บทที่ 3
"อาทิวครับ" เด็กชายเรียกชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างเขา
"ว่าไงครับ" คนตัวสูงหันมาตอบ
"ตอนเข้าห้องตรวจอาทิวไม่ต้องตามมานะครับ เดี๋ยวอาทิวจะหาเรื่องมาล้อริศเหมือนอาเหนือ ริศอายพี่หมอรุ้ง" นริศตอบ
"แหม ริศชอบคุณหมอหรอ"
"ใช่ครับ ริศอยากเป็นแฟนพี่หมอรุ้ง" เด็กชายตัวน้อยตอบอย่างแก่แดดแก่ลม
"5555 เป็นเด็กเป็นเล็กนะเจ้าริศ"
"เป็นเด็กก็มีความรักได้ครับ" เด็กชายตอบอย่างไม่ลดละ
ทิวากรมองเด็กชายแล้วอมยิ้ม 'ร้ายไม่เบานะไอ้เสือ ไม่เห็นเหมือนไอ้เหนือสักนิด' ทิวากรแอบคิดในใจแล้วนึกไปถึงเพื่อนรักของเขา รายนั้นนอกจากจะไม่เคยปริปากบอกชอบใครแล้ว ยังทำท่าทางอย่างกับรังเกียจผู้หญิงนักหนา ถ้าไม่ใช่เพื่อนกันก็นึกว่าเป็นตุ๊ดเป็นเกย์ไปแล้วล่ะ
"เด็กชายนริศ สวัสดิ์จินดาเชิญที่ห้องตรวจ 2 ค่ะ" ประชาสัมพันธ์ประกาศเรียกเด็กชาย
"ริศไปแล้วนะครับ อาทิวรออยู่ตรงนี้นะครับ" นริศหันมาบอกแล้วรีบวิ่งไป
"555 สงสัยเจ้าริศคงจะชอบคุณหมอมากเลยนะเนี่ย" ทิวากรนั่งพึมพำคนเดียวหลังจากมองเด็กชายหายเข้าไปในห้อง
#ห้องตรวจ 2
"สวัสดีครับพี่หมอรุ้ง" เด็กชายเดินเข้ามาเสร็จรีบไหว้คุณหมอในดวงใจอย่างนอบน้อม
"สวัสดีน้องริศ วันนี้เป็นไงบ้าง แผลใกล้หายแล้วแต่ยังต้องฉีดยาอยู่นะ" คุณหมอดูแผลที่ขาของเด็กชาย
"น้องริศไม่อยากโดนหมากัดอีกแล้วครับพี่หมอรุ้ง เจ็บก็เจ็บ แถมยังต้องมาฉีดยาอีก" เด็กชายเริ่มบ่นให้คุณหมอฟัง "ขาของริศเป็นรอยฟันไอ้บ็อกบ็อกน่าเกลียดมากเลยครับ เพื่อนๆผู้หญิงที่โรงเรียยบอกว่ามันน่ากลัว"
"เดี๋ยวก็หายแล้วค่ะ วันนี้น้องริศมากับใครคะ" คุณหมอถามเด็กชายเพราะทุกครั้งจะมากับคุณย่าไม่ก็คุณอาเสมอ
"ริศมากับอาทิวครับ แต่ริศบอกให้อาทิวรอข้างนอก"
"อ้าว ทำไมบอกให้อาทิวรอข้างนอกล่ะคะ" คุณหมอสงสัย
"เดี๋ยวอาทิวล้อริศ" คุณหมอได้ยินสิ่งที่เด็กชายตอบก็อมยิ้มในความรู้มากของเด็กชาย
"พี่หมอว่าให้คุณอาเข้ามาดีกว่า เพราะพี่หมอต้องการผู้ช่วย" คุณหมอพูดขึ้นเพราะรู้ฤทธิ์เด็กชายตัวน้อยนี่เมื่อตอนฉีดยาให้เด็กชายครั้งแรก เขาร้องลั่นโรงพยาบาลแถมยังดิ้นไปมา เตะพยาบาลอีกต่างหาก เธอกับคุณย่าจึงออกอุบายหลอกให้เด็กชายสนใจสิ่งอื่นแล้วแอบฉีดยาให้ ในเข็มที่สองอาจไม่ค่อยได้ผลนัก แต่ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว
"แต่อาทิวเป็นทหาร ไม่ใช่พยาบาลนะครับ"
