บท
ตั้งค่า

บทที่5 ชายชุดดำ

องค์ชายห้าไม่ต้องการที่จะเอ่ยถึงเรื่องระหว่างตนและตระกูลหลี่กับนาง เขาจึงขอตัวกลับไปก่อน หลังจากที่ชายหนุ่มออกจากจวนตระกูลหยวนไปแล้ว หยวนชิงหลิงกลับเข้าห้องปิดประตูขังตนเองเอาไว้ภายใน นางนอนลงบนเตียงด้วยท่าทางเลื่อนลอย

ภายในหัวเอาแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องหนังสือพระราชโองการแต่งตั้งที่ส่งมายังจวนตระกูลหยวนในเวลานั้น ฮ่องเต้คิดที่จะทำอะไรกับพวกตนกันแน่ หยวนชิงหลิงเดาทางชายชราผู้นั้นไม่ถูก

หลังจากที่ออกมาจากจวนจงหย่งโหว องค์ชายห้าก็แวะไปที่จวนตระกูลหลี่ก่อน เขาไปพบกับหลี่ฮั่วชางที่เดินทางกลับมาพร้อมขบวนคณะราชทูตแคว้นเซี่ย

“เสด็จพ่อว่าอย่างไรบ้างเกี่ยวกับรายงานจากสนามรบที่ท่านส่งไป ทางคณะทูตจากแคว้นเซี่ยได้แพร่งพรายเรื่องการตายของจงหย่งโหวหรือไม่”

รองแม่ทัพหลี่ส่ายหน้า

“ฝ่าบาทมิได้สงสัยอันใดพ่ะย่ะค่ะ จะพูดให้ถูกก็คือไม่สนใจซะมากกว่า ดูเหมือนพระองค์จะยินดีเสียด้วยซ้ำที่จงหย่งโหวเสียชีวิตที่สนามรบ”

องค์ชายห้ามีท่าทีครุ่นคิดเล็กน้อย

“แล้วแม่ทัพแคว้นเซี่ยผู้นั้นเล่า ท่านได้เห็นเขาหรือไม่ ท่านคิดว่าเรื่องที่จงหย่งโหวเสียชีวิตที่สนามรบ พวกเขาจะติดใจสงสัยด้วยหรือเปล่า”

รองแม่ทัพหลี่มีท่าทีลังเลเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยสิ่งที่อยู่ภายในใจออกมา

“องค์ชายห้าพ่ะย่ะค่ะ แม่ทัพแคว้นเซี่ยผู้นี้ลึกลับยิ่งนัก อย่าว่าแต่เห็นหน้าเขาเลย การเจรจาทั้งหมดก็เป็นขุนนางของทางแคว้นเซี่ยส่งมาหลังจากที่เราส่งสารขอสงบศึก ที่รู้มาคร่าวๆ ก็มีเพียงเขาเป็นบุรุษที่รูปร่างสูงใหญ่ วรยุทธล้ำลึกกลิ่นอายที่แผ่ออกมาสามารถกดดันให้ผู้คนไม่สามารถเข้าใกล้ได้ ความเหี้ยมโหดของเขานั้นน่าพรั่นพรึงแม้แต่กระหม่อมก็มิกล้าต่อกรกับเขาซึ่งหน้า”

องค์ชายห้าถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาวางแผนเรื่องนี้เอาไว้หลายปีจะให้ทุกอย่างพังลงตอนนี้ไม่ได้ จะให้เสด็จพ่อหรือใครก็ตามรู้เรื่องที่เขาวางแผนกับหลี่ฮั่วชางไม่ได้ ไม่อย่างนั้นอาจเป็นเขาที่ถูกเสด็จพ่อเพ่งเล็ง ในภายหน้าจะขยับตัวทำสิ่งใดก็คงลำบาก เพราะอยากนั้นเขาถึงกังวลว่าแม่ทัพเซี่ยผู้นี้จะทำให้แผนของเขาล่มหรือไม่ โชคดีจริงๆ ที่เขาไม่ได้เดินทางมาที่แคว้นฉินพร้อมกับคณะราชทูต

“ตามรายงานที่ท่านส่งให้ฝ่าบาทคือแม่ทัพหยวนถูกสังหารโดยแม่ทัพแคว้นเซี่ย แต่มีแค่เพียงไม่กี่คนที่รู้สาเหตุการตายของเขา ข้าต้องการให้ท่านทำให้เรื่องนี้ให้กลายเป็นความลับ ผู้ที่เกี่ยวข้องและรู้เห็นทั้งหมดให้กำจัดซะ”

รองแม่ทัพหลี่รับคำ ทั้งสองคุยกันอยู่ภายในห้องหนังสือเป็นเวลานาน ก่อนที่องค์ชายห้าจะออกจากจวนตระกูลหลี่และกลับไปยังตำหนักของตน

ในวังหลวง ขันทีหลู่ได้รายงานบรรยากาศการเคลื่อนขบวนศพของหยวนหมิงให้ฮ่องเต้ฉินฟังอย่างละเอียด หลังจากที่ฟังจบใบหน้าถมึงทึงก็แสดงความโกรธเกรี้ยวออกมา

