บทที่ 2 คนรักของโหวอ๋อง
ขณะที่กำลังยืนครุ่นคิดด้วยความสงสัยอยู่นั้นพลันประตูก็เปิดออก ปรากฏร่างบางของดรุณีน้อยสองคนเดินเข้ามา พวกนางมีใบหน้าคล้ายกันราวกับฝาแฝด ทว่าคนหนึ่งกลับมีรูปร่างสมบูรณ์กว่าอีกคน
"พระชายาเป็นอย่างไรบ้างเพคะ เจ็บตรงไหนหรือไม่" หญิงสาวรูปร่างผอมบางกว่าปรี่เข้ามาหาเจียวเจียงเจียงทั้งน้ำตา ส่วนอีกคนก็รีบคว้าเสื้อคลุมมาห่มปิดร่างกายเปลือยเปล่าของนางเอาไว้
"พวกเธอ เอ๊ย พวกเจ้าเป็นใครกัน" เจียวเจียงเจียงมองคนทั้งสองด้วยความงุนงง
ชิงชิงกับชิวชิวหันมาสบตากันด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่ชิงชิงจะร้องไห้ปล่อยโฮออกมาเสียงดัง
"ทำอย่างไรดีพี่ชิวชิว พระชายาโดนจวิ้นอ๋องทำร้ายจนสติฟั่นเฟือนไปเสียแล้ว"
แต่ชิวชิวมีสติกว่า แม้จะตกใจอยู่บ้าง
"พระชายาตั้งสติให้ดีนะเพคะ พวกหม่อมฉันคือชิงชิงกับชิวชิว นางกำนัลข้างกายของพระองค์ไงล่ะเพคะ"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียวเจียงเจียงจึงขานรับดังอ้อ ดูจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่านางคงทะลุมิติมาอยู่ในยุคโบราณเสียแล้ว นางได้ยินว่าคนทั้งคู่เรียกชายผู้นั้นว่าจวิ้นอ๋องและเรียกตัวนางว่าพระชายา ก็พลันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก อย่างน้อยก็ย้อนมาอยู่ในร่างของสตรีที่มีฐานะสูงส่ง ไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเท่าใดนัก
เจียวเจียงเจียงคิดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องใจ ก่อนจะหันไปสบตากับนางกำนัลทั้งสองคน ดวงตาของพวกนางใสซื่อบริสุทธิ์ บ่งบอกถึงความภักดีอย่างไม่ปิดบัง
"เมื่อครู่ข้าโดนสามีเคี่ยวกรำอย่างหนักจนทำให้ความทรงจำบางอย่างขาดหายไปชั่วขณะ ชิวชิว ชิงชิงพวกเจ้าบอกข้าได้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร ที่นี่คือที่ใด และเกิดอะไรขึ้นกับข้า"
คำถามของผู้เป็นนายทำให้คนใจแข็งอย่างชิวชิวถึงกับน้ำตารื้น นางรู้สึกสงสารคุณหนูของนางเป็นยิ่งนัก
เจียวเจียงเจียงนั่งฟังอย่างสงบ หลังจากรับรู้เรื่องราวของเจ้าของร่างจากปากของชิงชิงกับชิวชิว เจ้าของร่างนี้เป็นบุตรสาวของเสนาบดีกรมขุนนางที่เกิดจากอนุหลี่ มีพี่สาวต่างมารดาคนหนึ่งนามว่า เจียวจื่ออิง
เดิมที่โหวหงชางหรือจวิ้นอ๋องรักอยู่กับพี่สาวของนาง แต่ด้วยความรักบังตาทำให้นางแอบวางยาปลุกกำหนัดจวิ้นอ๋อง จนได้เสียกัน เขาต้องจำใจแต่งงานกับนาง เดิมทีนางต้องอยู่ในฐานะชายารอง เพราะโหวหงชางตั้งใจจะแต่งให้เจียวจื่ออิงเป็นชายาเอก แต่เพราะในอดีตตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ อนุหลี่มารดาของนางเคยเป็นนางกำนัลคนสนิทของฮองไทเฮามาก่อน ด้วยพระเมตตาจากฮองไทเฮาจึงทำให้นางได้แต่งเข้ามาอยู่ในฐานะชายาเอกของโหวอ๋อง
ส่วนรอยแผลที่ปรากฏอยู่บนข้อมือบางเกิดจากการที่เจ้าของร่างทำร้ายตนเอง เพราะเสียใจที่จวิ้นอ๋องไม่รักใคร่
ความจริงเรื่องนี้ทำให้เจียวเจียงเจียงรู้สึกขัดใจอยู่มาก เพียงเพราะผู้ชายไม่รักต้องทำร้ายตนเองถึงเพียงนี้เลยหรือ ขนาดตนยังไม่รักตัวเอง จะหวังให้ผู้ใดมารักกัน!
