บทที่ 1 คุณหนูอวี้ตัดสัมพันธ์ท่านโหว
บทที่ 1
คุณหนูอวี้ตัดสัมพันธ์ท่านโหว
สตรีวาจาก๋ากั่น
“ท่านโหวขอรับ”
ตงหยางกำลังจ้องมองเปลวเพลิงในเตาหลอมอย่างใจลอยค่อยหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงเรียกของพ่อบ้าน ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงอนุญาต พ่อบ้านจึงรีบดึงจดหมายออกจากแขนเสื้อส่งให้ผู้เป็นเจ้านายทันที
“คุณหนูอวี้ฝากจดหมายมาให้ท่านโหวขอรับ”
“ทิ้งมันลงไปในเตาเผา แล้วทีหลังอย่าได้นำสิ่งของอัปมงคลใดๆ จากสตรีน่ารังเกียจผู้นั้นมาให้ข้าอีก!”
เสียงห้วนตวาดลั่นอย่างไม่พอใจ ริมฝีปากหยักได้รูปเหยียดหยัน กัดข่มฟันจนสันกรามปูดโปน ฤทธิ์ยากำหนัดเมื่อคืนทำให้เขาไม่อาจควบคุมร่างกาย จึงไม่ระแคะระคายว่าสตรีแพศยาแอบซ่อนกายอยู่ภายในห้องนอนของเขา
นางแก้ผ้าเปลือยเปล่าราวกับสตรีไร้ค่า อวดยวนส่วนสัดที่ทำให้บุรุษแทบหยุดหายใจ นางผลักเขาที่กำลังมึนงงด้วยฤทธิ์ยา อีกทั้งยังขึ้นคร่อมทับร่างที่ไร้การควบคุมของเขาดั่งสตรีต่ำช้า
‘สารเลว!’
เขาสูญสิ้นการควบคุม ร่างกายร้อนเร่าปรารถนาราคะจนแทบแดดิ้น นวลเนื้อเปลือยเปล่าเบียดชิดยวนยั่ว ส่วนสัดที่แทบล้นทะลักทำให้สติสัมปชัญญะของเขาขาดสะบั้น
เขาร่วมหลับนอนกับนางราวกับคนหื่นกระหายกามราคะ ในขณะที่นางโอนอ่อนยั่วยวนเขา เบียดชิดแอ่นทรวงอกและโหนกนูนอวบอูมเข้าหาดั่งสตรีร่านไร้ยางอาย
แม้การเสพสังวาสจะเร่าร้อน แต่มันไม่ได้เกิดจากความยินยอม ยิ่งเขาชิงชังเกลียดนางมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งพะอืดพะอมจนแทบอยากจะอาเจียนออกมาเมื่อนึกถึงค่ำคืนที่แสนบัดซบ
คิดพลางกำหมัดเข้าหากันแน่น หากนางไม่ใช่บุตรีของนายอำเภออวี้เขาคงหักแข้งหักขานางไปเสียแล้ว ไม่ปล่อยให้ลอยหน้าลอยตาทำกิริยาชั่วเช่นนี้แน่
“ขอรับ”
พ่อบ้านรับคำก่อนจะโยนจดหมายลงไปในเตาเผาหลอมเหล็กตามคำสั่งทันที ก่อนจะเอ่ยต่อไปว่า
“อะ...เอ่อคุณหนูอวี้เดาว่าท่านโหวคงจะทิ้งจดหมายของนางทันทีโดยไม่เปิดอ่านเป็นแน่ ชะ...เช่นนั้นนางจึงได้ฝากถ้อยคำผ่านข้าเพื่อสื่อถึงท่านโหวขอรับ”
คราวนี้โหวหนุ่มถึงกับขมวดคิ้วมุ่น คล้ายความอดทนกำลังจะสิ้นสูญ หากนางอยู่ใกล้ๆ เขาคงบีบคอนางแล้วเค้นถามว่าเมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับเขาเสียทีไปแล้ว
“เรื่องมาก! ว่ามา!”
ชายหนุ่มตอบรับคล้ายรำคาญ อีกทั้งเขาเองก็อยากจะรู้ว่านางจะทำสิ่งใดต่อไป คร่ำครวญเรียกร้องให้เขารับผิดชอบในตัวนางงั้นหรือ
อย่าหวัง!
