Chapter 1 หญิงเปลือยกลางป่า 2
“ระ...รั่วอิง”
จะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อ ‘เจิ้งรั่วอิง’ เมียรักได้เสียชีวิตไปถึงสี่ปีแล้ว หากนางยังมีชีวิตอยู่ปีนี้นางคงอายุยี่สิบเอ็ดปี ทว่าหญิงตรงหน้ากลับมีใบหน้าละอ่อนราวกับเพิ่งพ้นวัยปักปิ่นมาได้ไม่นาน
แค่คนหน้าเหมือน!
แต่เหตุใดจึงเหมือนราวกับคนคนเดียวกันเช่นนี้!
“เฮ้ย! ถอยไปสิวะ เกะกะ!”
เมื่อเห็นว่าคุณชายหน้าใสเอาแต่ยืนนิ่ง โจรหื่นกามหมายจะฉุดคร่าหญิงสาวก็ตรงเข้าผลักแรงๆ ที่อกของอีกฝ่ายเพื่อให้หลีกทาง
“ปล่อยนาง!”
ถิงเว่ยกัดฟันกรอดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีทางยอมเจรจาแน่ เขาก็ผิวปากสั่งให้ลูกน้องนับยี่สิบคนกรูกันเข้ามาพร้อมอาวุธครบมือ
“ปล่อยนางเดี๋ยวนี้!”
เขาออกคำสั่งดังลั่น ยื่นปลายดาบไปยังพวกมันฉายชัดว่าเขาเอาจริงและจะไม่ออมแรงอย่างเด็ดขาด โจรที่รอคอยจังหวะนี้มานานแล้วก็แสร้งทำท่าตกใจกลัวเมื่อเห็นจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่าตัว รีบทิ้งหญิงสาวลงกับพื้นแล้ววิ่งหนีหัวซุกหัวซุน
“แม่นางเป็นอย่างไรบ้าง”
ชายหนุ่มรีบถอดเสื้อตัวนอกสีน้ำเงินครามของตนเองออกแล้วห่อคลุมเรือนร่างเกือบโป๊เปลือยเอาไว้อย่างเบามือ นางตัวสั่นราวกับลูกนกตกน้ำ ดวงตาแดงช้ำอย่างคนที่ร้องไห้มาอย่างหนักหน่วง ริมฝีปากอิ่มสั่นระริกจนหัวใจของเขาปวดร้าว
“ขะ...ข้ากลัว”
นางตอบออกมาเพียงเท่านั้นก่อนจะซุกหน้าเข้าหาอกกว้างราวกับต้องการที่ป้องกันภัย
คุณชายหกแห่งตระกูลเหวินเห็นว่านางบอบช้ำและยังคงไม่พร้อมที่จะตอบคำถาม เขาจึงค่อยๆ ประคองร่างของนางขึ้นอุ้ม แล้วตรงไปยังเกวียนขนาดใหญ่ที่เขาตกแต่งไว้คล้ายเกี้ยว คือมีหลังคาและฉากผ้าปิดกั้นเป็นสัดส่วน ซึ่งเขาทำไว้สำหรับนอนพักระหว่างการเดินทางขนส่งสินค้าระหว่างแคว้นที่กินระยะเวลายาวนานนับเดือน
ฮึก ฮึก...
เสียงสะอื้นฮักทำให้ชายหนุ่มไม่กล้าที่จะปล่อยอ้อมแขนที่โอบกอดนางเอาไว้ จึงยังคงนั่งอยู่ข้างๆ เช่นนั้นด้วยความรู้สึกที่หลากหลายประดังเข้ามาราวกับคลื่นยักษ์โถมเข้าหาชายฝั่ง
‘เหมือนเหลือเกิน นางเหมือนเมียรักที่ตายไป เหมือนกระทั่งกลิ่นกายที่อบอวลอยู่ปลายจมูกเขาในเวลานี้’
น้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวยในเวลานี้หาได้มาจากการเสแสร้งแกล้งทำ แต่มันคือน้ำตาแห่งความคิดถึง และความอาลัยรักที่มีต่อสามี
ชาติก่อนนั้นนางเห็นสามีเป็นดั่งผืนฟ้า เขาคือชีวิต คือลมหายใจ คือเลือดเนื้อในกายทุกหยาดหยด
การที่หญิงสาวบ้านนอกไม่มีความรู้ได้แต่งงานกับคุณชายมีชาติตระกูลนั้นเป็นความฝันที่เกินเอื้อม ชีวิตของนางเหมือนถูกจับพลิกหงายขึ้นสูงโดยไม่ทันตั้งตัว
นางถูกยกให้เป็น ‘ฮูหยินเอก’ ทั้งที่ไม่มีตระกูลใหญ่หนุนหลัง แต่เพราะความรักที่สามีหยิบยื่นให้และพร้อมจะกางแขนปกป้อง จึงไม่อาจมีใครคัดค้านการแต่งงาน
การเมืองในจวนสกุลเหวินร้อนระอุเมื่อชายหนุ่มมีอนุภรรยาที่มารดาจัดหามาให้ถึงแปดนาง แน่นอนว่าเป็นการได้มาโดยที่เขาไม่สมัครใจ แต่จำต้องรับไว้เพราะเป็นการขอร้องแกมบังคับของมารดา
อนุภรรยาเหล่านั้นไม่เคยได้รับความรัก ไม่เคยได้รับการยกย่องจากชายหนุ่ม จึงก่อเกิดความริษยาชิงชังและหาทางรังแกนางลับหลังทุกครั้งที่มีโอกาส