลู่เคยให้นางและเสื้อผ้าเนื้อดีของตนเองและของจางซูเม่ยทั้งหมดมาขายได้เงินมาอีกสองร้อยตำลึงเงิน
จากนั้นจึงให้คนขับรถม้าพาไปตลาดซื้อขายสัตว์ ถึงตลาดตอนจะจ่ายเงินค่ารถคนขับบอกว่าลู่ซีซวนจ่ายให้แล้ว หลินฮวาเก็บความมีน้ำใจของลู่ซีซวนในครั้งนี้ไว้ในใจ มีโอกาสนางต้องตอบแทนเขาแน่
หลินฮวาซื้อตู้โดยสารและม้าในราคาเก้าสิบตำลึงเงินจากนั้นจึงขับรถม้าไปตลาดโดยให้จางซูเม่ยนั่งรอในรถม้า
หลินฮวาไปซื้อหม้อจานชามช้อนตะเกียบมีดทำครัวข้าวสาร,เกลือ,น้ำตาล,ผ้าห่มและที่นอนสองชุด ซื้อเสื้อผ้าเนื้อหยาบสี่ชุด
นางซื้อธนูและกริช รวมถึงแผนที่แคว้นฉินและหนังสือเกี่ยวกับแคว้นฉินมาด้วยเมื่อทุกอย่างครบแล้ว นางนำที่นอนสองผืนที่ซื้อมาปูในรถม้าให้จางซูเม่ยนั่ง จากนั้นนางจึงขับรถม้าออกนอกเมือง