บทย่อ
ชาตินี้ข้ากลับมาเพื่อทวงคืนความยุติธรรม และทวงสามีคืน! จะเป็นคนดีไปทำไมถ้าต้องตาย ข้าจะร้ายให้พวกเจ้าจดจำ! “ชั่วชีวิตของข้า พบเจอแต่ความโชคร้ายมานับไม่ถ้วน ท่านพี่นับเป็นสิ่งเดียวที่ข้ารู้สึกว่าตนเองนั้นโชคดีที่ได้ถือกำเนิดขึ้นบนโลกใบนี้” นางพึมพำแผ่วเบา ก่อนจะใช้มือโอบสายน้ำขึ้นมาแล้วปล่อยให้หยาดน้ำใสไหลผ่านนิ้วมือตกลงกระทบผืนน้ำ แสงเจิดจ้าจากดวงอาทิตย์ยามอู่ ลอดผ่านม่านน้ำตกเข้ามา กระทบลงบนพื้นผิวน้ำจนเป็นประกายระยับจับตา รั่วอิงดำลงไปในน้ำอีกครั้ง นางแหวกว่ายดำผุดราวกับเงือกสาว งดงามจนนักถ้ำมองตัวฉกาจถึงกับไม่อาจละสายตา “เมียข้าช่างงามกว่าใคร” เหวินถิงเว่ยพึมพำออกมาราวกับคนละเมอใหลหลงในความงามของภรรยาดั่งเด็กหนุ่มเพิ่งหัดริลองรักก็ไม่ปาน หัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าแหวกว่ายในสายธารา ในขณะที่แกนกลางกายของเขาชี้โด่จนเป้ากางเกงตุงคับแน่นไปหมด ชายหนุ่มกัดสันกรามจนปูดโปน กดข่มความกระสันซ่านเอาไว้อย่างสุดความสามารถ แต่... ข้าจะอดทนไปทำไมกันเล่า! ก็นั่นเมียข้า ข้าจะกอดจะปล้ำเมียมันจะเป็นอะไรไป! พระเอกรักเดียวใจเดียว ไม่มีฮาเร็ม ️ แนวจีนนัวเนีย
Chapter 1 หญิงเปลือยกลางป่า 1
เปลือกตาปิดสนิทเผยให้เห็นเพียงขนตางามงอนเป็นแพสวย ริมฝีปากเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง เงี่ยหูฟังเสียงฝีเท้าของม้านับสิบ เสียงล้อเกวียนลากสินค้านับร้อย อีกทั้งเสียงพูดคุยจอแจของคนกลุ่มใหญ่ที่กำลังมุ่งหน้าตรงมายังจุดที่นางแอบซุ่มอยู่
ตึก! ตึก! ตึก!
หัวใจเจ้ากรรมเต้นแรงจนแทบกระโจนออกมานอกอก นางเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างเชื่องช้าเผยให้เห็นดวงตากลมโตราวกับดวงตาของกวางป่า ประกายตาวาววับวูบไหวราวกับมีหยาดโลหิตเจืออยู่
“ท่านพี่...”
ริมฝีปากหยักได้รูปขยับช้าเอื้อนเอ่ยเรียกหาคนที่กำลังมุ่งหน้ามากับขบวนคาราวาน คนที่นางเฝ้าคิดถึงตลอดสี่ปีที่ผ่านมา คิดถึงจนแทบขาดใจ
“ข้าคิดถึงท่านพี่เหลือเกิน”
นางยกมือข้างหนึ่งขึ้นกุมที่อกข้างซ้าย กุมแน่นก่อนจะจิกเล็บลงบนเนื้อผ้าแล้วสะบัดแรง
แคว้ก!
เสื้อผ้าขาดวิ่นจนเห็นเนื้อเนินอกขาวอวบ มือเล็กเลื่อนลงต่ำฉีกทึ้งในส่วนของกระโปรงและกางเกงตัวในจนเผยให้เห็นเรียวขาขาวนวลเนียนสะดุดตา
ฮี่! ฮี่! ฮี่!
เสียงม้าใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา เสียงล้อลากเกวียนนับร้อยกระทบกรวดหินและผืนดินที่แห้งระแหงดังราวกับแผ่นดินจะเลือนลั่น
นางหันไปมองชายท่าทางกักขฬะที่ยืนอยู่ด้านหลัง พวกเขากำลังมองมายังนางด้วยความเคารพนบนอบ ริมฝีปากสวยหยักยิ้มน้อยๆ คล้ายหัวเราะอยู่ในลำคอ ก่อนจะพยักหน้าส่งสัญญาณบางอย่างให้ชายทั้งสาม
“กรี๊ด!”
จู่ๆ นางก็หวีดร้องเสียงดัง ก่อนจะวิ่งออกไปจากที่หลบซ่อน ทรุดกายลงนั่งกับพื้นถนน ใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา ดวงตาคู่สวยแดงก่ำ ไหล่บางสั่นเทิ้มสะอึกสะอื้นราวกับกำลังหวาดผวา
“คิดเหรอว่าจะหนีพวกข้าพ้น!”
เสียงเหี้ยมกอปรกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครารุงรัง ดวงตาจ้องเขม็งมอง ก่อนจะแลบลิ้นเลียริมฝีปากไปมา แล้วกระโจนเข้ากอดรัดปลุกปล้ำหญิงสาวเคราะห์ร้ายอย่างป่าเถื่อน
“อย่านะ! ได้โปรดปล่อยข้า!”
หญิงสาวหวีดร้องจนตัวสั่น สองมือทุบตีด้วยพละกำลังอันน้อยนิด ทว่าพวกมันกลับฉีกทึ้งเสื้อผ้าส่วนที่เหลือของนางอย่างไม่ไยดี
แคว้ก!
กรี๊ด!
เสียงกรีดร้องของนางดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ชายคนหนึ่งซึ่งร่างสูงใหญ่ที่สุดจัดการต่อยเข้าที่ท้องน้อยของหญิงสาวเต็มแรง
อั๊ก!
นางทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นอย่างสิ้นไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืน ทว่าน้ำตายังคงไหลเป็นสายด้วยความหวาดกลัวจับขั้วหัวใจ
มันตรงเข้าอุ้มนางขึ้นพาดบ่าอย่างผู้กำชัยชนะ ทว่าจังหวะนั้นเองที่ขบวนคาราวานของพ่อค้ามาถึง พร้อมกับชายคนหนึ่งที่กระโจนลงจากหลังม้าพร้อมกับดาบในมือ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
“เฮ้ย! ไอ้หน้าจืด แม่นางคนนี้เป็นของข้า เจ้าอย่าแส่หาเรื่องเจ็บตัวเลยดีกว่า”
ชายท่าทางกักขฬะแลบลิ้นเลียที่ปลายดาบ ก่อนจะจ่อดาบไปที่ลำคอของตนเองอย่างข่มขู่
“คะ...คุณชาย ดะ...ได้โปรดช่วยข้าด้วย”
หญิงสาวพยายามเงยหน้าขึ้นแล้วส่งเสียงสั่นเครือออกไป จังหวะที่เหวินถิงเว่ยได้สบตากับหญิงสาวเคราะห์ร้ายราวกับโลกทั้งใบได้หยุดนิ่ง หัวใจดุจน้ำแข็งที่ด้านชามากว่าสี่ปีกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง