บทที่ 4 เว่ยอ้ายเหม่ยถูกทำร้าย 2/2
นางหวังหลินได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกกลัวขึ้นมา ด้วยความที่รู้จักนิสัยของหลานชายดีว่าเป็นคนพูดจริงทำจริงแค่ไหน หากว่าเขาไปเรียกหัวหน้าหมู่บ้านมาตัวเองก็คงจะแย่แน่ ๆ จึงได้รีบตอบกลับไปเพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่
“เดี๋ยวไปถึงบ้านแล้วจะให้คนเอาค่ายามาให้ ไม่เห็นจะเป็นอะไรมากเลยก็แค่ล้มเท่านั้น ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้”
พูดจบนางหวังหลินกับลูกสาวก็รีบก้าวเท้ายาว ๆ กลับบ้านตัวเองไปทันที
หลังจากที่จบเรื่องแล้ว เว่ยตงและพ่อกับแม่จึงประคองเว่ยอ้ายเหม่ยมาที่เตียงก่อนที่จะหาผ้ามาห้ามเลือดที่ศีรษะของเธอไว้ ส่วนเว่ยตงนั้นเมื่อยืนดูอาการของน้องสาวในใจพลันคิดว่าน้องไม่น่าจะไหวแล้ว จึงตัดสินใจให้เว่ยอู๋ซินไปตามหมอมา
“น้องรองไปตามหมอเหลียงมาหน่อยสิ พี่คิดว่าเลือดของน้องเล็กไหลออกมามากเกินไปแล้ว”
“ได้ครับพี่ใหญ่ ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” เว่ยอู๋ซินรับคำทันที จากนั้นจึงวิ่งออกจากบ้านไปด้วยความรวดเร็ว
เพราะหมอเหลียงเป็นแพทย์แผนจีนที่อยู่หมู่บ้านข้าง ๆ และเขาเปิดร้านขายยาจีนอยู่ในเมือง ตอนนี้ฟ้าก็มืดแล้ว เขาน่าจะมาถึงบ้านได้สักพัก เว่ยอู๋ซินวิ่งไปก็คงใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที และกว่าจะพาหมอเหลียงมาถึงบ้านรองเว่ยก็น่าจะหนึ่งชั่วโมงพอดี ระหว่างนี้คนที่อยู่บ้านก็ช่วยกันห้ามเลือดให้เว่ยอ้ายเหม่ยไปก่อน
เมื่อพี่สะใภ้ทั้งสองกลับมาจากพาลูกไปหาหมอ แล้วเห็นน้องสามีนอนอยู่ในสภาพเลือดเต็มตัวพลันตกใจ แล้วก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เว่ยตงจึงได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง จางอิงและฟางเสี่ยวหรงต่างก็รู้สึกผิดที่ไม่ได้อยู่กับน้องในวันที่ป้าสะใภ้มาหาเรื่องอย่างนี้
แม้ว่าตอนนี้เลือดที่ศีรษะของเว่ยอ้ายเหม่ยจะหยุดไหลแล้ว แต่แทนที่จะดีขึ้นเด็กสาวกลับรู้สึกตาพร่าขึ้นมาฉับพลัน และเมื่อพยายามที่จะพูดก็พูดไม่ได้ ได้แต่อ้าปากและมีเสียงอืออาออกมาเท่านั้น จากนั้นไม่กี่นาทีตาที่พร่ามัวก็ปิดลง กลายเป็นว่าเวลานี้เว่ยอ้ายเหม่ยหมดสติไปแล้ว
“อ้ายเหม่ย ๆ อย่าหลับนะอ้ายเหม่ย” เสียงของเว่ยเฉียนร้องเรียกลูกสาวติด ๆ กันด้วยความตกใจ ส่วนหลี่ฟางเจียวนั้นก็เขย่าตัวลูกเพื่อเรียกสติให้ฟื้นเหมือนกัน “พี่อู๋ซินไปตามหมอถึงไหนกันเนี่ย ทำไมถึงได้มาช้าจัง” ฟางเสี่ยวหรงพูดอย่างร้อนใจ
ทว่าเธอพูดยังไม่ทันขาดคำ เว่ยอู๋ซินก็พาหมอเหลียงมาถึงพอดี หมอเหลียงรีบเข้ามาดูอาการของเว่ยอ้ายเหม่ย เขาจับชีพจรดูก็พบว่า ชีพจรของเด็กสาวนั้นเต้นอ่อนมาก แต่เขาก็มั่นใจว่าเด็กสาวคนนี้ยังไม่ตาย
“เป็นยังไงบ้างครับหมอเหลียง” เว่ยตงถาม แม้ว่าภายนอกดูเหมือนชายหนุ่มจะสงบนิ่ง ทว่าในใจนั้นกลับร้อนยิ่งกว่าไฟ
“น่าจะเป็นเพราะเสียเลือดมากจนเกินไปเลยทำให้หมดสติ อีกทั้งชีพจรยังเต้นอ่อนอีกด้วย แต่เดี๋ยวหมอจะจัดยาให้ทั้งยากิน ทั้งก็ยาใส่แผล ดูจากอาการแล้วก็หนักอยู่ ยังไงคืนนี้ก็ดูแลกันให้ดีก็แล้วกัน หมอเองก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าเด็กสาวคนนี้จะฟื้นขึ้นมาตอนไหน” หมอเหลียงตอบกลับตามความเป็นจริง หากพ้นคืนนี้ได้ ก็ถือว่ารอดแล้ว
“แต่จะฟื้นแน่นอนใช่ไหมครับ” เว่ยอู๋ซินถามย้ำอีกครั้ง เขาต้องการมั่นใจว่าน้องสาวจะฟื้นขึ้นมา
ทว่าหมอเหลียงกลับถอนหายใจหนึ่งทีก่อนจะตอบว่า “อันนี้ก็แล้วแต่บุญวาสนาของอ้ายเหม่ยแล้ว หากผ่านคืนนี้ไปได้ทุกอย่างก็จะดีขึ้น นั่นหมายความว่าเธอจะปลอดภัย ตอนนี้หมอคงต้องขอตัวก่อน” จากนั้นเขาจึงเดินออกมาจากห้องโดยมีเว่ยตงเดินไปส่ง