บทที่ 3 ข้าจะหย่า
บทที่ 3 ข้าจะหย่า
เมื่อหนานลี่อิ่มแล้วก็ได้เดินออกชมบรรยากาศข้างนอกที่นี่ช่างร่มเย็นแตกต่างจากโลกที่หนานลี่อยู่ยิ่งนัก จี่ซุนเดินตามออกมาพร้อมร่มหนึ่งคันเพื่อคอยกางให้พระชายาเดินออกไปที่ตลาดมีสาวใช้กับบ่าวเดินตามหลังมาสองสามคน
“พระชายาเพคะเราออกเดินทางไปที่ตลาดกันเถอะเพคะหากรอนานกว่านี้แดดออกมาข้าเกรงว่าพระชายาจะร้อนเอาได้เพคะ”
หนานลี่หรือเงยหน้ามองท้องฟ้า ก็เห็นแสงแดดที่สาดส่องลงมาหากดูเวลาตอนนี้ก็น่าจะสายๆ เธอจึงหันไปบอกกับจี่ซุนว่านางพร้อมแล้ว
“ไปสิข้าเองก็อยากเห็นแล้วว่าตลาดของที่นี่จะเป็นอย่างไรจะมีผ้าไหมที่ข้าต้องการหรือไม่” หนานลี่ยิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าตนเองนั้นพูดออกมาอย่างกับในหนังสือนิยายที่พึ่งอ่านมานั้นทำให้ทุกคนตอนนี้ไม่สงสัยนางสักคนทั้งหมดก็พานางขึ้นเกี้ยวเพื่อออกไปที่ตลาดผู้คนมากมายไม่ต่างกันกับที่เมืองหลวงที่เธอเคยอยู่แต่ที่นี่ต่างกันออกไปเพราะไม่มีรถไม่มีควันและผู้คนที่แต่งกายไม่เหมือนกันสิ่งอำนวยการความสะดวกก็ไม่มีอย่างที่โลกที่เธอเคยอยู่แต่เธอก็ชอบโลกแห่งนี้ยิ่งนักเพราะเมื่อหนานลี่คิดเธอต้องตายมาอยู่ที่นี่ก็เพราะว่ารถยนต์นั่งเกี่ยวนี่แหละดีที่สุดแล้วสำหรับเธอ
เมื่อมาถึงที่ร้านผ้าไหมเดี๋ยวก็ถูกวางลงจี่ซุนเปิดผ้าให้พระชายาเดินลงมาหนานลี่ตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้เห็นและสัมผัสกับเนื้อผ้าสมัยก่อน
“ว้าวที่นี่มีผ้าใหม่มากมายที่ข้าต้องการทั้งนั้นเลยมีผืนสวยๆ ทั้งนั้น”
“ด้านในยังมีผ้าหลายหลากยิ่งนักพระชายาเดินเข้าไปเลือกดูได้เลยเพคะ” จี่ซุนผายมือให้หนานลี่เข้าไปด้านในไม่นานนักเถ้าแก่เจ้าของร้านก็เดินออกมาต้อนรับ
“วันนี้ช่างเป็นวันดีของข้าเสียจริงที่ได้ต้อนรับผู้สูงส่งเช่นท่านพระชายาเหมยลี่เชิญด้านในพะย่ะค่ะ” ชายชราเจ้าของร้านผ้าก็ได้ออกมาต้อนรับหนานลี่เป็นอย่างดีเธอเดินตามเขาเข้าไปมือสัมผัสผ้าไหมที่วางต่อหน้าเธอมากมายมีสีสันสวยงามถูกใจเธอยิ่งนัก
“ผ้าไหมพวกนี้ท่านขายเท่าไหร่ข้าจะซื้อผ้าของท่านนำไปตัดชุดไม่ทราบว่าท่านมีช่างตัดชุดให้ข้าหรือไม่” หนานลี่ถามเถ้าแก่เจ้าของร้าน
“หากพระชายาต้องการกระหม่อมก็หาให้ได้พะย่ะค่ะกระหม่อมรู้จักช่างเย็บผ้าฝีมือดีหากพระยาต้องการผ้าผืนใดก็เลือกไว้ได้พะย่ะค่ะแล้วกระหม่อมจะนำไปถวายให้ที่ตำหนักพร้อมกับช่างตัดเย็บให้พะย่ะค่ะ” ชายชราน้อมนอบก้มหน้าคุยกับหนานลี่ตลอดเวลา
“ดีหากเช่นนั้นถ้าเอาผ้าไหมที่วางอยู่ด้านหน้าตรงนี้ทั้งหมดและท่านเองก็จงเอาไปส่งค่าที่ตำหนักของข้าส่วนค่าใช้จ่ายเจ้าบอกจี่ซุนผู้ช่วยของข้าได้” ชายชราทำหน้าเอ๊ะใจที่พระชายาพูดจาแปลกๆ จี่ซุนจึงรีบเข้ามาหาเขาและบอกว่านางเองที่พระชายาบอกว่าเป็นผู้ช่วย
