ทวงแค้นข้ามกาลเวลา

140.0K · จบแล้ว
ชาไทยเย็น
69
บท
42.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

นางถูกคนที่นางรักสั่งฆ่า ความแค้นนี้ทำให้นางหวนกลับมาในร่างของบุตรหมอหลวงที่อ่อนแอซึ่งถูกงูพิษกัดตายจนได้พบกับซื่อจื่อที่ถูกเขาตามฆ่า "กล้าคิดร้ายกับซื่อจื่อ ข้าจะฆ่าท่านด้วยตัวของข้าเอง!!"

นิยายจีนโบราณท่านอ๋องพลิกชีวิตนางเอกเก่งเกิดใหม่จีนโบราณพระเอกเก่งเกิดใหม่ในนิยาย

ตอนที่ 1 หวนคืนอีกครา....

“หากข้ามีโอกาสหวนคืนอีกครั้ง ข้าจะไม่มีวันให้อภัยท่าน!!”

เขาลั่วซาง นอกเมืองหยางโจว

“เฮือก….แคก แคก….ที่นี่….คือที่ใด”

“คุณหนู!! ท่านอยู่ที่นี่เองหรือเจ้าคะ ตายจริง!! ท่านถูกงูกัดหรือเจ้าคะ”

“งูกัด? คุณหนูงั้นหรือ เจ้าเป็นผู้ใดกัน”

“คุณหนูเจ้าคะ นี่ข้าเองอาหยงอย่างไรเจ้าคะ คุณหนูท่านช่างใจแข็งนัก แม้ว่าท่านจะมีปากเสียงกับนายท่านแต่ก็ไม่ควรใจร้อนหนีมาอยู่ในป่านี้เพียงลำพังนะเจ้าคะ ข้าแอบหนีตามท่านออกมาเจ้าค่ะ นึกไม่ถึงว่าท่านจะมีสภาพเป็นเช่นนี้ นี่พึ่งจะสิบวันเองที่ท่าน….”

“โอ๊ย!! อย่าพึ่งพูด พยุงข้าก่อนแล้วค่อย ๆ เล่า”

“ไป๋ซูเม่ย” รู้สึกว่าขานางได้รับบาดเจ็บแต่ในตอนนี้เริ่มดีขึ้นมาแล้ว แม้ว่าจะยังจับต้นสายปลายเหตุไม่ได้ แต่ดูจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้าในยามนี้ …..นางทำสำเร็จแล้ว

ก่อนหน้านี้

“อิ่นหลง ยอมแพ้เสียเถอะเจ้าไม่มีทางรอดแล้ว”

“พวกเจ้าเคยเป็นคนของข้า!!….เหตุใด…..”

“ขออภัย เงินผู้ใดให้มาข้าก็รับใช้คนผู้นั้น “อิ่นหลง” ต้องโทษที่เจ้ารักคนที่ไม่ควรรักจึงทำให้เกิดเรื่อง หากว่าเจ้ายังอยู่ องค์ชายสี่ไม่มีทางมีความสุข”

“แต่ข้า!! ข้าเป็นคนช่วยชีวิตเขา เป็นองครักษ์ข้างกายที่ซื่อสัตย์ของเขามาโดยตลอด ทำไม…ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะ….”

นางถูกตัดแขนข้างที่ใช้ดาบได้ไปแล้ว บัดนี้ตรงหน้าคือนักฆ่าที่นางฝึกมากับมือและพาเข้าวังเพื่อเป็นองครักษ์ติดตามขององค์ชายสี่ ด้านหลังคือหน้าผาสูงชันความลึกมิอาจคาดเดาได้

“หากว่าข้าจะต้องตาย ข้าไม่มีทางปล่อยให้พวกเจ้าทำได้ พวกเจ้ามัน…ไม่มีค่าพอ”

“อิ่นหลง!!”

นางได้ยินเสียงที่เรียกนางเป็นเสียงสุดท้ายก่อนที่จะทิ้งร่างที่เหลือลงไปในเหวลึก ความเย็นของม่านหมอกที่ปกคลุมร่างของนางแทบจะไร้ความรู้สึก

"หากเป็นไปได้ ถ้าสวรรค์จะเมตตาข้าอีกสักคราถ้าหากข้ามีโอกาสได้กลับมา ข้าจะแก้แค้นพวกเจ้าให้หมดทุกคน “องค์ชายสี่เสวียนอวี่” ….ข้าจะไม่มีทางอภัยให้ท่านเป็นอันขาด!!”

