บทที่ 1
จือหลินลุกขึ้นเพื่อเดินกลับไปที่บ้านของเจ้าของร่างตามความทรงจำเดิม เพราะตัวนางในยามนี้เป็นเพียงเด็กน้อยวัยสิบขวบเท่านั้น
และที่ที่อยู่ก็ไม่รู้ว่าคือที่ไหน ต้องทำอย่างไร จึงได้เลือกที่จะกลับไปที่บ้านของฟู่จือหลินเสียก่อน
ใช่แล้ว เด็กน้อยที่วิญญาณของจือหลินนางมาอยู่ร่างคือ ฟู่จือหลิน ที่มีชื่อเดียวกับเธอ เด็กน้อยจบชีวิตลงเพราะถูกคนผลักลงมาจากเขา ทำให้หัวไปกระแทกก้อนหินจนจบชีวิต
ในตอนนี้ความเจ็บปวดที่ศีรษะจือหลินเธอยังรู้สึกได้ เสียงตะโกนเรียกชื่อของจือหลินดังไปทั่วป่า ตอนนี้เธอจึงเรียกเดินไปตามเสียงเรียกก็พบชาวบ้านหลายคนกำลังร้องเรียกและวิ่งมาทางเธอ
“โอวโยว หลินเออร์เหตุใดเจ้าถึงเป็นเช่นนี้” เสียงสตรีวัยกลางคนร้องขึ้นอย่างตกใจ เมื่อเห็นว่าจือหลินมีเลือดไหลเปื้อนไปตามเสื้อผ้า
จือหลินมองไปที่กลุ่มคนอย่างมึนงง ทั้งเสื้อผ้าและการพูดไม่ใช่คนยุคเดียวกันกับเธอแน่นอน ตอนที่ยังไม่หายมึนงงก็มีสตรีนางหนึ่งวิ่งเข้ามาสวมกอดแล้วร้องไห้เสียงดัง
จือหลินรู้ได้ทันทีว่านี้คือมารดาของเจ้าของร่างเดิม ฟู่ลี่อิน หญิงหม้ายที่เลี้ยงดูนางมาแต่เพียงผู้เดียว
เจ้าของร่างเดิมไม่รู้แม้กระทั่งว่าบิดาเป็นผู้ใด เพราะมารดาไม่เคยบอก ตากับยายก้เสียไปก่อนหน้าที่ฟู่จือหลินจะเกิดเสียด้วยซ้ำ มารดาของนางจึงเลี้ยงมาด้วยความลำบาก
ก่อนหน้าที่ฟู่จือหลินจะตกเขาได้มีปากเสียงกับ จางอี้เฉิน บุตรสาวของจินฮวาท่านป้าของนาง จางอี้เฉินบอกเรื่องที่มารดาของนางถูกบุรุษแปลกหน้าข่มเหงจนตั้งครรภ์ ทำให้ตระกูลจินที่เป็นของท่านตานางขับไล่มารดาของนางและท่านตาท่านยายออกจากตระกูล
จนต้องเปลี่ยนมาใช้แซ่ฟู่ของท่านยาย จือหลินไม่เชื่อทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกัน ร่างของจือหลินหรือจะสู้แรงของอี้เฉินที่กินดีอยู่ดีได้ นางจึงพลาดท่าตกลงเขาไป อี้เฉินเห็นเช่นนั้นก็หนีไปทันทีและไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับผู้ใด
จือหลินถูกมารดาพาตัวกลับเรือน แล้วท่านหมอก็มาตรวจดูอาการของนาง เมื่อเห็นแผลที่บนหัวก็ส่ายหน้าไม่คิดว่าจือหลินที่เสียเลือดมากจะเดินออกมาจากป่าด้วยตนเองได้
ท่านหมอจ่ายยาให้แล้วกลับออกไป จือหลินมองมารดาในนามของนางตอนนี้อย่างถอดถอนใจ เมื่อเห็นว่าเงินที่มารดานำออกแทบจะหมดจากถุงเงินที่นางถืออยู่แล้ว
“นอนพักก่อนหลินเออร์ เดี๋ยวแม่นำยามาให้เจ้าดื่ม” ลี่อินลูบบุตรสาวอย่างทะนุถนอมก่อนจะเดินออกจากห้องไป
จือหลินขมวดคิ้วแน่น เพราะนางไม่เคยได้รับการสัมผัสเช่นนี้มาก่อน และไม่รู้ว่าต้องทำตัวเช่นไร เพียงไม่นานลี่อินก็กลับมาพร้อมถ้วยยาในมือ
จือหลินรับมาถือไว้แล้วเบ้หน้าอย่างรังเกียจ เพียงดมกลิ่นก็รู้แล้วว่าจะมีรสชาติขมมากเพียงใด นางอดจะนึกถึงยาในโลกก่อนไม่ได้
