ทฤษฎีร้าย บทที่ 3 : ถูกบังคับ
“คุณพ่อคะ นาเดียคิดว่า...” เสียงแม่ของราฟาดังขึ้นด้วยความตกใจ แต่ทุกคนต่างเงียบ เพราะไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งท่านปู่
“เงียบนาเดีย...เดินออกไปจากห้องนี้ได้เลยถ้าแกยินดีทำตามสิ่งที่ปู่พูด”
“....” คนถูกท้าทายหยุดนิ่งอยู่กับที่ สายตาคมจ้องมองไปยังประตูบานใหญ่เบื้องหน้า
“แต่ถ้าไม่อยากหมั้นก็ได้ มีทางเดียวคือต้องเป็นอีกฝ่ายที่เป็นคนปฏิเสธการหมั้นครั้งนี้”
“แค่ทำให้ปฏิเสธก็จบใช่มั้ยครับ” ราฟาหันกลับมาถามทันทีที่ปู่ของเขาพูดจบ
“อือ”
“ได้ผมจะหมั้น...แล้วเธอจะเป็นฝ่ายปฏิเสธไปเอง” ราฟาพูดด้วยสีหน้ามั่นใจ เพราะเขามีวิธีจัดการเรื่องแบบนี้ได้ไม่ยาก
“พยายามเข้านะหลานชาย” คุณปู่เอนหลังพิงพนักเก้าอี้จ้องมองหลานชายที่เดินออกไป พร้อมผู้ดูแลส่วนตัวเดินตามเป็นขบวน
ปึง! ประตูห้องประทับปิดลงแล้วทุกสายตาก็จับจ้องมาที่ชายนั่งหัวโต๊ะ
“คุณพ่อก็รู้นี่ครับว่าราฟาสามารถจัดการเรื่องแค่นี้ได้ไม่ยาก”
ผู้เป็นพ่ออย่างเขาก็รู้นิสัยลูกชายคนเล็กดี ราฟาแตกต่างจากพี่ชายเพราะรายนั้นสั่งให้ทำอะไรก็จะทำตามทันทีโดยไม่มีข้อโต้แย้ง และยังอยู่ในฐานะรัชทายาทลำดับที่ 1 ได้เป็นอย่างดีมาตลอด ซึ่งแตกต่างจากราฟาที่ทำตามใจตัวเองทุกอย่าง ไม่มีใครบังคับหรือขัดใจได้สักคน แต่เหตุการณ์วันนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเราทุกคนจับให้เขามาทำตามคำสั่ง
“เธอไม่ปฏิเสธหรอก”
“ถ้างั้นก็คงเหมือนผู้หญิงทั่วไปสินะคะ ที่อยากมีชีวิตหรูหราในฐานะภรรยาของเจ้าชาย” มิร่า ลูกพี่ลูกน้องเจ้าชายราฟาพูดขึ้น เธอไม่ใช่เด็กนิสัยไม่ดี แต่คงไม่ชอบการถูกบังคับเหมือนกับราฟาจึงแสดงออกทางความคิด
“ไม่ใช่หรอกมิร่า ทางนั้นไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ และปู่กับเพื่อนเราเตรียมรับมือเรื่องนี้ไว้แล้วอย่างดี”
“แล้วถ้าทั้งคู่ต้องหมั้นกันจริง คุณปู่ไม่สงสารผู้หญิงคนนั้นเหรอคะพี่ราฟาน่ะไม่ใช่คนใจดีเลยนะ ดุได้ใครก็ไม่รู้” แม้แต่มิร่ายังเอ่ยปากพูด
“ราฟาก็นิสัยเหมือนปู่ไง” เสียงของลูกชาย หรือพ่อของราฟาแทรกขึ้นหลังจากเงียบอยู่นาน