กระท่อมไม้ไผ่

นางเองก็ไม่เข้าใจว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับนาง ครั้งสุดท้ายที่จำได้คือนางกระโดดหน้าผา แต่กลับตื่นขึ้นมาในร่างของสตรีที่บอบบางแต่ดูมีความรู้เพราะสิ่งที่นางทิ้งไปเป็นเพียงวิญญาณแต่ความรู้ความสามารถของนางยังอยู่

“อิ่นหลง” นักฆ่าและองครักษ์ที่เก่งที่สุดในแดนมืดแห่ง “หอหลัวต๋า” สำนักฆ่าอันดับหนึ่งในใต้หล้าที่มาสวมร่างของสตรีบอบบางในตอนนี้กำลังมองไปยังใบหน้าของสาวใช้อายุน้อยอีกคนที่พยายามเช็ดตัวและทำแผลให้กับนางอยู่

“นึกไม่ถึงว่านายท่านจะใจร้ายถึงเพียงนี้ ให้ท่านมาอยู่ที่นี่เพียงแค่จะรับอนุคนใหม่ ฮือ…คุณหนู ไม่ต้องกลัวนะเจ้าคะต่อไปอาหยงจะอยู่กับคุณหนูเอง”

“เจ้า…เอ่อ อาหยง เจ้าบอกว่าข้า….”

อาหยงเล่าให้นางฟังว่านางคือ “ไป๋ซูเม่ย” เป็นบุตรสาวของท่านหมอหลวง “ไป๋เหลียน” นางเป็นทั้งสาวงามอันดับหนึ่งในหยางโจว อีกทั้งมีความรู้ความสามารถรอบด้านทั้งเรื่องการรักษาที่เก่งไม่ต่างกับบิดา ครั้งนี้นางกับบิดาทะเลาะกันอย่างรุนแรงเรื่องที่เขาจะรับอนุเข้ามาในจวน นางจึงตัดสินใจออกจากจวน

“เช่นนั้นเขาก็มิได้ไล่ข้าออกมา เป็นข้าที่ออกมาเอง”

“ที่นี่…เป็นที่ที่ท่านร่ำเรียนวิชาแพทย์สมุนไพรกับอาจารย์หมอเทวดาเมื่อสามปีก่อนเจ้าค่ะ ท่านจำไม่ได้เลยหรือเจ้าคะ เจ้างูนี่มีพิษทำให้ท่านความจำเสื่อมหรือไม่เจ้าคะ”

“เอ่อ....อาจจะเป็นเช่นนั้นข้าคิดว่าอาจจะทำให้ข้าหลงลืมบางเรื่อง ว่าแต่ที่นี่คือนอกเมืองหยางโจวงั้นหรือ”

“ใช่เจ้าค่ะ แม้จะอยู่นอกเมืองค่อนข้างไกลแต่ก็ยังมิใช่เมืองฉินโจว เมืองหลวงของแคว้นฉินเจ้าค่ะ”

“แล้วที่นี่มีผู้ใดปกครองอยู่ เมืองหยางโจว…หรือว่าจะเป็น…ท่านอ๋อง “เว่ยฉางรุ่ย” ผู้เป็นหนึ่งในสามแม่ทัพรักษาแคว้นฉิน”

“ใช่เจ้าค่ะ คุณหนูท่านไม่เคยสนใจเรื่องในราชสำนัก ท่านรู้จักท่านอ๋องเว่ยได้เช่นไรเจ้าคะ”

“อ่อ…เอ่อ…เคยได้ยินท่านพ่อพูดถึงน่ะ”

“นายท่านเป็นห่วงคุณหนูแต่ก็ไม่ออกตามหา เหตุใดพวกท่านไม่คุยกันดี ๆ เจ้าคะ ข้าเองก็รู้ว่านายท่านเป็นห่วงมิเช่นนั้นคงมิทำเป็นหลับตาทำเป็นมองไม่เห็นว่าข้าตามคุณหนูออกมา”

นางไม่ได้ฟังที่สาวใช้พูดเลย “อิ่นหลง” ในร่างของ “ไป๋ซูเม่ย” กำลังเดินวนไปมาและคิดทบทวนบางอย่าง นางตายแล้วครั้งหนึ่ง แขนขวานางถูกตัดก่อนตายแต่บัดนี้แขนนางยังมีอยู่ครบทั้งสองข้าง เช่นนั้นแล้ววรยุทธ์ของนางเล่า….

“เพล้ง!!”