"พี่หมออยากให้อาทิวช่วยเรื่องง่ายๆนิดหน่อยค่ะ จะอาชีพไหนก็ช่วยได้ค่ะ" คุณหมอตอบแล้วยิ้ม
"งั้นริศช่วยพี่หมอเองก็ได้ครับ" เด็กชายตอบแล้วมองคุณหมอตาแป๋ว
"ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะน้องริศต้องโดนพี่หมอฉีดยา"
"งั้นให้อาทิวมาเป็นผู้ช่วยพี่หมอก็ได้ครับ" นริศตอบอย่างงอแง
"อาทิวอยู่หน้าห้องหรือเปล่าคะ เดี๋ยวพี่หมอจะออกไปเรียกอาทิวเอง" คุณหมอถามเด็กชายที่ดูไม่ค่อยเต็มใจจะตอบนัก
"อาทิวรออยู่หน้าห้องครับ" เด็กชายตอบแล้วชี้มือไปยังประตู คุณหมอมองตามแล้วขำท่าทางของคนไข้ตัวน้อย
"ค่ะ งั้นเดี๋ยวพี่หมอไปตามอาทิวก่อนนะ"
พูดจบคุณหมอคนสวยก็เดินออกมาหน้าห้องตรวจ "เอ๊ะ ตรงนี้ก็ไม่เห็นมีซะหน่อย" คุณหมอมองแถวหน้าห้องก็ไม่เห็นมีใคร
"ขอบคุณนะลูกที่ช่วยถือของ"
"ไม่เป็นไรครับคุณยาย" คุณยายกับผู้ชายร่างสูงในชุดเครื่องแบบทหารเดินเคียงคู่กันมา
"ขอบใจมากๆนะลูก เจริญๆนะพ่อคุณ" คุณยายบอกขอบคุณแล้วเดินออกไป
คุณหมอคนสวยแอบมองอยู่นาน จนคนถูกมองรู้สึกตัว "คุณหมอมีอะไรหรือเปล่าครับ" คนถูกมองถามขึ้น
"อ่อ คุณคืออาทิวหรือเปล่าคะ"
"ใช่ครับ"
"คุณทิวช่วยชวนน้องริศคุยตอนฉีดยาได้ไหมคะ พอดีว่าน้องริศค่ะกลัวเข็มฉีดยา" คุณหมอรุ้งอธิบายให้ทิวากรฟัง "ตอนครั้งแรกที่ฉีดยาให้น้องริศแกร้องลั่นโรงพยาบาลเลยค่ะ แถมยังเตะพยาบาลอีกต่างหาก เวลาคุณเหนือหรือคุณป้าพามาโรงพยาบาลก็จะหาเรื่องคุยกับน้องริศให้แกเผลอแล้วหมอค่อยฉีดยาค่ะ" คุณหมอรุ้งก็เล่าไปเถอะ ส่วนคนฟังน่ะหรอมองแต่หน้าคุณหมอ ไม่รู้ฟังอะไรเข้าไปบ้างไหม
"อ่อ ครับ" :)
"งั้นเชิญที่ห้องตรวจเลยค่ะคุณทิว" คุณหมอเงยหน้าขึ้นไปมองคนฟัง และคนฟังก็มองตอบ
'โอ๊ย นี่หมอหรือนางฟ้าวะ' ทิวากรคิดในใจเสียงดัง
'คนอะไรไม่มีมารยาทเลยมองอยู่ได้ หรือหน้าฉันมีอะไรติดอยู่เนี่ย' คุณหมอขมวดคิ้วเมื่อคิดว่าหน้าของเธอมีอะไรติดอยู่หรือคนตรงหน้าถึงได้มองอย่างนี้
"เชิญคุณทิวเข้าห้องตรวจเลยนะคะจะได้ไม่เสียเวลา" คุณหมอพูดขึ้นเหมือนกระชากคนตัวสูงออกจากความฝัน
"ครับผม" ทิวากรเดินตามรายรุ้งที่เดินเข้าไปในห้องแล้ว แต่สายตาคนตัวสูงจ้องมองป้ายชื่อคุณหมอที่ติดอยู่หน้าห้อง
'แพทย์หญิงรายรุ้ง แสงศิลป์'
"อาทิวครับ" เมื่อนริศมองเห็นทิวากรจึงเรียกขึ้นด้วยสีหน้าบึ้งตึง 'โถ่ คิดว่าจะได้อยู่กับพี่หมอรุ้งสองต่อสอง'
เด็กชายแก่แดดแก่ลมคิดในใจ