“สารเลว ข้าต่างหากที่เป็นฮ่องเต้ เป็นโอรสสวรรค์ เป็นจ้าวชีวิตของพวกมัน ข้าเป็นเจ้าของแผ่นดินนี้ มิใช่หยวนหมิงนั่น ฮึ!!เขาตายไปซะได้ก็ดี ข้าจะได้ไม่ต้องคอยหวาดระแวงว่ามันจะกลับมาแว้งกัดข้าเมื่อใด”

ฮ่องเต้ฉินตวาดก้องออกมาเสียงดังอย่างเดือดดาล เป็นที่รู้กันดีว่าฝ่าบาทมิค่อยพอพระทัยในตัวของแม่ทัพหยวนเท่าใดนัก เพราะเขาแข็งทื่อเป็นก้อนหินและซื่อตรงยิ่งกว่าท่อนไม้ เมื่อเขาคิดสิ่งใดก็มักจะเอ่ยออกมาตรงๆ อย่างไม่เกรงกลัวพระราชอาญา

ยิ่งเขาเป็นที่รักใคร่นับถือของประชาชนแคว้นฉิน หยวนหมิงก็ยิ่งเหมือนเสี้ยนหนามที่คอยทิ่มตำเขาอยู่ทุกเวลา หลังจากที่ได้ข่าวว่าหยวนหมิงเสียชีวิตที่ชายแดน ฮ่องเต้ฉินแทบจะอยากจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองเจ็ดวันเจ็ดคืน

แต่เพราะยังทรงห่วงหน้าตาชื่อเสียงของราชวงศ์อยู่ และยังมีขุนนางบางส่วนที่ยังเห็นว่าชื่อเสียงของหยวนหมิงมีประโยชน์ เขาจึงไม่สามารถทำสิ่งใดได้ตามใจตนเองจนกระทั่งถึงตอนนี้

แต่อย่างน้อย เวลานี้เขาก็ได้แก้แค้นคืนหลังจากที่เจ้านั่นตาย โดยส่งบุตรสาวคนโตของมันให้ไปอยู่ในเงื้อมมือของผู้ที่ปลิดชีพมัน แค่คิดฮ่องเต้ฉินก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อย

กลางดึก หยวนชิงหลิงที่หลับไปเพราะอ่อนเพลียได้ตื่นขึ้นอีกครั้ง เพราะเสียงบางอย่างที่ดังอยู่ภายในห้องอย่างผิดปกติ นางคว้ามีดสั้นใต้หมอนขึ้นมาก่อนที่จะกำมันเอาไว้แน่น

ร่างบางพยายามปรับสายตาให้ชินกับความมืด ก่อนที่เดินด้วยฝีเท้าแผ่วเบาไปยังห้องแต่งตัวที่มีฉากกั้นเอาไว้ แสงสว่างจากดวงจันทร์ส่องลอดเข้ามาตามรอยแง้มของหน้าต่างทำให้นางเห็นเงาดำเลือนรางอยู่ที่มุมหนึ่ง

หยวนชิงหลิงเดินเข้าไปใกล้ ก่อนที่เงาดำนั้นจะวูบไหวเข้ามาหานาง ปฏิกิริยาการป้องกันตัวของนางทำงานขึ้นมาทันที หยวนชิงหลิงแทงสวนเจ้าเงาดำนั้นอย่างรวดเร็วก่อนที่มันจะมาถึงตัว แต่น่าเสียดายที่ทุกอย่างช้าไปเสียแล้ว

ร่างบางของนางถูกกระแทกอย่างแรงจนนางคิดว่าตนเองคงจะต้องบาดเจ็บแน่ แต่ผิดคาดนางกลับไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด แผนหลังของนางถูกแขนแข็งแรงของเงาดำประคองเอาไว้ มืออีกข้างของเขาจับแขนนางข้างที่ถือมีดสั้น เงาดำนั้นบีบข้อมือของนางไม่เบา ทำให้มีดสั้นเล่มนั้นหลุดออกไปก่อนจะหล่นลงที่พื้น

หยวนชิงหลิงเห็นว่าตนเองกำลังจะเสียท่า จึงคิดที่จะตะโกนให้คนที่เฝ้าอยู่ด้านนอกได้ยิน แต่ริมฝีปากอวบอิ่มก็ถูกความชื้นบางอย่างปิดกั้นเอาไว้ นะ....นี่!!นางกำลังถูกจูบอย่างนั้นหรือ หยวนชิงหลิงพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากพันธนาการ มือสองข้างของนางถูกจับยกขึ้นไปเหนือหัวด้วยมือของเขาเพียงข้างเดียว ด้วยสรีระที่ต่างกันทำให้นางต้องเขย่งเท้าตามความสูงนั้น

นี่เป็นจูบแรกในชีวิตของสตรีอย่างหยวนชิงหลิงทำให้นางมึนงงเล็กน้อย แต่เพราะความต้องการปกป้องตนเองมีมากกว่าริมฝีปากของนางจึงเม้มแน่นจนปิดสนิท เสียงหึดังขึ้นเบาๆ เงาดำนั้นดูเหมือนจะไม่พอใจเล็กน้อย เขาขบที่ริมฝีปากล่างของนางแรงๆ ทำให้นางเจ็บจนต้องเผยอออก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel