บทที่ 2
สิมิลันขับรถมาถึงกองบินที่ 4 ตาคลีก็ปาเข้าไปสี่ทุ้มเสียแล้ว หญิงสาวทำหน้าหงุดหงิดกว่าเดิมเมื่อมาขอพบ 'นาวาตรีจักรกฤต วงศ์ศรีสิงห์' แต่เขาดันแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เธอพบนายทหารอีกท่านหนึ่งแทน และที่น่าหงุดหงิดกว่านั้นคือ 'เรืออากาศโทเหนือเมฆ สวัสดิ์จินดา' ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์เธอกระทันหัน !!!!
"ก็ยังดี...ที่ยังทิ้งเบอร์ติดต่อเอาไว้" หญิงสาวงึมงำแล้วมองดูเบอร์โทรศัพท์ในกระดาษสีขาวแผ่นเล็กๆในมือ เจ้าหน้าที่บอกกับเธอว่าเขาให้เธอสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์แทน "ฉันจะสัมภาษณ์จนนายไม่เป็นอันทำอะไรเลยคอยดู"
สิมิลันเก็บเบอร์โทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วเดินไปขึ้นรถขับออกไป...
เหนือเมฆนั่งหน้าเครียดอยู่ข้างเตียงของเด็กชายตัวน้อยผู้เป็นหลาน หลังจากทิวากรโทมาบอกว่านริศเป็นไข้เลือดออกเขาก็รีบขับรถมาจากนครสวรรค์ด้วยความเร็วสูงกว่า 120 ตลอดทาง
"ป้าขอโทษนะคะที่เลี้ยงน้องริศไม่ดี แกถึงได้เป็นไข้เลือดออก" ป้านีคนเก่าคนแก่ของบ้านที่คอยดูแลเด็กชายพูดขึ้นทั้งน้ำตา
"ไม่ใช่ความผิดป้านีหรอกครับ ช่วงนี้ไข้เลือดออกกำลังระบาด" เหนือเมฆหันไปยิ้มเจื่อนๆให้คนสูงอายุกว่า
"ถ้าป้าไม่ปล่อยให้น้องริศไปเล่นกับเพื่อนที่สนามเด็กเล่นจนมืดค่ำคงไม่เป็นแบบนี้" ป้านีบอกตาแดงก่ำ
"เราจ้างพี่เลี้ยงอีกคนดีไหมครับ จะได้ช่วยลดภาระให้ป้านีด้วย ช่วงนี้แม่ก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน ส่วนพ่อแม่ริศก็แทบไม่มีเวลาขยับตัวมาเลย" เหนือเมฆพูดถึงพี่ชายของเขาที่ทำธุรกิจร้านอาหารอยู่สวีเดนนานๆทีจะกลับมาหาลูก หลายครั้งที่พี่ชายและพี่สะใภ้อยากเอาลูกไปอยู่ที่สวีเดนด้วยกัน แต่ก็ต้องทะเลาะกับแม่ของทุกทีไป
"ป้าไม่ได้อยากว่าหรอกนะคะ คุณรัศทำถูกแล้วล่ะค่ะที่ไม่ยอมให้น้องริศ ก็ลูกสะใภ้คนโตเธอติดเที่ยวสำมะเลเทเมาออกขนาดนั้น" ป้านีบ่นโอดเรื่องแม่ของเด็กชายที่เอาแต่เที่ยว แล้วก็เมาเขข้าบ้านทุกวัน "เมื่อก่อนป้าก็เข้าใจนะคะว่ายังเด็กและโตที่เมืองนอกเมืองนา แต่นี่ก็สามสิบกว่าๆกันแล้วก็ยังเหมือนเดิม"
"ผมจะรีบหาพี่เลี้ยงให้น้องริศแล้วกันนะครับ" เหนือเมฆตอบนิ่งๆ
"พี่เหนือคะ น้องริศเป็นยังไงบ้าง" หญิงสาวในชุดเครื่องแบบทหารอากาศหญิงเดินเข้าในห้องพร้อมกับของเยี่ยมมากมาย
"ต้องรอดูอาการต่อ แต่ตอนนี้ดีขึ้นมาแล้ว" เหนือเมฆพูดเรียบๆในแบบฉบับของเขา
"พอแม่บอกณิชาก็รีบมานี่เลย เป็นห่วงน้องริศน่ะค่ะ" หญิงสาวเอาเก้าอี้มานั่งลงข้างๆเขาแล้วถามต่อ "พี่เหนือขับรถมาจากนครสวรรค์เลยหรอคะ ? "
"อืม..."