เขาได้เรียกให้คนจากทางการมาเก็บพิสูจน์หลักฐานเอาไว้หมดแล้ว ว่าในสุรามียาปลุกกำหนัดผสมอยู่ อีกทั้งยังให้แพทย์มากฝีมือตรวจหาพิษกำหนัดที่หลงเหลือในร่างกายของเขาโดยมีเจ้าหน้าที่จากทางการมาร่วมเป็นพยานในการเก็บหลักฐานนี้
ซึ่งหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มาร่วมเป็นพยานก็คืออวี้เฟยเทียน พี่ชายของคุณหนูอวี้อ้ายฉิงนั่นเอง ซึ่งอวี้เฟยเทียนมีสีหน้าลำบากใจ ฉายชัดว่าอับอายกับการกระทำต่ำทรามของน้องสาวไม่น้อย
‘ตระกูลอวี้ของเรารู้ดีว่าสิ่งใดผิดสิ่งใดถูก ข้าจะนำเรื่องนี้ไปรายงานท่านพ่อเพื่อลงโทษอ้ายเอ๋อร์อย่างแน่นอน ขอท่านโหวโปรดคลายโทสะด้วย’
หากอวี้อ้ายฉิงกล่าวอ้างว่าเขาลวนลามขืนใจ เรียกร้องให้เขาตบแต่งรับนางเป็นภรรยา เขาก็จะสู้จนถึงที่สุดต่อให้ต้องไปสู้กันในชั้นศาลก็ตาม!
ครานี้ต่อให้ต้องแหกหน้าท่านนายอำเภออวี้ เขาก็คงต้องทำ เพราะไม่อาจยอมรับหญิงแพศยาใจทรามมาเป็นภรรยาข้างกาย
“ขะ...ขอรับ ขะ...ข้าจะถ่ายทอดคำพูดของคุณหนูอวี้เดียวนี้”
พ่อบ้านหนุ่มยกมือขึ้นปาดเหงื่อคล้ายลำบากใจ ก่อนจะเอื้อนเอ่ยออกมา
“เป็นค่ำคืนที่ไร้การจดจำ ดั่งนอนอ้าขาให้ลมเย็นพัดผ่าน ฉาบฉวย บางเบา ปราศจากการผูกพันลึกซึ้งตราตรึง ขอท่านโหวโปรดอย่าใส่ใจ ข้าไม่คิดเรียกร้องให้ท่านรับผิดชอบพรหมจรรย์ของข้า เวลานี้ข้าหมดสิ้นความสนใจในตัวท่านแล้ว เราสอง...ถือว่าสิ้นวาสนาต่อกัน”
พ่อบ้านเอ่ยจบก็ถึงกับทำหน้าไม่ถูก คล้ายจะร้องไห้แต่ก็คล้ายจะกลั้นหัวเราะแล้วสักพักก็ทำสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ ในขณะที่โหวซือหม่าตงหยางนั้นโกรธจัดจนหน้าแดงก่ำ
ปั้ง!
“ช่างก๋ากั่นนัก!”
โหวหนุ่มชกกำปั้นลงกับผนังโรงตีเหล็กอย่างแรง เส้นเลือดที่ข้างขมับแทบปูดโปนออกมา
‘นี่นางจะบอกว่าค่ำคืนที่ผ่านมาลีลากามของข้าห่วยแตก! แท่งหยกของข้าเล็กจนนางไม่รู้สึกรู้สาดั่งนอนอ้าขาให้ลมพัดผ่านนะหรือ!’
ใบหน้าของโหวหนุ่มเจือไปด้วยความสับสนและงุนงง เมื่อจู่ๆ เขาก็ถูกประกาศตัดความสัมพันธ์จากสตรีที่ตามเทียวไล้เทียวขื่อเขามากว่าห้าปี ดั่งจะบอกว่าพอนางได้ลองชิมร่างกายของเขาแล้วจึงรีบคายออกดั่งถุยทิ้ง เพราะเขาไม่อร่อย?
ข้าไม่อร่อยงั้นหรือ!
แต่เมื่อคืนเป็นนางมิใช่หรือที่ร้องครางเสียงกระเส่า หรือทั้งหมดมันเป็นแค่การแสดง
นางได้ข้าแล้วหมายจะทิ้งข้างั้นหรือ!
ข้าต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายผลักไสนาง เหตุใดมันจึงกลับตาลปัตรเช่นนี้เล่า!
“เหอะ! มันจะมากไปแล้วนะอวี้อ้ายฉิง!”