ตอนที่3 ไม่ได้พิศวาส
เสียงมะลิวัลย์ร้องลั่น เธอตกใจไม่น้อยที่จู่ ๆ ชายหนุ่มก็เข้ามาประชิดตัวของเธอ แถมยังยกแขนขึ้นมากอดรัดร่างกายของเธออีกด้วย ยิ่งเห็นคนตัวเล็กดีดดิ้นมากเท่าไหร่ คณากรก็ยังได้ใจ เขากอดร่างบางแน่นกว่าเดิม ใบหน้าหล่อเหลาเลิกคิ้วสูงขึ้นเล็กน้อย ไม่คิดว่าภายใต้เสื้อผ้าเก่า ๆ ที่มะลิวัลย์สวมใส่จะซ่อนความนุ่มนิ่มเอาไว้ ยามที่ร่างกายของเขาเบียดเสียดทำให้รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง บางอย่างที่มันดูโตเกินวัยเสียจริง
คนตัวเล็กน้ำตาเริ่มคลอเบ้า เมื่อท่อนแขนของชายหนุ่มกอดรัดเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย เหมือนยิ่งเธอดิ้นเขาก็ยิ่งกอดเธอ เด็กสาวที่ไม่เคยใกล้ชิดกับบุรุษเพศมาก่อนก็ยิ่งหวาดกลัวขึ้นมา คณากรเห็นใบหน้าสวยที่ในยามนี้มีน้ำหยดใสเอ่อล้นเบ้าตา เขาก็ยิ่งสะใจที่ได้แกล้งหญิงสาว ใบหน้าหล่อเหลาค่อย ๆ โน้มเข้ามาใกล้ ทำให้มะลิวัลย์รีบเบี่ยงหน้าหันไปอีกทางทันที เธอรู้ว่าคนที่มีสามีต้องมีหน้าที่อะไรบ้าง เธอเคยได้ยินเพื่อน ๆ ที่มีแฟนเล่าให้ฟัง แต่ทว่าเรื่องแบบนี้คนตัวเล็กยังไม่ได้ทำใจเลย เธอยังไม่พร้อมที่จะมีอะไรกับผู้ชายคนนี้
“ฮึกฮือ คุณกรอย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ หนูยังไม่พร้อม” มะลิวัลย์จำต้องอ้อนวอนอีกฝ่ายให้เห็นใจตน แต่ทว่าสิ่งที่หญิงสาวเผยออกมาสร้างความขบขันให้แก่ชายหนุ่มไม่น้อย เสียงหัวเราะของคนร่างสูงที่ดังออกมา ทำเอาคนตัวเล็กหันกลับไปมองทันที
“เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรเธอ? บอกตามตรงเอาไม่ลงวะ!” เขาพูดพร้อมเผยแววตาชิงชังออกมา เขาไม่ได้พิศวาสเธอจนถึงขั้นจะหลับหูหลับตาทำอะไรได้หรอกนะ อย่างมะลิวัลย์น่ะเหรอ ไม่ได้อยู่ในสเป็กผู้หญิงของเขาเลยสักนิด
“อย่าหลงตัวเองหน่อยเลย ผู้หญิงอย่างเธอต่อให้แก้ผ้ายืนอยู่ตรงหน้า ฉันยังไม่อยากจะมองให้เสียลูกตา!” แรงของชายหนุ่มที่ผลักร่างบางอรชรให้ออกห่าง ก่อนจะใช้แววตาดูถูกคนตัวเล็ก จนหญิงสาวที่ในตอนนี้สะอึกกับคำพูดของอีกฝ่ายอยู่ก็ถึงกับนิ่งเงียบไปทันที
“ปิดไฟจะนอนแล้ว อ๋อ ส่วนเธอนอนข้างล่าง!” เมื่อได้ยินอย่างนั้นคนตัวเล็กก็รีบเดินไปหยิบหมอนมานอนที่พื้นอย่างที่อีกฝ่ายบอก นอนตรงนี้ก็ดีเหมือนกัน เธอเองก็ไม่อยากจะนอนกับเขาเสียหน่อย คนอะไรปากร้ายชะมัด
