บทที่2 ตระกูลหลิว
“ออกมาเดี๋ยวนี้นะเจ้าเด็กหัวขโมย ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ข้างในถ้าไม่ออกมาข้าจะพังกระท่อมเก่าๆ ของเจ้าให้ราบเลยคอยดู”
เจิ้งซูอี้เลิกคิ้วมองหลิวซีฮันเล็กน้อย เขาย่นคอเหมือนเต่าด้วยความหวาดกลัวทำเอาเจิ้งซูอี้หัวเราะออกมาอย่างขบขัน
นางรับไข่ไก่มาจากเด็กชายจากนั้นจึงลุกจากเตียงออกไปดูสถานการณ์ด้านนอก หวังเจียอี๋มารดาของหลิวอันอันและหลิวซีฮันกำลังโดนแม่เฒ่าจางท่านย่าของเด็กทั้งสองใช้ไม้ไผ่ลำเท่าท่อนแขนกระหน่ำตีไม่ยั้ง หวังเจียอี๋ทำได้แค่ใช้มือกุมหัวขดตัวเอาด้านหลังรับแรงกระแทก เจิ้งซูอี้เดินเข้าไปคว้าไม้ไผ่ในมือแม่เฒ่าจางโยนทิ้งจากนั้นรีบไปพยุงหวังเจียอี๋ที่นอนขดอยู่ที่พื้น
“ออกมาแล้วหรือเจ้าพวกเด็กสารเลว กล้าบังอาจขโมยไข่ไก่ของข้าไปวันนี้ข้าจะตีพวกเจ้าให้ตาย”
เจิ้งซูอี้มองหัวของหวังเจียอี๋ที่มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด นางก็ตวัดหางตามองไปที่แม่เฒ่าจางทันที
“ไข่นี่ใช่หรือไม่ที่ทำให้ท่านถึงกับต้องตีคนเกือบตาย ไก่ทั้งหมดก็ล้วนเป็นคนบ้านข้าที่ดูแลเลี้ยงดูให้อาหารมันแล้วเหตุใดพวกข้าถึงกินมันไม่ได้ ยายเฒ่าท่านรู้หรือไม่ว่าฆ่าคนตายต้องชดใช้ด้วยชีวิตทำร้ายผู้อื่นก็ต้องติดคุกเช่นกัน นี้ไข่ของท่านจากนี้ก็เตรียมตัวไปพบกันที่ศาลที่ว่าการอำเภอได้เลย”
เจิ้งซูอี้ปาไข่ต้มไปที่แม่เฒ่าจางจากนั้นนางจึงพูดออกมายาวเหยียด ทั้งแม่เฒ่าจางและชาวบ้านที่มามุงดูถึงกับเงียบไปตามๆ กันเพราะไม่เข้าใจว่านางพูดเรื่องอะไร แต่ที่พวกเขาพอจะฟังออกคือฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิตแม่เฒ่าจางหดคอด้วยความหวาดหวั่น แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนที่พูดคือหลานนอกไส้ของนาง นางก็กลับมาพองขนอีกครั้ง
“หน็อยแน่นางเด็กปากดีเจ้าคิดว่าข้าจะกลัวอย่างนั้นหรือ ข้าตีพวกเจ้าแม่ลูกตายแล้วอย่างไร ถึงอย่างไรพวกเจ้าก็เป็นคนสกุลหลิวของข้าคิดว่าพูดข่มขู่ข้าเช่นนี้แล้วข้าจะกลัวหรือ”
เจิ้งซูอี้ส่ายหัวให้กับความไร้เหตุผลของนาง คนที่ไม่ได้รับการศึกษานั้นส่วนมากจะเป็นเช่นนี้ เจิ้งซูอี้หันไปประจันหน้ากับแม่เฒ่าจาง
“เช่นนั้นมาลองดูกันสักตั้งดีหรือไม่”
สายตาที่แน่วแน่บ่งบอกว่านางเอาจริงของเจิ้งซูอี้ที่กำลังมองมายังแม่เฒ่าจางทำให้นางรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ
“เกิดอะไรขึ้น เหตุใดพวกท่านจึงพากันมาชุมนุมที่หน้าเรือนของข้าเช่นนี้”