“หึ...คู่หมั้นของราฟาก็นิสัยเหมือนปู่ตัวเองเหมือนกัน” เด็ดขาดและใจถึง กล้าได้กล้าเสีย และชนไม่เลือกหน้า ภายใต้รอยยิ้มที่ใช้หลอกล่อเหยื่อให้เข้ามาติดกับ
“การหมั้นนี่มันเกิดขึ้นจากอะไรคะ ทำไมปู่ยอมให้ผู้หญิงธรรมดาหมั้นกับพี่ราฟา” มิคาเอลฝาแฝดของมิร่าชะโงกหน้ามาถามด้วยความสงสัยอีกคน
“ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา แต่เป็นหลานของเพื่อนรักปู่ต่างหาก”
“ก็นั่นแหละค่ะมิคาเอลสงสัยนี่ แต่ถ้าจะให้คิดจริงๆ ก็น่าสงสารพี่ผู้หญิงคนนั้นนะคะ กลุ่มเพื่อนของพี่ราฟากับพี่ไดอาน่ามีแต่พวกไม่น่าคบ” พวกลูกมหาเศรษฐีทั้งหลายที่ทำตัวขวางโลกไปวันๆ เป็นกลุ่มคนที่บรรดาพระญาติอย่างพวกเธอไม่เคยจะอยากเข้าใกล้
“ลืมไดอาน่าไปเลย” เสียงพึมพำของท่านปู่ทำให้ทุกสายตาหันไปมอง ทายาทมหาเศรษฐีที่เมื่อได้เข้ามาอยู่กับราฟาก็วางอำนาจใส่พวกคนของราชวงศ์ แต่เพราะมีราฟาทำให้ทุกคนต่างต้องดูแลเธอไปด้วย บรรดาลูกพี่ลูกน้องไม่มีใครชอบไดอาน่าสักเท่าไรนัก
“ถ้าพ่อยิ้มแบบนี้...ผมเองก็รอวันที่ได้พบคู่หมั้นของลูกชายไม่ไหวแล้วครับ” คิงของจักรวรรดิ หรือพ่อของเจ้าชายราฟาเองยังรอคอยวันนั้น เพราะทุกคนรู้ดี และเชื่อในสายตาของท่านปู่ว่ามองคนได้ขาดมากแค่ไหน ทุกสิ่งที่ท่านเลือกย่อมเป็นเรื่องที่ดี
“นั่นสิ...หึ! จัดการประกาศเรื่องพระคู่หมั้นของเจ้าชายราฟา” สิ้นเสียงคำสั่งทุกฝ่ายรับทราบโดยพร้อมเพรียง
สัญญาการหมั้นถูกสร้างขึ้นระหว่างเขาทั้งสอง เพราะการพูดเรื่องอาถรรพ์ของตระกูล นุภาสากรณ์ ที่มีแต่ลูกหรือหลานผู้ชายมาตลอด จนวันนั้นที่เพื่อนของเขาพูดว่า
‘นุภาสากรณ์ไม่เคยมีลูกสาวหรือหลานสาวเลยมันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก แต่ถ้าหากมีหลานสาวมาเกิดเขาจะเปรียบให้เธอเป็นผู้เปลี่ยนแปลงตระกูล และนางฟ้าของนุภาสากรณ์’
เมื่อได้ยินเช่นนั้นตัวเขาเองจึงพูดเอาไว้เช่นกันว่า
‘ถ้าเป็นแบบนั้นจริงขอนางฟ้านุภาสากรณ์มาเป็นหลานสะใภ้ เพื่อให้หมั้นและแต่งงานกับรัชทายาทลำดับที่สอง’