"เหนื่อยแย่เลยนะคะ เดี๋ยวคืนนี้ณิชาอยู่เฝ้าน้องริศให้เองค่ะ" หญิงสาวอาสา
"ไม่เป็นไร" ฉันหนุ่มปฏิเสธ "ใกล้หมดเวลาเยี่ยมแล้ว พี่ฝากพาป้านีกลับบ้านด้วยนะ"
"...ค่ะ" คนโดนปฏิเสธรู้สึกเสียหน้าขึ้นมานิดๆ "งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ณิชามาเยี่ยมน้องริศใหม่นะคะ" หญิงสาวบอก
"อืม...สวัสดีครับป้านี" เหนือเมฆบอกแล้วหันไปสวัสดีคนสูงอายุกว่า
"ไหว้พระนะคะน้องเหนือ ป้าไปละนะคะ"
"ครับ"
สิมิลันพึ่งขับรถมาถึงบ้านด้วยความเพลียจากการเดินทางจึงหลับไป ก่อนจะตื่นขึ้นมาฟังเสียง บ.ก. สั่งงานยาวเป็นหางว่าว
(อย่ามัวแต่หาว รีบติดต่อไปขอสัมภาษณ์หมวดเหนือเมฆได้แล้ว พี่ต้องการฟังพล็อตนิยายคร่าวๆอาทิตย์หน้านะจ๊ะ ไม่ใช่ชาติหน้า) กวินตราหรือก้อย บ.ก. สาวเปรี้ยวโทรมาเหน็บลูกน้องแต่เช้ามืด
"มะลิรู้นะคะว่าพี่ก้อยใจดี พี่ก้อยยืดเวลาส่งพล็อตไปอีกนิดนึงนะคะ" สิมิลันทำเสียงออดอ้อนอย่างสนิทสนม
(โอเค พี่จะยืดเวลาให้)
"จริงหรอคะ !!!" หญิงสาวแทบจะตะโกนออกมาด้วยความดีใจ
(เพิ่มให้อีกสักสองวันละกันเนอะ แค่นี้แหละจ๊ะ บายย~)
"เดี๋ยวค่ะ !!! ...เฮ้ออ วางไปซะละ สองวันจะเอามาทำอะไรได้เนี่ย" หญิงสาวโอดครวญอยู่คนเดียว
หญิงสาวตัดสินใจค้นหาข้อมูลของเครื่องบิน F-16 ของกองบินที่ 4 ตาคลีคร่าวๆไปก่อน เธอไม่อยากจะพูดจะคุยกับใครตอนนี้นักเพราะไอเดียกำลังจะมา -_-
แต่ว่า...
