บทที่ 5
สิมิลันยืนหมุนตัวอยู่หน้ากระจกบานใหญ่อยู่หลายรอบเพื่อเช็คความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผม วันนี้เธอเลือกใส่ชุดกระโปรงแขนยาวสีขาวสะอาดตาและดูสบายๆ แต่คนใส่ก็ดูเหมือนจะไม่มั่นใจกับการแต่งตัวของตัวเองมากกว่าปกติ
"มันโอเคหรือยังเนี่ย!!! เหมือนจะขาดอะไรสักอย่าง" หญิงสาวพึมพำอยู่หน้ากระจกคนเดียว "จะปล่อยผมหรือเกล้าผม หรือหางม้า เอ๊ะ หรือจะดัดลอน หรือ..."
กริ่งงง~ ~
"อย่าบอกนะว่ามาแล้ว" สิมิลันเช็กความเรียบร้อยหน้ากระจกอีกครั้งแล้วคว้ากระเป๋าบนเตียงขึ้นมา "ปล่อยผมดีกว่า"
พอตกลงกับตัวเองเสร็จสรรพเจ้าตัวก็เดินลงบันไดทันที
กริ่งงง~~
"รอแปปนึงค่ะ !!!" หญิงสาวพูดขึ้น
พลั่กกก !!!!
ดวงตาคมๆจ้องมองคนที่เดินออกมาช้าๆ ในแววตานิ่งสงบฉายแววตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อคนที่เดินออกมาดูราวกับนางฟ้าตัวน้อยน่าถนุถนอม
"ขอโทษนะคะที่ช้า" หญิงสาวตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้แล้วพูดขึ้น
"ครับ" ชายหนุ่มพูดแล้วถอยจากประตูรั้วเพื่อให้คนตรงหน้าเปิดมัน
"ขอบคุณนะคะที่มารับ" สิมิลันบอก
"ครับ" เขาบอกและเดินนำไปที่ประตู
"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวขึ้นไปนั่งบนรถที่เขาเปิดประตูให้ เธอแอบมองใบหน้าเขาใกล้ๆอยู่แวบนึง 'เฮ้อ ก็หล่ออยู่หรอกนะ แต่พูดครับๆ บ่อยเกินไปนะคุณ หัดใช้ความหล่อให้มีประโยชน์หน่อยเถอะ' แล้วเธอก็ยังไม่วายแอบเหน็บเขาในใจอีกด้วย
ภายในรถเงียบสนิทจนแทบจะได้ยินเสียงหายใจอย่างเสมอต้นเสมอปลาย จนหญิงสาวแก่นๆชักจะเริ่มอึดอัดทุกทีๆ เธอรู้สึกเหมือนจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้พูดอะไรสักอย่าง
"คุณทำงานเกี่ยวกับอะไรคะ" สิมิลันหันไปถามคนข้างๆ
"หน้าที่ของผมตอนนี้คือบรีฟและดีบรีฟให้กับรุ่นน้องทหารใหม่" เมื่อชายหนุ่มพูดประโยคยาวๆออกมาให้ได้ยินครั้งแรก สิมิลันก็แอบลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกอย่างน้อยก็ไม่ได้อึดอัดอย่างตอนแรก
"ช่วยอธิบายคำว่าบรีฟกับดีบรีฟหน่อยได้ไหมคะ ??" หญิงสาวถามเขา ถึงหาข้อมูลมาบ้างแล้ว แต่ก็อยากได้ข้อมูลจากประสบการณ์จริง บางทีผู้ชายคนนี้อาจจะเป็นต้นแบบในนิยายที่ บ.ก. ต้องการก็ได้
"เพื่อจะฝึกตามแผนการฝึกทุกเช้าก่อนบินจะต้องทำการบรีฟก่อนว่าวันนี้จะทำอะไรบ้างในการฝึก จากนั้นก็ขึ้นบิน พอบินเสร็จแล้วลงมาทำการดีบรีฟเพื่อแนะนำหรือตักเตือนกันตามระเบียบ ว่ามีจุดไหนที่บกพร่องบ้างในการบิน"