หญิงสาวพยายามข่มตานอน เธอไม่อยากคิดถึงอะไรอีกแล้ว วันนี้เธอเหนื่อยมากแล้วจริง ๆ แต่ทว่าความเหงาในหัวใจ บวกกับที่ไม่ชินที่ชินทางทำให้คนตัวเล็กนอนไม่หลับ เพียงแค่คืนแรกเขาก็แกล้งเธอแล้ว ต่อไปชีวิตเธอจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ในบางครั้งหญิงสาวก็อยากจะยอมแพ้ ล้มเลิกทุกอย่าง แต่ความฝันที่เธอใฝ่ฝันเอาไว้ ทำให้มะลิวัลย์จำต้องอดทนต่อไป
‘ทนหน่อยนะมะลิ ทนอีกนิด’
เช้าของอีกวัน
ร่างบางอรชรบิดไปมา ก่อนจะกะพริบตาปริบ ๆ คนตัวเล็กงัวเงียลุกขึ้นนั่ง แต่ทว่าความปวดเมื่อยตามร่างกายทำเอาใบหน้าสวยเหยเกออกมา เมื่อคืนหนาวก็หนาว ผ้าห่มก็ไม่มี จนทำให้คนตัวเล็กไปเอาผ้าขนหนูมาห่มแก้หนาว ไม่รู้ว่าคณากรร้อนหรือแกล้งเธออีกกันแน่ ถึงเปิดเครื่องปรับอากาศอุณหภูมิตั้งสิบแปดองศา ทำเอาหญิงสาวแทบอยู่ไม่ได้
“ตื่นแล้วก็ลุก นอนกินบ้านกินเมืองอยู่ได้!” เสียงเข้มที่เดินออกมาจากห้องน้ำพูดกระแนะกระแหนมะลิวัลย์แต่เช้า คนตัวเล็กหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดดูเวลาที่ตอนนี้เพิ่งหกโมงเช้า เขาพูดเหมือนเธอตื่นสายอย่างนั้นแหละ
“ฉันจะพาไปทำเรื่องย้ายโรงเรียน อ๋อ ที่พาไปเพราะคุณแม่ ฉันไม่ได้อยากไปด้วยซ้ำ รีบแต่งตัว อย่าทำให้ฉันเสียเวลา เพราะพรุ่งนี้ฉันจะกลับเชียงใหม่ ไม่มีเวลามารอเธอ เข้าใจไหมมะลิวัลย์?”
“ช่วงนี้ใกล้ปิดเทอมแล้ว หนูไปทีหลังไม่ได้เหรอคะ อยากอยู่ที่นี่กับยายก่อน” เธอบอกอย่างอ้อนวอนชายหนุ่มที่ทำหน้ายักษ์ใส่เธออยู่ อีกตั้งหลายวันถึงจะเปิดภาคเรียนใหม่ อีกอย่างยายของเธอก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาล เธออยากดูแลยายของเธอก่อน ยังไม่ได้ทำใจเลยที่ต้องแยกจากยายไปอยู่ที่อื่น ถึงคุณหญิงผกาแก้วจะรับปากว่าจะดูแลยายเธอให้ดีที่สุด แต่หญิงสาวก็ยังทำใจจากยายของเธอไม่ได้จริง ๆ
“อย่าเรื่องมากได้ไหม แค่นี้ชีวิตฉันก็เสียเวลาเพราะเธอมามากแล้วนะ บอกให้ทำอะไรก็ทำ อย่าขัดคำสั่ง” มะลิวัลย์เผยสีหน้าเศร้าออกมาเมื่อได้ยินอย่างนั้น เธอคงต้องไปพรุ่งนี้จริง ๆ สินะ
หลังจากที่จัดการเรื่องโรงเรียนของมะลิวัลย์เสร็จ ชายหนุ่มก็จะกลับมาที่เชียงใหม่เลย ตลอดการเดินทางหญิงสาวใบหน้าสวยเอาแต่น้ำตาซึมตลอด จนทำให้ใครต่อใครก็อดที่จะหันมามองหญิงสาวไม่ได้เลย