มิติแม้จะลองทดสอบหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง คงจะไม่ได้ติดตามนางมาด้วยอย่างแน่นอน
“ดื่มเถิด แม้จะขมแต่เจ้าจะหายดี” ลี่อินยิ้มมองบุตรสาวอย่างใจดี
จือหลินเห็นแววตาที่คาดหวังของนางก็ดื่มลงไปทีเดียวจนหมด ลี่อินก็ส่งน้ำให้บุตรสาวกลั้วปากอย่างรู้ใจ
“เหตุใดเจ้าถึงตกเขาได้เล่า” ลี่อินเอ่ยถามบุตรสาวอย่างไม่เข้าใจ เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่จือหลินขึ้นเขาแต่นางขึ้นเขาอยู่เป็นประจำ
เพราะตัวลี่อินไม่อาจจะเดินได้ไกลนักด้วยโรคที่เกิดจากกาคลอดบุตรแล้วไม่ได้ดูแลตัวเองให้ดี
“อี้เฉินผลักข้าตกเขา” ดวงตาของจือหลินเปร่งประกายสังหารออกมาวูบหนึ่ง
ลี่อินตกใจคำพูดของบุตรสาวจึงไม่ทันได้เห็นแววตาของนาง จือหลินจึงเล่าเรื่องที่ทั้งคู่มีปากเสียงก่อนที่นางจะตกเขาให้ลี่อินฟัง
ลี่อินเมื่อได้ยินก็ร้องไห้ออกมาอย่างปวดใจ นางจึงเล่าเรื่องในหนนั้นให้บุตรสาวฟัง
เพราะความเชื่อใจทำให้นางติดตามจินฮวาเพื่อไปซื้อของในเมือง ไม่คิดว่าจินฮวาจะวางยานางแล้วพาไปที่โรงเตี๊ยมเพื่อส่งนางให้บุรุษแปลกหน้า
นางที่ไร้สติก็ไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นจนเมื่อเช้าของอีกวันจึงได้รู้ว่านางเสียความบริสุทธิ์ให้กับชายแปลกหน้าผู้นั้นเสียแล้ว
เมื่อกลับมาถึงหมู่บ้านจินฮวาก็เล่าเรื่องที่นางลอบพบกับบุรุษแปลกหน้าที่ในเมืองให้ทุกคนฟัง จนทำให้ลี่อินถูกตัดออกจากตระกูล
บิดามารดาที่มีลี่อินเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวก็ไม่อาจเห็นนางถูกขับไล่ได้ จึงยอมที่จะออกจากตระกูลพร้อมบุตรสาวแล้วเปลี่ยนมาใช้แซ่ของมารดาแทน
สามคนพ่อแม่ลูกต้องมาอยู่ที่เรือนร้างท้ายหมู่บ้าน เงินเก็บที่มีก็ถูกนำมาซ่อมแซมเรือนเกือบทั้งหมด ต่อมาลี่อินพบว่านางตั้งครรภ์ ชาวบ้านในหมู่บ้านก็พูดนินทากันหนาหูขึ้นเรื่องที่นางไม่รู้แม้กระทั่งว่าพ่อเด็กในท้องเป็นผู้ใด
จือหลินยังไม่ทันได้ลืมตาออกมาดูโลกภายนอก ท่านตาท่านยายของนางก็จบชีวิตลงเสียแล้ว ลี่อินจึงต้องทำงานหนักรวมทั้งขึ้นเขาหาของไปแลกเงินเพียงลำพัง
ร่างกายของนางจึงทรุดโทรมลง แม้แต่ยาดีๆ ก็ไม่กล้าซื้อกินจนเป็นโรคเรื้อรังมาจนทุกวันนี้ จือหลินก็เป็นเด็กที่รู้ความ ตั้งแต่จำความได้ก็ช่วยหยิบจับทำงานเท่าที่ทำได้มาโดยตลอด
พออายุได้แปดหนาวนางก็เริ่มขึ้นเขาแทนมารดาที่เหนื่อยหอบง่ายเพื่อหาของป่าไม่ขายและหาของกินมาประทังชีวิต
จือหลินได้แต่ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อได้ฟังเรื่องรันทดจากปากของลี่อิน เรื่องของนางเมื่อภพที่แล้วดูจะดีกว่าของลี่อินไปเลย
เพราะอายุก่อนที่จือหลินจะจบลงในภพที่แล้วก็ไม่ต่างจากลี่อินในยามนี้นัก นางอาจจะเป็นพี่สาวของลี่อินอีกด้วย จือหลินที่ไม่รู้จะปลอบคนตรงหน้ายังไงนางจึงเอื้อมมือไปลูบหลังเบาๆ แทน