รูปโฉมของร่างนี้งดงามราวกับเทพเซียนบนวิมานชั้นฟ้า ไม่ว่าใครเห็นล้วนหลงรักได้ไม่ยาก จะไปสนใจบุรุษเพียงผู้เดียวคนที่ไม่รักตนไปทำไมกัน
หากชีวิตนี้เป็นดั่งนิยายเรื่องหนึ่ง เจียวจื่ออิงคงอยู่ในบทของนางเอก โหวอ๋องคือพระเอก ส่วนนางก็แค่ตัวประกอบคนหนึ่งที่พระเอกไม่รัก
แต่ไม่เป็นไร อดีตก็คืออดีต ในเมื่อนางได้รับโอกาสให้มีชีวิตเป็นหนที่สอง นางจะขอเปลี่ยนแปลงชะตาของหญิงสาวผู้อาภัพนี้เอง
เจียวเจียงเจียงคิดในใจ
"พระชายาเพคะ ดื่มนี่เถิดเพคะ"
"นี่คืออะไรหรือ" เจียวเจียงเจียงมองน้ำสีน้ำตาลเข้มที่อยู่ในถ้วยในมือของชิงชิงด้วยความแปลกใจ
"ยาห้ามครรภ์เพคะ จวิ้นอ๋องรับสั่งเอาไว้ว่าให้พระชายาดื่มทุกครั้งหลังจาก... "
"อ้อ งั้นหรือ" เจียวเจียงเจียงขานรับ ดีเหมือนกันในเมื่ออยู่กับคนที่เขาไม่ได้รักเรา การป้องกันการตั้งครรภ์ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่ง เพราะนางก็ไม่ปรารถนาที่จะมีบุตรกับชายใจดำผู้นั้นเช่นกัน
ชิงชิงกับชิวชิวมองหน้ากันด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเจียวเจียงเจียงยกถ้วยยาขึ้นดื่มอึกๆ จนหมด พวกนางรู้ว่าพระชายาอยากมีบุตรกับจวิ้นอ๋องมาก ยามที่ต้องได้ดื่มยาห้ามครรภ์ นางจะร้องไห้เสียใจทุกครั้งไป แต่ครานี้กลับดื่มยาโดยไม่บ่นอะไรออกมาสักคำ น่าแปลกยิ่งนัก
เจียวเจียงเจียงถือโอกาสออกมาเดินเล่นเที่ยวชมจวนอ๋อง ทุกสิ่งทุกอย่างดูตระการตาเป็นอย่างมาก จวนของจวิ้นอ๋องใหญ่โต เต็มไปด้วยของตกแต่งอย่างหรูหราสมฐานะโอรสของโหวฮ่องเต้ โดยเฉพาะเครื่องลายครามที่ตั้งวางประดับอยู่บนโต๊ะมุมนั้น เจียวเจียงเจียงคิดว่าหากเอาไปขายคงได้เงินมากโข
ขณะที่กำลังสำรวจข้าวของต่างๆ อยู่นั้น นางกำนัลผู้หนึ่งก็เดินเข้ามารายงาน
"พระชายาเพคะ คุณหนูเจียวจื่ออิงมาขอพบเพคะ"
เจียวเจียงเจียงขานรับคำ ทว่าในตอนที่กำลังจะก้าวเดินออกไป ก็ได้ยินเสียงห้ามเอาไว้ก่อน
"อย่าออกไปเลยเพคะพระชายา" ชิงชิงกับชิวชิวลั่นวาจากล่าวห้ามออกมาพร้อมกัน
"ทำไมหรือ" ก็ในเมื่อเจียวจื่ออิงเป็นพี่สาวของนาง เหตุใดจะออกไปพบไม่ได้เล่า
"เชื่อพวกเราเถอะเพคะ" ชิวชิวเอ่ยเสียงแผ่ว