“เท่าไหร่กันของพระชายาข้าจะจ่ายให้ท่านเองเจ้าค่ะ” หนานลี่ได้เดินดูไปทั่วร้านอย่างตื่นตา ส่วนชายเจ้าของร้านก็ได้บอกราคาแก่จี่ซุน เมื่อนางจ่ายเสร็จสิ้นพระชายาก็ได้เดินออกมาและเดินชมที่ร้านอื่นมากมาย ของกินในเมืองแห่งนี้ก็เป็นสิ่งที่หนานลี่สงสัยและอยากลิ้มลอง นางเองก็ไม่รอช้าเดินชิมแทบทุกร้าน จนอากาศเริ่มร้อน จี่ซุนจึงชวนนางกลับที่จวนหนานลี่เองเธอมีความสุขจริงๆ ที่ไม่ต้องทำงานแถมยังใช้เงินโดยไม่ต้องคิดอีกด้วย ชีวิตนี้หาได้จากที่ไหน
“กลับกันเถอะเพคะ ร่างกายของพระชายายังไม่แข็งแรงตอนนี้อากาศก็เริ่มร้อนแล้ว “
“ก็ได้ ข้าเองก็เหนื่อยและอิ่มมากจนตาแทบจะปิดแล้วล่ะ” หนานลี่เดินไปที่เกี้ยวพร้อมนั่งลงอย่างไม่สำรวมทำให้จี่ซุนเห็นการกระทำและนิสัยที่ผิดแปลกไปของพระชายา
ไม่นานเกี้ยวก็ได้มาถึงจวน หนานลี่ก็กลับตำหนักของตัวเองและนอนพักผ่อน ในชีวิตของเธอครั้งนี้เป็นการนอนกลางวันที่เธอมีความสุขที่สุด เพราะเธอไม่มีใครมาต่อว่าเธอได้ หลายวันต่อมาเธอเริ่มใช้ชีวิตที่จวนแห่งนี้คุ้นเคยขึ้นทุกวัน ช่างที่เจ้าของร้านผ้าส่งมาก็ได้มาจัดการวัดสัดส่วนและตัดชุดตามที่หนานลี่ต้องการ ไม่นานเสื้อผ้าอาภรณ์แสนสวยงามมากมายสีสันก็ได้เสร็จสิ้นแขวนอยู่บนไม้ต่อหน้าเธอ และตอนนี้ร่างกายของเธอก็พร้อมแล้วที่จะไปต่อปากต่อคำกับท่านอ๋องใจร้าย นางให้จี่ซุนไปหยิบหนังสือหย่าและประทับตราของตนเองพร้อมถือขึ้นมามองดูด้วยความดีใจนางมองไปรอบๆ ห้องที่แสนน่าเบื่อนี้และแสยะยิ้ม
“หากหนังสือเล่มนี้ลงตราประทับของท่านอ๋องต่อจากนี้ข้าจะก้าวขาออกจากจวนแห่งนี้อย่างผ่าเผยและพร้อมที่จะหาสวามีใหม่ที่ดีกว่าท่านอ๋อง ฮ่าฮ่า” จี่ซุนมองดูพระชายาคิ้วขมวดเข้าหากัน
“พระชายาเหตุใดถึงทำเช่นนี้เพคะ หม่อมฉันไม่เข้าใจสักนิด เมื่อก่อนพระชายาเคยบอกหม่อมฉันว่าต่อให้ท่านตายก็ไม่ออกไปจากจวนแห่งนี้ พระชายาเคยบอกหม่อมฉันว่าพระชายาจะจงรักภักดีต่อท่านอ๋อง แล้วทำไมวันนี้พระองค์ถึงเขียนหนังสือหย่านี่เจ้าคะ”
“ก็เพราะข้าไม่ใช่พระชายาที่อ่อนแอและโง่เขราอีกแล้ว ไปเถอะไปหาท่านอ๋องกัน” หนานลี่ลุกขึ้นและเดินตรงไปด้านหน้า จี่ซุนกับสาวใช้นางอื่นก็รีบเดินตามเช่นกัน จู่ๆ นางคิดขึ้นได้ว่านางไม่รู้ทางไปที่ตำหนักของท่านอ๋องด้วยซ้ำนางก็ได้หยุดเดินทันที ทำให้สาวใช้ที่เดินตามหลังชนเข้ากับนางและเซไปด้านหลังกันหลายคนโชคดีที่ยังไม่ล้ม
"จู่ๆ พระชายาก็หยุดเดินมีอันใดหรือเพคะ" จี่ซุนได้เอ่ยถาม
"ข้าจำไม่ได้ว่าทางไปตำหนักของท่านอ๋องไปทางใดเจ้าเดินนำข้าไปที" หนานลี่พูดออกมาอย่่างเขอะเขินความมั่นใจเมื่อครู่ได้หายไป
"โธ่ หม่อมฉันก็คิดว่าเรื่องใหญ่อันใด มาเถอะเพคะหม่อมฉันจะพาพระชายาไปเอง" พูดจบจี่ซุนก็เดินนำหน้าหนานลี่ไปที่ตำหนักของท่านอ๋อง