“นี่ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยเดี๋ยวใครต่อใครก็คิดว่าฉันจับตัวเธอมาหรอก!” คณากรเอ่ยบ่นออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ มะลิวัลย์เม้มริมฝีปาก เธอพยายามแล้ว แต่มันอดไม่ได้เสียหน่อย เกิดมาจนอายุครบสิบแปดปี เธอไม่เคยห่างจากผู้เป็นยายเลย ตอนนี้ จู่ ๆ ก็ต้องห่างกัน แค่คิดเธอก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาแล้ว
เพียงไม่กี่ชั่วโมงนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพมาถึงเชียงใหม่ก็มีรถมารับชายหนุ่มกับหญิงสาวกลับไปที่บ้าน โดยบ้านที่นี่ของคณากรเป็นบ้านปูนแนวโมเดิร์นสมัยใหม่ ซึ่งไม่ได้อยู่ห่างจากร้านอาหารของเขาเลย
“ห้องเธออยู่ทางโน้น บอกไว้ก่อนนะ อยู่ที่นี่ฉันเป็นผู้ปกครองเธอ ถ้าเธอทำตัวไม่ดีโดนดีแน่!” ชายหนุ่มร้องขู่ ก่อนจะถกแขนเสื้อขึ้น พร้อมพ่นลมหายใจออกมา กว่าจะจบเรื่องนี้ เล่นเอาเขาเหนื่อยเป็นบ้า
“ลืมบอกไปที่นี่ไม่มีแม่บ้าน ปกติจะมีคนมาทำความสะอาดบ้านอาทิตย์ละสองครั้ง แต่ตอนนี้ฉันยกเลิกแล้ว เพราะต่อไปหน้าที่พวกนี้เธอต้องรับผิดชอบ คงไม่คิดว่ามาอยู่ที่นี่จะได้นั่งกินนอนกินหรอกใช่ไหม?”
“หนูทราบค่ะ” เธอบอก เรื่องทำงานบ้านอะไรพวกนี้ เธอทำเป็นแต่เด็กแล้ว เพราะยายเธอเป็นคนสอน อีกอย่างเธอก็ไม่ได้คิดว่าจะมาอยู่นั่งกินนอนกินเหมือนที่ชายหนุ่มว่าไว้ คณากรยักไหล่ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาหรู
“ไปเอาน้ำมาให้กินหน่อย เหนื่อยเป็นบ้า” มะลิวัลย์พยักหน้า ก่อนจะมองหาทางไปห้องครัว เธอเดินไปหยิบน้ำเย็นที่อยู่ในตู้มาให้ชายหนุ่มอย่างว่าง่าย แหงสิ เธออยู่ในความปกครองของเขานี่นา
“นั่งลงก่อน ฉันมีข้อตกลงที่จะบอกให้เธอรับรู้” มะลิวัลย์ยอมนั่งลงโซฟาอีกทางด้านของคณากรอย่างว่าง่าย ทำให้ชายหนุ่มเผยสีหน้าพอใจออกมาที่เห็นคนตัวเล็กทำทุกอย่างที่เขาสั่ง
“เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอ” มะลิวัลย์พยักหน้ารับรู้ เธอเองก็ไม่ได้อยากแต่งเหมือนกัน แต่ที่แต่งเพราะความจำเป็นต่างหาก
“ฉันไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายชีวิตฉันมาก เธอควรจะรู้ไว้ นอกจากหน้าที่ในบ้านที่เธอต้องทำ นอกนั้นเธอห้ามยุ่งวุ่นวายกับฉัน ฉันจะให้ค่าใช้จ่ายเธอทุกเดือน เดือนละหมื่น คงพอสำหรับเด็กมัธยมปลายอย่างเธอนะ”