เจียวเจียงเจียงหรี่ตาลงเล็กน้อย รู้สึกได้ถึงความผิดปกติของนางกำนัลคนสนิททั้งสองคน แต่คนอย่างเจียวเจียงเจียงอยากรู้อะไรก็ต้องได้รู้ นางก้าวเดินออกไปจากห้องไม่สนใจเสียงห้ามของชิงชิงกับชิวชิว
"ทำอย่างไรดีล่ะพี่ชิวชิว" ชิงชิงหันไปสบตากับชิวชิวด้วยความกลุ้มใจ พวกนางรู้ดีว่าคนทั้งคู่มีปฏิสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกันเท่าใดนัก ถึงแม้ภายนอกเจียวจื่ออิงจะดีกับนาง แต่ลึกๆ แล้วพี่สาวผู้นี้ก็ไม่ได้รักใคร่หวังดีกับน้องสาวต่างมารดาจากใจจริงๆ
"ไม่รู้ แต่ตอนนี้เรารีบตามพระชายาไปก่อนเถอะ" ชิวชิวตอบ พร้อมเร่งฝีเท้าตามเจียวเจียงเจียงไป
เจียวเจียงเจียงเดินทางมาถึงห้องโถงรับแขก แลเห็นบุรุษและหญิงสาววัยกำดัดอายุใกล้เคียงกับนางกำลังนั่งพูดคุยกัน บ่าวรับใช้ถูกไล่ออกไปจนหมด ทั้งห้องจึงมีเพียงแค่คนสองคนอยู่กันตามลำพัง สตรีผู้นั้นคงจะเป็นเจียวจื่ออิง พี่สาวต่างมารดาของนางสินะ
เจียวเจียงเจียงเห็นโหวหงชางกับเจียวจื่ออิงกำลังนั่งคุยกัน มือหนากอบกุมมือบางแน่นไม่ยอมปล่อย นางจึงค่อยๆ ย่องไปแอบฟังที่หลังบานประตู
"พระชายาเพคะ"
"ชู่ววว" เจียวเจียงเจียงรีบหันไปห้ามชิวชิวกับชิงชิงที่วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา
"เรื่องของเราเป็นไปไม่ได้ จวิ้นอ๋องมีเจียงเจียงเป็นชายาเอกอยู่แล้ว ตัดใจจากหม่อมฉันเถอะเพคะ" เจียวจื่ออิงเอ่ยเสียงเครือ ดวงตาคู่สวยคลอเคล้าไปด้วยหยดน้ำตา ดูน่าทะนุถนอมเป็นอย่างมาก
"ไม่ เจ้าก็รู้ว่าข้าเกลียดนางเข้าไส้ คนที่ข้ารักมีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้น" โหวหงชางเอ่ยวาจาหนักแน่น พลางลอบมองไปยังหลังบานประตู เขารู้ว่ามีใครบางคนกำลังแอบฟังอยู่ ก่อนจะรวบคนร่างบางเข้ามากอดแนบอก
"อิงอิงก็รักจวิ้นอ๋องเพคะ แต่ก็จำต้องตัดใจ"
"เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ เจ้าแต่งเข้ามาเป็นชายารองของข้า อย่างน้อยเราก็ยังได้อยู่ด้วยกัน" ชายหนุ่มเสนอความเห็น นี่คงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้ว
"ไม่เพคะ" เจียวจื่ออิงส่ายศีรษะปฏิเสธเสียงแข็ง จะให้นางเป็นแค่ชายารองงั้นหรือ ไม่มีทางเสียหรอก บุตรสาวที่เกิดจากฮูหยินเอกอย่างนางต้องได้เป็นชายาเอกของโหวหงชางเท่านั้น!