ใครจะคิดว่าเพียงการพูดกันระหว่างเราทั้งสองจะล้างอาถรรพ์ของตระกูลได้จริง แล้วเธอจะไม่ใช่เพียงแค่เปลี่ยนแปลงตระกูล เพราะดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงหลานชายเจ้าปัญหาของเขาด้วย ก็นิสัยของเพื่อนเขาน่ะเห็นว่าหลานสาวได้รับมาหมดเต็มๆ ซึ่งจากการบอกเล่าก่อนที่จะจากไป เพียงเท่านี้ก็มองเห็นความสนุกในอนาคตแล้ว
(ทางด้านเจ้าชายราฟา)
“หาทางติดต่อผู้หญิงคนนั้นแล้วจัดการเรื่องนี้ซะ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยพูดขึ้นกับผู้ดูแลส่วนตัว ในขณะที่ก้าวเดินออกไปยังทางออก
“ได้ครับ” ยู หัวหน้าผู้ดูแลประจำพระองค์เจ้าชายราฟา หรืออีกตำแหน่งก็คือมือขวาถามขึ้นในขณะที่เขาเดินตามหลังมาติดๆ
“ยายนั่นอยากได้เท่าไรก็ให้เรียกมาแล้วกัน ฉันไม่มีปัญหา”
“ครับ แล้วเจ้าชายจะไปพบเธอด้วยมั้ยครับ” ยู หัวหน้าผู้ดูแลประจำพระองค์เจ้าชายราฟา หรืออีกตำแหน่งก็คือมือขวาถามขึ้นในขณะที่เขาเดินตามหลังมาติดๆ
กึก! เท้าที่กำลังก้าวเดินหยุดชะงัก ทำให้กลุ่มคนที่เดินตามหลังพากันหยุดตามไปด้วย ทุกสายตาจับจ้องมาที่เจ้านายของตัวเองที่หันหลังกลับมามองพวกเขา
“ฉันจำเป็นต้องลดตัวลงไปพบผู้หญิงแบบนั้นด้วยตัวเองเหรอ”
“ไม่จำเป็นครับ” ทุกเสียงตอบกลับพร้อมกัน แค่เรื่องเพียงเท่านี้ไม่จำเป็นต้องให้เขาลงมือด้วยตัวเองสักนิด ก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
(ด้านอลิส)
ณ ค่ายมวยและสถาบันสอนศิลปะป้องกันตัวภายใต้การดูแลของพี่กร
ตุบ ตุบ ตุบ !
เสียงเตะกระสอบทรายดังขึ้นไม่หยุด ทุกสายตาจากนักมวยที่กำลังฝึกซ้อมจ้องมองไปยังร่างบางที่กำลังใช้ขาเรียวเตะกระสอบทรายเต็มแรงไม่หยุด ผมยาวสีบลอนด์ถูกรวบม้วนไว้กลางหัว เสื้อกล้ามชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“เตะให้ขาหักก็หนีเรื่องนี้ไม่พ้นหรอก” เสียงของพี่กรดังขึ้นหลังจากที่เขาเดินออกไปรับสายบรรดาญาติผู้ใหญ่ที่โทร. เข้ามาไม่หยุด
ตุบ! เท้าเล็กถีบเข้าที่กระสอบทราบอีกครั้งเป็นการระบายอารมณ์
“แฮก! คนพวกนั้นจะไม่ให้เวลาอลิสคิดเลยหรือไง!” รู้ว่าอยากได้เงิน ต้องการสิ่งที่คุณปู่มอบให้ แต่ก็ไม่นึกถึงจิตใจฉันกันเลยสินะพวกคนหิวเงิน!