ครืดด ~ ครืดด ~ ครืดด~
"อ๊ากกก...โทรมาทำไมตอนนี้ยะ" หญิงสาวกรอกเสียงใส่โทรศัพท์อย่างมีน้ำโห
(ใจเย็นดิแก...สุขสันต์วันเกิดนะ) ปลายสายบอกขำๆ เมื่อเพื่อนสาวลืมวันเกิดของตัวเองอย่างนี้ทุกๆปี
"วันนี้วันเกิดฉันหรอ ? "
(ก็ใช่น่ะสิ ฉันแล้วก็พ่อแม่แกมายืนรออยู่หน้าบ้านเนี่ย แกอยู่ไหน) เมื่อเพื่อนพูดจบหญิงสาวก็รีบวิ่งออกมาส่องดูตรงระเบียง
"รอแปปนะ" สิมิลันกุมขมับตัวเองมึนๆ
(ลืมวันเกิดตัวเองทุกปีเลยนะแกเนี่ย) คนเป็นเพื่อนยังล้อต่อ
"ก็ฉันมีแกคอยเตือนทุกปีนี่ยัยไหม" สาวขี้ลืมตอบ
(รีบลงมาเปิดประดูได้แล้ว)
วันเกิดของสิมิลันคือการกินข้าวพร้อมกับครอบครัวและเพื่อนสนิททุกๆปี มันชั่งเรียบง่ายแต่มีความสุขมากสำหรับเธอ แหม๊ ขนาดตัวเองยังไม่เคยจำวันเกิดตัวเองได้สักปีเลยด้วยซ้ำ
"เมื่อไหร่จะจำวันเกิดตัวเองได้สักทีลูกนะลูก" วิยะดาบ่นลูกสาวขึ้นอีกครั้งหลังเป่าเค้กเสร็จ
"ไหมว่ามะลิคงจำวันเกิดตัวเองไม่ได้ตลอดชีวิตเลยล่ะค่ะ" สายไหมหรืออมีนาบอกกับแม่ของเพื่อน
"ก็ทุกๆปีพ่อกับแม่แล้วก็ไหมคอยเตือนแบบนี้ตลอกนี่คะ ถ้าจำไม่ผิดก็ตั้งแต่ตอนอนุบาลแล้วเนอะที่ไหมมาแฮปปี้เบิร์ดเดย์ก่อนใครๆทุกปี" สิมิลันพูดขึ้น
"ถ้าไหมแต่งงานแต่งการไปใครจะมีคอยเตือนลูกทุกปีเนี่ย" อิสระถามลูกสาวบ้าง
"ก็พ่อกับแม่ไงคะ ว่าแต่ช่วงนี้ไหมไปทำงานที่ไหนเนี่ยไม่เจอตั้งนานแน่ะ" สิมิลันถามเพื่อน
"อ่อ ตอนนี้ไหมเปิดร้านกาแฟเพิ่มอีกสาขานึงอยู่นครสวรรค์น่ะ มันยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ก็เลยไปดูแลเองที่นู่น"
"ขยันจริงๆเลยแก แล้วทำไมไม่บอกฉัน เมื่อวันก่อนขับรถไปถึงกองบินที่ 4 ตาคลีน่ะรู้จักไหม ไปเสียเที่ยวแท้ๆเลย" หญิงสาวบ่น
"ฉันบอกหลายรอบแล้วนะ แกลืมอีกแล้วหรอ" คนพูดส่ายหัวอย่างระอากับคนขี้ลืม
"แหะๆ มันก็มีบ้างล่ะน่า"
"แล้วแกไปทำไรที่นั้น" อมีนาถามเพื่อนด้วยความอยากรู้
"ไปสัมภาษณ์นักบินแต่คาดกัน" คนพูดบอกแล้วไว้ไหล่เซงๆ
"นักบินคนไหนล่ะ เผื่อฉันรู้จักบ้าง" สายไหมอาสาเพราะแฟนหนุ่มของเธอก็เป็นนักบินในกองบินที่ 4 เหมือนกัน
"ร้อยโทเหนือเมฆ สวัสดิ์จินดา" สิมิลันบอกได้อย่างแม่นยำ เพราะเธอคาดโทษผู้ชายคนนี้เอาไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว
"ชื่อคุ้นๆ ไว้เดี๋ยวฉันโทรถามพี่หนึ่งให้นะ" เพื่อนสาวบอก เอ๊อออ เธอลืมไปได้ยังไงว่าแฟนของเพื่อนเธอก็เป็นทหารอากาศเหมือนกัน
"ขอบใจมากแก"