เสียงทุ้มดังมาจากทางด้านหลัง ชายวัยกลางคนอายุราวสามสิบกว่ากำลังแหวกฝูงชาวบ้านตรงเข้ามา ภาพที่เห็นคือภรรยาของเขานั่งหัวแตกเลือดอาบอยู่ที่พื้นข้างๆ กันมีบุตรชายคนเล็กของเขากำลังกอดมารดาร้องไห้ เขาตวัดสายตามองไปยังต้นเรื่องคือแม่เฒ่าจางที่กำลังยืนประจันหน้าอยู่กับบุตรสาวคนโต
“อันอันเกิดอะไรขึ้น”
หลิวตงจวิ้นถามบุตรสาวที่ยืนอยู่ไม่ไกล เจิ้งซูอี้หันไปมองชายวัยกลางคนที่ผิวคล้ำแดดเหมือนทำงานกลางแจ้งมาเป็นเวลานาน บิดาของหลิวอันอัน เจิ้งซูอี้ยังไม่ทันตอบแต่เป็นแม่เฒ่าจางที่เป็นคนโวยวายขึ้นมาก่อน
“หลิวตงจวิ้นเจ้าบุตรอกตัญญูเจ้าเลี้ยงดูลูกของเจ้าอย่างไรให้เป็นหัวขโมยเช่นนี้ เจ้าเด็กสารเลวนั่นบังอาจแอบขโมยไข่ไก่ที่ข้าเก็บเอาไว้ให้เฉิงเอ๋อกิน”
หลิวตงจวิ้นมองไปที่แม่เฒ่าจางด้วยสายตาผิดหวัง
“ท่านแม่เพียงแค่ไข่ไก่ฟองเดียวท่านถึงกับตีอาอี๋หัวแตกมันไม่เกินไปหน่อยหรือขอรับ”
หลิวตงจวิ้นเดินมาขวางระหว่างเจิ้งซูอี้กับแม่เฒ่าจางเพราะเกรงว่านางจะทำร้ายบุตรสาวเพียงคนเดียวของเขาดั่งเช่นที่ผ่านมา เจิ้งซูอี้มองหลิวตงจวิ้นด้วยท่าทางครุ่นคิด ดูเหมือนว่าบิดาที่ไม่ได้เรื่องของเด็กคนนี้ก็ยังพอมีความดีอยู่บ้าง เจิ้งซูอี้รอดูว่าเขาจะจัดการกับแม่เฒ่าผู้ร้ายกาจคนนี้อย่างไร
“เจ้าลูกอกตัญญู ข้ากับตาเฒ่าเลี้ยงเจ้ามาด้วยความยากลำบากแต่เจ้ากลับพูดเช่นนี้กับแม่ของเจ้าหรือถึงเจ้าจะไม่ใช่ลูกชายแท้ๆ ของข้าแต่เราก็ไม่เคยปล่อยให้เจ้าต้องอดอยาก สวรรค์เหตุใดท่านถึงให้คนเช่นนี้มาอยู่กับข้าเหตุใดถึงได้ทำร้ายตระกูลหลิวเช่นนี้”
แม่เฒ่าจางนั่งลงเอาเท้ายันดินไปมาเพื่อเรียกร้องความสนใจจากชาวบ้าน ทั้งยังตีอกชกตัวหาว่าสวรรค์ไม่เมตตาตระกูลหลิว เจิ้งซูอี้ยืนกอดอกพิงกรอบประตูมองการแสดงที่แม่เฒ่าจางกำลังเล่น วันๆ นางใช้ชีวิตอยู่แต่ในกองทัพได้ดูงิ้วเช่นนี้ก็เพลิดเพลินไปอีกแบบ
“ท่านแม่ท่านกำลังทำอะไร ข้าไม่ได้ต่อว่าท่านแต่ว่า..”
หลิวตงจวิ้นคนซื่อมีหรือจะเถียงทันแม่เฒ่าจาง เขาทำได้เพียงส่งเสียงอึกอักออกมาอย่างจนใจ เป็นบุรุษต่อปากกับสตรีนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าดูนัก
“หุบปากเจ้าคนอกตัญญู คอยดูว่าวันนี้ข้าจะจัดการครอบครัวเจ้าอย่างไร อาเซียงไปเชิญหัวหน้าหมู่บ้านกับตาเฒ่ามาวันนี้ข้าจะตัดหลิวตงจวิ้นออกจากตระกูลหลิว”
สิ้นคำแม่เฒ่าจางชาวบ้านถึงกับตกใจกับสิ่งที่นางพูด เพียงไข่ไก่ฟองเดียวถึงกับตัดเขาออกจากตระกูลเชียวหรือ แม่เฒ่าจางไม่ทำเกินไปหน่อยใช่หรือไม่ จางซานเหนียงหลานสาวจากบ้านเดิมของแม่เฒ่าจางที่แต่งงานกับบุตรชายคนโตของนางหลิวตงหัวรีบทำตามที่แม่เฒ่าจางบอกทันที