“เขากลัวใจอลิสกันไง ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ญาติดีกันเท่าไร พอมาตอนนี้ทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินเพียงครั้งเดียวของอลิส ก็ทำให้พวกลุงๆ เขาก็กลัวกันจนไม่เป็นอันทำอะไร” พี่กรปีนขึ้นมาเกาะเชือกเวทีแล้วยืนพูดด้วยใบหน้ายิ้ม
“แล้วพี่กรนัดลุงทนายให้อลิสยัง” ถึงจะพึ่งแยกย้ายกันแต่ก็นัดคุยเป็นการส่วนตัวอีกที ฉันจำเป็นต้องหาคนมาปรึกษาเรื่องนี้ก่อนจะทำอะไร เผื่อมันจะมีวิธีที่สามารถแก้ไขได้
“นัดแล้ว”
“ย้ำลุงทนายมั้ยว่าให้มาคนเดียว” ฉันเขย่าเชือกเป็นเร่งให้พี่กรรีบตอบคำถาม
“ย้ำ แต่ลุงทนายก็เล่าให้ฟังนะว่าพวกบรรดาญาติต่างติดต่อหาเขาไม่หยุดว่าให้ทำยังไงก็ได้ให้อลิสหมั้น”
“....” มือเล็กกำเชือกแน่นจนพี่กรต้องเอื้อมมือมาแตะเพื่อทำให้ฉันรู้สึกใจเย็น
“พี่เข้าใจอลิสว่ากำลังกดดันมากแค่ไหน แต่เราก็รู้ว่าคนพวกนั้นต้องการอะไรมากที่สุด เอาแบบนี้เดี๋ยวให้ลุงทนายหาทางติดต่อแล้วเรามาตกลงกัน ถ้าสามารถยุติการหมั้นได้ทุกอย่างก็น่าจะจบ”
“นั่นแหละสิ่งที่อลิสคิด”
“วันนี้วันเกิดนะ ทำใจสบายสักหน่อยแล้วไปฉลองวันเกิดมั้ย”
“ไม่มีอารมณ์หรอก วันเกิดอลิสก็แค่วันธรรมดาเอง” ใครมันจะไปสงบได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้
“แล้วไม่มีนัดเพื่อนไปฉลองวันเกิดหรือไง”
“ไม่มีค่ะ โซติดงานอยู่ต่างประเทศยังไม่กลับเลย” แต่ยายนั่นก็ให้ของขวัญไว้ก่อนที่เดินทางไปแล้วแหละ
“ตัวคนเดียวจริงๆ สินะอลิสเนี่ย ถ้าเพื่อนไม่ว่างก็เหงาเลย”
“ไม่เหงาหรอก แบบนี้แหละที่อลิสชอบ แต่ถึงจะชอบอยู่คนเดียวยังไงแต่ดูท่าอีกหน่อยจะใช้ชีวิตแบบสงบไม่ได้แล้ว เฮ้อ!” พูดจบก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
เข้าใจสาเหตุที่คุณปู่ไม่ยอมเปิดพินัยกรรมตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะมีเรื่องแบบนี้นี่เอง มีหวังได้ตีกับฉันตายกันไปข้าง แต่เมื่อมันถูกเปิดออกมาเป็นแบบนี้ แทบไม่มีทางอื่นเลยนอกจากหมั้น บรรดาญาติก็ต่างรอเงินมรดกกันทั้งนั้น
“พี่แอบไปไล่หาประวัติของเจ้าชายลำดับที่สองแห่งจักรวรรดิมา มันน่าแปลกที่เขามีเพียงชื่อ แต่ไม่มีรูปเลยแม้แต่ภาพเดียว ช่วงเด็กก็ไม่มี ปัจจุบันก็ไม่มี”
“เขาคงไม่ชอบให้ใครวุ่นวายมั้งหรือไม่ก็...ไม่หล่อ”
“เหมือนการ์ตูนตอนเด็กที่เราดูอะไรแบบนี้เหรอ”
“แต่ช่างเขาเถอะ เพราะยังไงการหมั้นก็ไม่เกิดขึ้น เดี๋ยวก็ตกลงกับทางนั้นได้” พูดจบก็เดินหันหลังกลับไปจ้องมองกระสอบทราบกลางเวที
“ไปมองมันแล้วนึกถึงหน้าใครล่ะนั้น ว่าที่คู่หมั้นตัวเองก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเห็นตาด้วยซ้ำ” พี่กรถามขึ้น
“หน้าปู่ต่างหาก!”
ตุบ ตุบ ตุบ!
หมัดเล็กปล่อยใส่กระสอบเพื่อระบายความอัดอั้นในใจ ท่ามกลางสายตาของทุกคนอีกเช่นเคย เป็นเรื่องปกติที่ฉันจะมาออกกำลังที่นี่ หรือมาระบายในช่วงอารมณ์ไม่ดี ไม่ถนัดมีเรื่องกับใครถ้าไม่จำเป็น แต่ถนัดต่อยกระสอบทรายอย่างเดียว