"หากจวิ้นอ๋องรักอิงอิงจริง ก็ทรงลงชื่อหย่ากับเจียงเจียงสิเพคะ"
คิ้วกระบี่เลิกขึ้นเล็กน้อย จ้องมองคนในอ้อมแขนด้วยความแปลกใจ เหมือนเจียวจื่ออิงจะรู้สึกตัว นางรีบกล่าวกับเขาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน พลางกอดกระชับเอวสอบของเขาเอาไว้แน่น
"เพราะอิงอิงรักจวิ้นอ๋องมากเกินกว่าจะเห็นท่านมีภรรยาอื่น อิงอิงอยากเป็นชายาของท่านเพียงคนเดียว"
"ได้ ข้ารับปาก เจ้าอดทนก่อนเถอะนะ ข้าจะรีบสะสางจัดการตัวปัญหาให้เรียบร้อย"
'ตัวปัญหางั้นหรือ เขาคงจะหมายถึงนางสินะ'
เจียวเจียงเจียงเบะปาก ก่อนจะหมุนกายหันหลังทำท่าจะเดินจากไป นางไม่อยากยุ่งเรื่องของคนอื่น โดยเฉพาะสามีใจร้ายคนนั้น เขาจะรักใครก็ปล่อยให้เขารักไป
บุรุษก็โหดเหี้ยมใจร้าย สตรีก็เสแสร้งเจ้ามารยา! เหมาะสมกันอย่างกับผีเน่ากับโลงผุ
ทว่าในตอนที่กำลังจะก้าวเดิน กลับได้ยินเสียงของใครบางคนเรียกเอาไว้ก่อน
"น้องสาว ไม่สิ พระชายา"
เจียวเจียงเจียงหันกลับมาเห็นร่างบางของเจียวจื่ออิงกำลังยืนส่งยิ้มมาให้ ข้างกายของนางมีโหวหงชางยืนอยู่ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาบูดบึ้ง ส่งสายตามืดดำมองมาที่นาง
"พี่สาวมีเรื่องใดกับข้าหรือ" นางแสร้งถามกลับเสียงหวาน ในเมื่อเจียวจื่ออิงเล่นละครใส่นาง นางก็จะเล่นละครกลับคืนเช่นกัน นักฆ่าอย่างนางย่อมดูออกว่าใครมาดีมาร้าย
"ท่านพ่อเพิ่งกลับจากงานราชการต่างเมือง จึงฝากให้ข้านำของฝากมาให้พระชายาเพคะ" ขณะที่พูด นางก็เปิดกล่องหีบออก พร้อมหยิบสร้อยมุกออกมา
เจียวเจียงเจียงตาโต นางเดาว่าของดีเช่นนั้น มูลค่าของมันคงไม่น้อยเลยทีเดียว ทว่าในตอนที่เจียวจื่ออิงกำลังถือสร้อยมุกเดินเข้ามาหา นางก็แกล้งทำทีเป็นสะดุด จงใจปาสร้อยมุกในมือไปข้างหน้า หวังจะทำลายของด้วยความริษยา
แม้นางจะเป็นถึงบุตรสาวของฮูหยินเอก แต่นางกลับคิดว่า เจียวหวินฮ่าวผู้เป็นบิดารักใคร่เจียวเจียงเจียงมากกว่าตน สตรีผู้นั้นเป็นเพียงบุตรสาวที่เกิดจากอนุแท้ๆ เหตุใดถึงได้รับความรักจากท่านพ่อมากกว่านาง!