“พอค่ะ” คนตัวเล็กบอก สำหรับเธอมันเยอะมากกับเงินที่ชายหนุ่มบอกออกมา คณากรยังจำคำพูดของคนเป็นมารดาได้อย่างดี ยิ่งคิดก็ยิ่งเบื่อหน่ายที่เขาต้องเลี้ยงดูเด็กคนนี้ ไหนจะค่าเทอม ค่าเรียน ค่าใช้จ่ายรายเดือนอีก หาเหาใส่หัวชัด ๆ
“แต่ถ้าเธอทำผิดหรือทำตัวไม่ดี ฉันจะหักค่าใช้จ่ายของเธอ”
“ทำตัวไม่ดีนี่แบบไหนคะ?” เธออยากรู้ ไม่ใช่ว่าพอชายหนุ่มไม่พอใจ เขาก็จะหักเงินเธอจนหมดหรอกนะ
“ขัดคำสั่งฉันทุกอย่าง นี่คือการทำตัวไม่ดี” ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด แบบนี้เธอต้องทนทำตามคำสั่งเขาทุกอย่างเลยสินะ คนเจ้าเล่ห์ มันน่ากระโดดทุบหัวนัก มะลิวัลย์คิดในใจ แต่ก็ต้องทำหน้าเรียบนิ่งออกมา
“ทำหน้าแบบนี้คืออะไร แอบด่าในใจ?”
“ปะ เปล่านะคะ หนูไม่ได้ว่าคุณเสียหน่อย”
“เหรอ เชื่อตายแหละ อ๋อ มีอีกอย่างที่ฉันอยากจะบอก อยู่ที่นี่ไม่ต้องบอกใครว่าเธอเป็นอะไรกับฉัน เข้าใจไหม?”
“เข้าใจค่ะ” เธอไม่อยากถามอะไรมากมาย คณากรไม่ต้องการจะบอกให้ใครรับรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขา เธอก็ไม่อยากพูดเหมือนกัน มีใครที่ไหนอยากบอกชาวบ้านไปทั่วว่าตัวเองแต่งงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ พอได้คุยแบบนี้มะลิวัลย์ก็สบายใจขึ้นมาอยู่มาก ทนเรียนให้จบ เธอจะได้มีงานดี ๆ ทำ มีเงินเดือนที่พอจะเลี้ยงยายได้ แค่นั้นล่ะเป้าหมายในชีวิตของเธอ
เช้าของวันใหม่
หญิงสายวันแรกแย้มตื่นตั้งแต่เช้าตามเคยชินที่เธอมักจะต้องตื่นมาทำกับข้าวกับปลาให้ยาย มะลิวัลย์เดินลงมาจากห้องนอนเล็กที่ตอนนี้เป็นที่ส่วนตัวของเธอไปแล้ว เมื่อคืนกว่าหญิงสาวจะหลับก็เลยเที่ยงคืนเสียแล้ว เธออดคิดถึงหญิงชราไม่ได้ ป่านนี้ไม่รู้จะทำอะไรอยู่ มะลิวัลย์เข้าครัวทำอาหารตามวัตถุดิบที่คณากรให้คนไปซื้อมาให้
เพียงไม่นานอาหารเช้าแบบง่าย ๆ ก็ถูกจัดเรียงขึ้นไว้บนโต๊ะอาหาร ก่อนที่แววตาคู่สวยจะหันไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ เมื่อเห็นว่าตอนนี้เช้ามากแล้ว คนตัวเล็กที่กำลังก้าวเท้าขึ้นไปตามคณากรในห้อง แต่ก็ต้องชะงัก ก่อนจะฉุดคิดถึงคำพูดของชายหนุ่มก่อนหน้านี้
“รอให้ลงมาเองดีกว่า ชิ!”