บทที่ 5 เธอกับครอบครัวต้องชดใช้!
“จอดให้ฉันลงเดี๋ยวนะ!”
“ฉันจอดแน่ ถ้าถึงที่หมาย” แต่แทนที่อคิราห์จะจอด กลับเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆจนปรางปรีญาแทบนั่งไม่ติด เอาแต่หลับตาปี๋ “ทำไม กลัวหรอ”
“คุณก็รู้ว่าฉันไม่ชอบให้คุณขับรถเร็ว”
“แล้วยังไง มันเป็นอดีตไปแล้ว ฉันไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเธอจะรู้สึกยังไง ในเมื่อเธอกับครอบครัวหักหลังฉันก่อน!” อคิราห์ตวัดตาดุจัดมองอีกฝ่ายด้วยแววตาแดงก่ำที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น
ปรางปรีญากลัวจนน้ำตาเอ่อคลอและกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูทั้งๆที่รถกำลังแล่นด้วยความเร็วสูง ทำให้อคิราห์รีบหักพวงมาลัยจอดข้างทางกะทันหันแล้วเอื้อมมือไปกระชากต้นแขนเล็กเข้ามาหาตัวจนใบหน้าเนียนสวยทิ่มกับแผงหน้าอก
“ทำบ้าอะไรของเธอ!!”
“ฉันบอกให้คุณจอด ฉันไม่อยากไปกับคุณ”
“อยากตายนักใช่ไหม ห้ะ!” อคิราห์ตะคอกเสียงดังลั่น พร้อมกับใช้มือตะปบเข้าที่ปลายคางมน ออกแรงบีบจนอีกฝ่ายนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด “ถ้าเธออยากตายนัก ฉันจะทำให้เธอได้ตายอย่างสมใจ”
“ปล่อยนะ คุณไม่มีสิทธิ์มาทำกับฉันแบบนี้!”
“ของมันเคยๆกันแล้วจะอายทำไม”
“แต่เรายังไม่เคยมีอะไรกัน!” ปรางปรีญารวบรวมแรงทั้งหมดปัดมือของเขาออก รีบพาตัวเองลงไปจากรถ แต่ยังไม่ทันที่เท้าจะก้าวลงไปเหยียบบนพื้น ร่างของเธอก็ลอยหวือกลับมาที่เดิมด้วยน้ำมือของอคิราห์
“ถ้างั้นก็มีสิ เพราะฉันจ่ายให้เธอไม่อั้น”
“ปล่อยนะ….อื้อ! อุ๊บ!!”
ประโยคนั้นกลืนหายเข้าไปในลำคอทันที อคิราห์กระแทกริมฝีปากเข้ามาแล้วดูดูดดื่มอย่างรุนแรง บดขยี้ริมฝีปากเล็กราวกับจะฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง
แม้จะพยายามต่อสู้ขัดขืนแต่เธอก็ไม่อาจต้านทานแรงมหาศาลของชายร่างสูงได้ หนำซ้ำมือร้ายของเขายังเคลื่อนมาบีบขย้ำหน้าอกอวบอย่างรุนแรง ทำให้หยาดน้ำตาที่กักเก็บไว้ตั้งแต่อยู่ในงานไหลทะลักออกมาอย่างสุดจะกั้น
เขาไม่มีทางรู้ว่าตอนนี้เธอเป็นห่วงน้าสาวมากแค่ไหน ถ้าเกิดว่าท่านเป็นอะไรไป ชีวิตของเธอก็ไม่เหลือใครอีกแล้ว
ผลัก!
ในที่สุดเธอก็ผลักอคิราห์ออกจากร่างได้สำเร็จก่อนที่เขาจะเคลื่อนมือลงไปยังกลีบกุหลาบอันแสนหวงแหน
“คนเลว!”
เพี้ยะ!!
เสียงฝ่ามือเรียวกระทบเข้าที่ใบหน้าของอคิราห์อย่างแรงจนหน้าหัน มันคือการบันดาลโทสะที่เขาเอาแต่ดูถูกเหยียดหยาม เหมือนที่เขาทำกับร่างกายของเธอเมื่อสักครู่
“นี่เธอกล้าตบหน้าฉันหรอปรางปรีญา!” เขาหันหน้ากลับมาด้วยความโกรธจัดพรางยกมือเช็ดเลือดออกจากมุมปาก ก่อนจะผลักร่างเล็กกลับไปที่เบาะเหมือนเดิม “รู้ไหม ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าตบหน้าฉัน”
“ที่ฉันตบเพราะคุณกำลังทำร้ายฉันต่างหาก” ปรางปรีญายกมือปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างลวกๆ รสจูบของเขายังคงติดอยู่บนริมฝีปากอยู่เลย
“ฉันเป็นลูกค้าของเธอนะ และฉันจ่ายเธอไม่อั้น”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว ถ้าหิวนักทำไมไม่ไปหาคุณแพรขวัญล่ะ”
“ฉันก็แค่อยากลิ้มรสผู้หญิงต่ำๆดูว่าจะแน่สักแค่ไหน จะได้สักครึ่งของแพรขวัญหรือเปล่า”
“…” ปรางปรีญานิ่ง ไม่กล้าต่อล้อต่อเถียงเพราะตอนนี้อคิราห์ถือไพ่เหนือกว่า เถียงไปยังไงก็แพ้อยู่ดีในเมื่อเธอติดหนี้เขาอยู่
“เงียบทำไม หรือรู้ตัวว่าสู้แพรขวัญไม่ได้”
“ฉันสู้ผู้หญิงมากมายในสต็อกของคุณไม่ได้หรอกค่ะ ฉันมันชั้นต่ำ ไม่ได้สูงส่ง เพราะฉะนั้นช่วยวนรถกลับไปส่งฉันด้วยค่ะ”
“ฉันไม่เสียเวลาวนรถกลับไปส่งผู้หญิงต่ำๆอย่างเธอหรอก เว้นแต่....เธอจะเดินกลับไปเอง” เขาพูดห้วนๆเหมือนกำลังหงุดหงิดที่ถูกอีกฝ่ายตบจนเลือดกลบปาก “อยากกลับไม่ใช่หรอ ลงไปสิ!”