สิมิลันสังเกตุใบหน้าของคนข้างๆขณะที่เขากำลังพูดถึงงานที่ได้รับมอบหมาย ใบหน้าหล่อราวกับรูปปั้นพูดถึงงานของเขาด้วยสีหน้าที่ภาคภูมิใจและมีความสุข มันชั่งต่างกับผู้ชายหน้าไร้อารมณ์ที่เห็นในตอนแรกจนหญิงสาวแอบยิ้มตาม
"แล้วเขามีการคัดเลือกนักบินยังไงหรอคะ ?" ในเมื่อเขาจะตอบคำถามเฉพาะเรื่องนี้ เธอเองก็จะถามเฉพาะเรื่องนี้เหมือนกัน สิมิลันหยิบปากกากับสมุดเล่มเล็กๆขึ้นมาจดตามที่เขาพูด
"พอจบจากโรงเรียนนายเรืออากาศคนที่อยากทำงานด้านนี้ ต้องผ่านการตรวจร่างกายให้ได้ตามมาตรฐานของเวชศาสตร์การบิน ถ้าผ่านก็เข้าเรียนที่โรงเรียนการบิน โรงเรียนการบินจะให้ไปเรียนบินกับเครื่องบินชนิดต่างๆ เพื่อวัดความสามารถ และวัดระดับความถนัดของแต่ละคนว่าเหมาะกับเครื่องบินชนิดไหน" การเล่าประสบการณ์ของเขาทำให้เจ้าตัวเองก็นึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของตัวเองไปด้วย เขายิ้มบางๆอยู่คนเดียวตอนที่พูดจบ
"แล้วทำไมคุณถึงเลือกจะขับ F-16 ? " สิมิลันยิงคำถามใหม่ทันที
"ผมชอบ..." เขาตอบเพียงแค่นั้น ทำให้คนฟังต้องเงยหน้าขึ้นมองเซงๆ
"คุณแค่ชอบเฉยๆหรอ"
"ผมชอบเครื่องบินรบทุกๆลำ แต่ที่ชอบที่สุดก็ F-16" เขาตอบแบบพยายามจะขยายความอีกนิดนึง แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย -0-
'บางทีเขาอาจจะพูดไม่เก่งล่ะมั้ง' สิมิลันคิดในใจแล้วถามต่อ
"ความรู้สึกครั้งแรกที่คุณได้ขับเครื่องบินในดวงใจเป็นยังไงคะ"
"ดีใจ" คำพูดของเขามันสั้น ได้ใจความจริงๆ
"อ่อ แค่นี้สินะ" หญิงสาวรู้อยากเอามือทึงหัวตัวเองแรงๆ เพราะหัวเสียกับความเฉยชาของคนข้างๆ
"ครับ"
สิมิลันรู้สึกเหมือนคนข้างๆกวนโอ๊ยเธอก็ตรงคำว่า 'ครับ' เมื่อกี้นี่แหละ
"คุณมีแฟนหรือเปล่า ? " หญิงสาวถามขึ้น และแอบหวังลึกว่าให้เขาตอบว่า 'ไม่'
"..." เขามองเธอแวบนึงก่อนจะหันไปขับรถต่อ
"มีแล้วหรอ" สิมิลันพูดขึ้น แต่หางเสียงฟังดูผิดหวังนิดๆจนต้องรีบแก้ตัว "ไม่น่าถามเลย หล่อๆเท่ๆอย่างคุณก็คงต้องมีอยู่แล้ว 55"
"ไม่..." คำตอบสั้นๆแค่คำเดียว แต่คนฟังรู้เหมือนใจจะเริ่มสั่นขึ้นมานิดๆจนแก้มร้อนผ่าว
"ถึงแล้วครับ" เหนือเมฆจอดรถแล้วพูดขึ้น
"ค่ะ" หญิงสาวพยักหน้ารัวๆแล้วรีบหันไปเปิดประตูลง
แก๊ก ! แก๊ก !
"ยังไม่ได้ปลดล็อก" ชายหนุ่มข้างๆพูดขึ้นและ...
ปั๊ก !
เสียงปลดล็อกประตูดังขึ้นมา
'อะไรของแกว่ะมะลิ งื้ออออออ มาเปิ่นอะไรตอนนี้ห้ะ' สิมิลันคิดในใจ แล้วรีบเปิดประตูลงจากรถทันที เพื่อซ่อนความอาย...