“กรี๊ด!! มีหนูแน่ ๆ คุณหนูข้าจัดการเองเจ้าค่ะ”

อาหยงคว้าไม้กวาดที่ปลายบานแล้วขึ้นมาด้วยตัวที่สั่น แม้ว่านางจะกลัวแต่ก็พยายามปกป้องคุณหนูของนางอย่างเต็มที่จนทำให้อิ่นหลงอดขำกับท่าทีน่าเอ็นดูนั้นมิได้ ในชาติก่อนนางไม่มีเพื่อนที่เป็นสตรีเลยแม้แต่คนเดียว

“อาหยง ไม่มีอะไรหรอกขวดนั่นตั้งอยู่ใกล้หน้าต่าง พอโดนลมพัดมันจึงตกแตกก็เท่านั้นเจ้าแค่เก็บกวาดไปก็พอ”

“จะ…เจ้าค่ะ”

แม้ว่าจะเป็นสตรีแต่อิ่นหลงก็อุ่นใจที่มีอาหยงมาอยู่เป็นเพื่อนในยามนี้เพราะนางแทบจะไม่รู้เรื่องของไป๋ซูเม่ยผู้นี้เลย ในเมื่อสวรรค์ให้โอกาสนางที่จะกลับมา เช่นนั้นนางจะไม่ยอมปล่อยโอกาสเช่นนี้ไป

“คุณหนู นั่นท่าน…จะไปที่ใดเจ้าคะ”

“ข้าจะออกไปเดินเล่นข้างนอกหน่อย ที่นี่ก็ฝากเจ้าเก็บกวาดและทำความสะอาดเสียหน่อยนะ เจ้าก็เห็นว่าข้าทำได้ไม่ดีเท่าใดนัก”

“รับทราบเจ้าค่ะคุณหนูไม่ต้องห่วงนะเจ้าคะ ข้านำผักและอาหารมาอีกมากมายเลยข้าทำความสะอาดตรงนี้เสร็จแล้วจะรีบทำอาหารอร่อย ๆ ให้ท่านกินเจ้าค่ะ”

“อืม ลำบากเจ้าแล้ว”

“คุณหนูเจ้าคะ!!”

อาหยงเรียกนางด้วยน้ำเสียงตกใจ ไป๋ซูเม่ยหันไปมองหน้านางที่ยืนตัวสั่นหน้าซีดอยู่ด้านหลัง

“มีอะไรงั้นหรือ”

“นะ…นั่น…นั่นมัน….มะ…มะ…แมงมุม….”

ซูเม่ยหันไปเห็นแมงมุมพิษสีดำที่น่าจะหลุดมาจากที่ไหนสักที่ในห้องนี้ เป็นปกติเพราะมันชอบอยู่ตามที่รกร้างเช่นนี้ ไป๋ซูเม่ยใช้นิ้วนี้ชี้ไปที่มัน พลังปราณของนางทำให้แมงมุมพิษนั่นแข็งทื่อไปในทันที มันตกลงพื้นและแน่นิ่งไปจนสาวใช้กรีดร้อง

“เจ้าไม่ต้องร้อง มันตายแล้ว”

“ตะ…ตายแล้ว…เป็นไปได้เช่นไรเจ้าคะเมื่อครู่นี้มันยังไต่อยู่ที่ด้านหลังของคุณหนู….”

“ไม่เชื่อเจ้าก็ดูสิ”

อาหยงหันไปมองแมงมุมที่แน่นิ่งหงายท้องแต่นางกลับแปลกใจมากกว่านั้นคือการที่ไป๋ซูเม่ยที่ปกติแล้วกลัวแมงมุมทุกชนิดเดินเข้ามาและใช้ผ้าจับแมงมุมนั้นขึ้นมา

“ทะ…ท่าน…คุณหนู ท่านไม่กลัวมันหรือเจ้าคะ”

“อ้อ…เอ่อคือ….การอยู่ด้วยตัวเองทำให้ข้า…เลิกกลัวน่ะ แมงมุมนี่พิษร้ายกาจนัก เอามาปรุงยาพิษได้เอาขวดโหลมาเก็บมันเอาไว้ก่อน”

“ยะ…ยาพิษงั้นหรือเจ้าคะ คุณหนูเจ้าคะเราปรุงแต่ยารักษาโรคมิใช่หรือเจ้าคะเหตุใด….”

“อาหยง….บนโลกใบนี้ไม่ได้มีเพียงยาที่เอาไว้รักษาโรคอย่างเดียวหรอกนะที่ช่วยผู้อื่นได้ ยาพิษก็ช่วยคนได้เช่นกัน”

“ช่วยได้งั้นหรือเจ้าคะ ช่วย….เช่นไรเจ้าคะ”

“ก็….ช่วยให้พวกเขาตายเร็วขึ้น จะได้ไม่ทรมานอย่างไรเล่า”