"แหม ริศเรียกอาทิวว่าอาทิวแล้วเรียกคุณหมอว่าพี่หมอหรอ ไม่ยุติธรรมเลย ริศต้องเรียกอาทิวว่าพี่ทิวสิ" เมื่อทิวากรเข้ามาในห้องก็เริ่มทำหน้าที่ของตนเองทันที
"อ้าว ทำไมล่ะครับ ริศเรียกอาทิวเพราะอาทิวเป็นเพื่อนอาเหนือ อาเหนือเป็นอาของริศ ก็เท่ากับว่าอาทิวเป็นอาของริศด้วย" เด็กชายเถียงอย่างไม่ยอมลดละ
"ไม่รู้ล่ะ ถ้าวันนี้เรียกอาทิวว่าพี่ทิว พรุ่งนี้จะมารับไปเลี้ยงไอติม" คนเจ้าเล่ห์ยื่นข้อเสนอให้เด็กน้อย
"จริงหรอครับ" เด็กชายถามกลับ
"จริงสิ พี่ทิวเคยโกหกด้วยหรอ" ทิวากรเปลี่ยนสรรพนามให้ตัวเองเสร็จสับ
"อาทิวเคยโกหกตั้งหลายครั้ง รถถังของริศที่อาทิวบอกว่าจะซื้อให้ ผ่านมาตั้งปีนึงแล้วริศยังไม่ได้เลย" ว่าแล้วเด็กชายก็ทวงรถถังของเขาทันที
"โอเคๆ ถ้าวันนี้ยอมเรียกว่าพี่ทิว พรุ่งนี้จะพาไปกินไอติม แล้วก็จะซื้อรถถังให้ด้วยตกลงไหม" -.-
นริศกับทิวากรคุยกันจนไม่รู้ว่าคุณหมอฉีดยาให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว แถมยังแอบฟังที่ทั้งสองคุยกันด้วย
"พี่ทิวครับพรุ่งนี้ไปรับริศที่โรงเรียนด้วยนะครับ" เด็กชายเปลี่ยนสรรพนามให้อาทิวเป็นพี่ทิว แถมยังอ้อนซะเสียงอ่อนเสียงหวาน
"ครับ" คนถูกเรียกว่าพี่คงรู้สึกเด็กลงเป็นกอง
"อ้าว พี่หมอรุ้งไม่ฉีดยาให้ริศแล้วหรอครับ" เด็กชายนึกขึ้นได้ว่าเขาต้องฉีดยานี่นา
"ฉีดเสร็จแล้วค่ะ" คุณหมอตอบ
"ฉีดยานี่ไม่เจ็บเลยเนอะอา เอ๊ย พี่ทิว" เด็กชายพูดโอ้อวดทันที
"งั้นก็ฉีดอีกสักเข็มดีไหม" ทิวากรพูดขึ้น
"ไม่ดีกว่าครับ กลับบ้านกันดีกว่าเนอะ ริศหิวข้าวจัง" เด็กชายอยากกลับบ้านขึ้นมาทันที เพราะกลัวจะโดยฉีดยาอีก
"งั้นผมกลับแล้วนะครับคุณหมอ" ทิวากรบอกกับคุณหมออย่างเขิ้ลๆ เขายังแปลกใจตัวเองอยู่ ร้อยวันพันปีไม่เคยรู้สึกกับใครได้มากขนาดนี้ หรือมันจะเป็นพรหมลิขิตอย่างที่เขาเคยพูดไว้จริงๆ
"อา เอ๊ย พี่ทิวทำไมต้องมองหน้าคุณหมอขนาดนั้นด้วยครับริศหวง" เด็กชายถามพร้อมกับเขย่าแขนอาทิว
"เปล่าซะหน่อย" คนโดนจับได้รีบเดินออกไปจากห้อง โดยไม่รอหลานเลย
"สวัสดีครับพี่หมอรุ้ง อาทิตย์หน้าเจอกันใหม่นะครับ" เด็กชายสวัสดีคุณหมอก่อนเดินออกจากห้อง แต่คนตัวสูงที่เดินออกจากห้องแล้วได้ยินคำพูดของเด็กชายก็หูพึ่งทันที 'อาทิตย์หน้าหรอ' :)
"พี่ทิว พี่ทิวห้ามจีบพี่หมอรุ้งนะ ริศจองแล้ว" เด็กชายที่เดินอยู่ข้างเขาพูดขึ้น
"55555 ครับๆ" คนฟังรับปากส่งๆ เจ้าแก่แดดเอ๊ย มาจงมาจองอะไรกันเล่า ตัวแค่นี้น่าหมั่นเขี้ยวจริงๆ