บทที่ 3
สิมิลันนำเสนอพล็อตนิยายคร่าวๆที่เสร็จภายในสามวันให้ บ.ก. ฟัง โดยไม่รอสัมภาษณ์ทหารอากาศคนนั้นก่อน เพราะเธอไม่อยากเสียเวลารอเขาอีก ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากจะสัมภาษณ์คนอื่นแทนให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
"ไม่ได้ๆ ถ้าคุณน้องสัมภาษณ์คนนี้อรรถรสในการทำงานจะสูงขึ้นแบบอันลิมิตเลยพี่รับประกัน" กวินตราปฏิเสธทันควัน
"แต่พี่ก้อยดูสิคะ ทหารอะไรก็ไม่รู้นัดไม่เป็นนัด แถมยังไม่ยอมบอกล่วงหน้าอีกต่างหาก วันนั้นก็ไปเสียเที่ยว แล้วถ้าไปวันอื่นจะเป็นอีกไหมคะ" หญิงสาวบ่น
"พี่โทรบอกเพื่อนแล้ว เพื่อนพี่บอกว่าที่หมวดเมฆต้องลางานด่วนเพราะหลานชายเข้าโรงบาล ตอนนี้กำลังหาจ้างพี่เลี้ยงเด็กชั่วคราวอยู่" กวินตราดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันทีเมื่อนึกไอเดียออก
"ก็แล้วไป" สิมิลันถอนหายใจเซงๆ
"รอบที่แล้วมะลิเขียนเรื่องเกี่ยวกับนักดนตรี มะลิก็เข้าคลุกคลีไปเรียนดนตรีกับนักดนตรีชื่อดังเลยใช่ไหม" บ.ก.สาวถามขึ้น
"ใช่ค่ะ เสียดายนะคะไม่น่าแต่งงานไปก่อนเลย น่ารักจริงๆ อบอุ่น โรแมนติก น่าคนหา บลาๆๆ" หญิงสาวสาธยายเกี่ยวกับอาจารย์นักดนตรีรูปหล่อที่เธอไปขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับการทำงานของเขา และเรียนดนตรีกับเขาด้วย
"พี่ว่ามะลิลองไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กดูไหม เผื่อจะได้ไอเดียอะไรดีๆ" กวินตราเสนอขึ้น
"อันนี้มันค่อนข้างจะทุ่มไปหรือเปล่าคะ" หญิงสาวทำหน้าเหยเก
"ก็เผื่อจะได้ไอเดียเพิ่ม แล้วยังได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำด้วยนะ" บ.ก.สาวบอก
"โห ไม่ล่ะค่ะ มะลิเคยเลี้ยงลูกสาวญาติปวดหัวจะแย่" สิมิลันรีบปฏิเสธเพราะเคยเจอพิษสงของเด็กแสบมาแล้ว
"ลองดูก็ได้นี่นา พี่ก็อยากได้นิยายแหวกแนวบ้าง" กวินตราพยักหน้ายึกยักคะยั้นคะยอ
"จะดีหรอคะ"
"เอางี้ ถ้ามะลิทำพี่จ้างเลยเดือนละ 8,000 นี่ไม่รวมค่าต้นฉบับนะจ๊ะ" กวินตรายื่นข้อเสนอ
"จริงหรอคะ !!??" สิมิลันถามเสียงดัง
"ตั้งแต่รู้จักกันมาพี่เคยโกหกด้วยหรอ" บ.ก.สาวถามกลับ
"เคยค่ะ ตอนปี 1 พี่ก้อยเคยหลอกให้มะลิหนูทอด แต่โกหกว่าเป็นหมูทอด" หญิงสาวพูดเรื่องสมัยมหาลัยที่กวินตรารุ่นพี่ปี 2 หลอกให้เธอกินหนูทอด
"เรื่องง่ายๆทำไมแกลืม ทีเรื่องแบบนี้นะมันก็นานนมมาละยังจะจำ" บ.ก.รุ่นพี่เมื่อโดนขุดเรื่องในอดีตก็บ่นกระปอดกระแปด
"จำได้ขึ้นใจเลยล่ะค่ะ" หญิงสาวบอกอย่างกวนๆ
"ชิ แล้วแต่เลยย่ะ อย่าเอามาพูดวันที่ลูกฉันบวชก็พอ แลดูฉันเป็นนางมารเลยเชียว หนูทอดกินเข้าไปได้ยังไงเนี่ย 55" บ.ก.รุ่นพี่พูดติดตลก แต่ไม่วายล้อเรียนรุ่นน้องในประโยคสุดท้าย
"เพราะใครล่ะคะ" สิมิลันทำเสียงเข้มขึ้น จนคนตรงหน้าหยุดหัวเราะ
"เอาน่า ลืมๆมันไปเถอะ แล้วสรุปจะทำตามข้อเสนอพี่ป่ะ ?"
"ขอคิดดูก่อนแล้วกันค่ะ"
"ถ้าคิดนานจะเหลือ 2,000 นะจ๊ะ"
"ลดเยอะไปค่ะ" คนฟังบ่น
ด้านเหนือเมฆพึ่งไปรับหลานชายออกจากโรงพยาบาล ก็รีบจัดแจงวานเพื่อนรักให้ดูแลหลานให้ชั่วคราวจนกว่าหลานชายจะหายดี หรือไม่ก็จนกว่าจะหาพี่เลี้ยงมาให้นริศได้
ครืดด~ ครืดด~ ครืดด~
"สวัสดีครับ ผมเหนือเมฆครับ" เขารับโทรศัพท์เบอร์คุ้นด้วยเสียงนิ่งๆตามแบบฉบับของตัวเอง
(สวัสดีค่ะ ฉันเป็นนักเขียนที่นัดคุณไว้วันนั้นค่ะ) เสียงหญิงสาวจากปลายสายเจื้อยแจ้ว
"อ่อครับ ไม่ทราบว่าเลื่อนเวลาสัมภาษณ์อีก 20 นาทีได้ไหมครับ พอดีผมกำลังขับรถอยู่" เขาบอก
(ฉันแค่จะบอกว่า...ฉันขอสมัครเป็นพี่เลี้ยงหลานชายของคุณชั่วคราวนะคะ และฉันจะสัมภาษณ์คุณตอนเจอกัน งั้นแค่นี้นะคะรายละเอียดค่อยคุยกันอีกทีหลัง ขอบคุณค่ะ)
สิมิลันตัดสินใจเองพูดเองเออเองโดยไม่รอฟังคำตอบใดๆทั้งสิ้น เหมือนกับมัดมือชกคนฟังไปในการสนทนาเมื่อคู่ แต่เขาก็ไม่ยักจะโทรกลับมาปฏิเสธเลยสักนิด...
ทางด้านของเหนือเมฆแม้จะงุนงงกับคำพูดของหญิงสาวที่ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่เขาก็ไม่คิดจะโทรกลับมาถามอะไร หลายๆครั้งที่เขาโดนมัดมือชกจากบรรดารุ่นพี่ที่มักสั่งให้ทำนู่นทำนี่ แต่เขาก็ยินดีทำด้วยความเต็มใจ แต่สำหรับหญิงสาวที่เขาไม่รู้จักคนนี้ทำไมเขาถึงไม่ปฏิเสธไปก็ไม่รู้
"สรุปว่าเราแปลก หรือเขาแปลกวะ" เหนือเมฆพูดกับตัวคนเดียวในรถ