เขาส่งเสียงไล่อีกครั้ง มือเล็กรีบเอื้อมไปเปิดประตูแล้วพาตัวเองออกไปจากตรงนี้โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายืนอยู่ที่ไหน ต่อให้ที่ตรงนี้จะมืดแค่ไหนก็ตาม แต่นั่นก็ยังไม่มืดดำเท่ากับหัวใจของอคิราห์
“อย่าคิดนะว่าประชดประชันแล้วฉันจะกลับมารับ เธอคิดผิดแล้วปรางปรีญา”
สิ้นประโยคนั้นอคิราห์ก็พุ่งทยานรถผ่านหน้าไป ทิ้งให้เธอยืนอยู่คนเดียวบนถนนอันแสนเปลี่ยน ปรางปรีญาร่ำไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัวรีบหยิบมือถือโทรเรียกแท็กซี่
ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาหันไปมองไฟท้ายรถที่ค่อยๆหายลับไปท่ามกลางความมืดมิด
แต่สิ่งที่อคิราห์โดนมันก็สาสมแล้วไม่ใช่หรอ ในเมื่อเขาเป็นฝ่ายทำร้ายเธอก่อน
“คนใจร้าย ฮึก…ฮรื้อ”
ทางฝั่งอคิราห์หลังขับรถออกไปได้สักพักก็ต้องเลี้ยวจอดข้างทางอีกรอบ สองมือใหญ่กำพวงมาลัยแน่น แววตาแข็งกร้าวนั้นเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
เขาจะไม่มีวันวนรถกลับไปเด็ดขาด จะไม่มีวันใจอ่อนให้กับผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว
“ฉันเกลียดเธอปรางปรีญา!”
มือใหญ่ทุบพวงมาลัยหลายครั้งราวกับกำลังระบายความเคียดแค้น ครั้งหนึ่งเขาเคยรักผู้หญิงคนนั้นมาก ให้เกียรติทั้งต่อหน้าและลับหลัง ไม่เคยล่วงเกินแต่อย่างใด หลงใหลในความงดงามความน่ารักไร้เดียงสาของหญิงสาว ทั้งๆที่สิ่งนั้นมันก็แค่ภาพลวงตา
ปรางปรีญาแกล้งทำตัวเป็นใสซื่อให้ครอบครัวของเขาเชื่อจนสนิทใจถึงขั้นอยากหมั้นหมายเอาไว้ โดยไม่มีใครรู้ว่าที่ทำไปทั้งหมดเพราะแค่อยากให้ทุกคนตายใจ ที่แท้ก็หวังยักยอกเงินในบริษัท หนำซ้ำคุณน้าของเธอยังแอบมาเป็นบ้านเล็กกับคุณลุงของเขาจนหลานๆต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า ซ้ำร้ายกว่านั้นก็คือพ่อของปรางปรีญาแอบยักยอกเงินมาตลอดสามปีเต็ม
ไม่คิดว่าคนที่รักและไว้ใจจะกล้าทำกันได้ถึงขนาดนี้ คำว่ารักที่เธอพร่ำบอกทุกวันมันคงเป็นแค่คำหลอกลวง เมื่อในใจของเธอเข้ามาหาเขาเพื่อผลประโยชน์ทั้งนั้น
“ทั้งๆที่ครอบครัวของฉันหวังดีกับเธอขนาดนี้ แต่เธอก็ยังทำได้ลงคอ”
จากความรักค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชัง ใช่! ครั้งหนึ่งเขาเคยรักเธอ แต่ตอนนี้ไม่มีความรักหลงเหลืออีกต่อไปแล้ว เมื่อความไว้ใจถูกทำลายจนย่อยยับและเขาจะไม่มีวันหลงกลผู้หญิงหน้าใสใจทรามแบบนี้อีกแล้ว
ในเมื่อเธอกับครอบครัวทำลายความรู้สึกของเขาก่อน เขานี่แหละจะเป็นคนตัดสินพวกมันเอง
“เธอกับครอบครัวต้องชดใช้!”